ปมความขัดแย้งระว่าง 2 ขั้วอำนาจในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้ง่ายๆ หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างจัดงานประชุมคณะกรรมการ สอท. หรือ “กส.” ในวันเวลาเดียวกันแต่สถานที่จัดงานแตกต่างกัน พร้อมกับระดมสมาชิกในสังกัดให้มาประชุม ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2555 สร้างความมึนงงให้กับสมาชิก สอท.ทั่วประเทศ แถมยังบังคับให้ต้องเลือกข้าง
ในการประชุมคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1/2556 (8) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556 มีการบรรจุวาระปรับความเข้าใจในการทำงานเสนอให้ที่ประชุม กส. พิจารณา เพื่อยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน สอท. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน สอท. จึงเชิญนายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ สอท.ให้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
งานประชุม กส. ครั้งนี้จัดขึ้นที่บริเวณโซนซี ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตำรวจหลายสิบนายมาดูความสงบเรียบร้อย ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น. นายพยุงศักดิ์เดินตรงเข้าไปทักทายจับไม้จับมือกับนายธนิตบริเวณที่หน้าจุดลงทะเบียน บรรยากาศก่อนการประชุมวาระปรองดอง ดูเสมือนทุกอย่างจะราบรื่น จากนั้นทั้งคู่ก็พากันเดินเข้าสู่ห้องประชุม ซึ่งไม่เปิดให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ
ประชุมไปได้สักพัก กลุ่มสมาชิก สอท. ต่างจังหวัดที่สนับสนุนนายธนิตทยอยเดินออกจากที่ประชุม เวลา 16.00 น. นายธนิตได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า “ผลการหารือเพื่อยุติความขัดแย้งใน สอท. วันนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันว่าจะแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมความสัมพันธ์ สอท. โดยส่งตัวแทนฝ่ายละ 5 คน มาเจรจาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งใน สอท. ซึ่งมีอยู่หลายทางเลือก อาทิ นายพยุงศักดิ์ดำรงตำแหน่งไปจนครบวาระ ส่วนกรรมการที่ถูกปลดหรือย้ายให้บรรจุกลับเข้าไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม ทางเลือกที่ 2 นายพยุงศักดิ์หรือนายธนิตลาออก แล้วแต่งตั้งคนกลางขึ้นมาทำหน้าที่ประธาน สอท. ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธาน สอท.คนใหม่”
ทั้ง 2 ฝ่ายได้ส่งตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการร่วมความสัมพันธ์ สอท.ฝ่าย 5 คน ฝั่งของนายพยุงศักดิ์ ประกอบด้วย 1. นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สอท. 2. นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน สอท. 3. นายเจน นำชัยศิริ รองประธาน สอท. 4. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองประธาน สอท. และ 5. นายนิกร สุศิริวัฒนนนท์ รองประธาน สอท.
ตัวแทนของนายธนิตประกอบด้วย 1. นายสิงห์ ตั้งเจริญชัยชนะ ประธาน สอท. ภาคกลาง 2. นายเอกพร โฆษะครรชิต ประธาน สอท. ภาคตะวันออก 3. นายสุทิน พรชัยสุรีย์ รองเลขาธิการและประธาน สอท. ภาคใต้ 4. นายนิมิตร งามยิ่งไพศาล รองประธาน สอท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 5. นายวีระยุทธ สุขวัฑฒโก รองประธาน สอท. กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยคณะกรรมการชุดนี้ต้องหาข้อสรุปให้ได้ภายใน 10 วัน
หลังจากที่นายธนิตเสร็จจากการแถลงข่าว กลุ่มกรรมการ สอท. สายต่างจังหวัดที่สนับสนุนนายธนิตได้ไปลงนามถอนชื่อออกจากการประชุม กส. ที่จุดลงทะเบียน เนื่องการการประชุม กส. ครั้งนี้มีการบรรจุวาระมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท เข้ามาด้วย
ตามระเบียบของ สอท. จะเปิดประชุม กส. ได้จะต้องมีการกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 174 คน หรือครึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด 348 คน การประชุม กส. ครั้งนี้มีกรรมการ สอท. มาประชุม 267 คน ถือว่าครบองค์ประชุม
แต่เนื่องจากมีการบรรจุวาระอื่นนอกเหนือจากวาระปรองดอง ทางกลุ่มของนายธนิตจึงต้องไปถอนชื่อออกจากการประชุม เพื่อทำให้การรับรองมติในที่ประชุม กส. ในวันนี้ไม่มีผลบังคับใช้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ
ระหว่างที่กลุ่มของนายธนิตไปลงนามถอนชื่อออกจากการประชุมที่จุดลงทะเบียน บังเอิญพบว่าเจ้าหน้าที่ของ สอท. กำลังติดอากรแสตมป์ที่หนังสือมอบอำนาจ กลุ่มสมาชิกที่สนับสนุนนายธนิตจึงนำเอกสารหนังสือมอบอำนาจพร้อมกับอากรแสตมป์จากเจ้าหน้าที่ สอท. มาแสดงต่อสื่อมวลชน จึงเกิดความวุ่นวายและมีการโต้เถียงกันระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนนายพยุงศักดิ์กับกลุ่มของนายธนิต
โดยกลุ่มของนายธนิตรายหนึ่งกล่าวว่า “ปกติการทำหนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนบริษัทที่มาประชุมจะต้องมีการแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหนังสือรับรองจากบริษัท พร้อมกับติดอากรแสตมป์มาให้พร้อมก่อนที่จะมาลงทะเบียนการประชุม เอกสารหนังสือมอบอำนาจทั้ง 27 ราย มีหนังสือมอบอำนาจเพียงใบเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่สมบูรณ์ การลงทะเบียนหรือลงมติใดถือเป็นโมฆะ”
จากนั้น ในเวลา 17.00 น. นายพยุงศักดิ์เชิญสื่อมวลชนเพื่อแถลงข่าวโดยกล่าวว่า “การประชุม กส. ในวันนี้มีกรรมการเข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 267 คน จากกรรมการทั้งหมด 348 คน ถือว่าครบองค์ประชุม และในการประชุม ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมความสัมพันธ์ สอท. ฝ่ายละ 5 คน เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งของ สอท.”
กรณีที่ฝ่ายของนายธนิตกล่าวหาว่า หนังสือมอบอำนาจผู้มาประชุม 27 ราย ไม่สมบูรณ์นั้น นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน สอท. ชี้แจงว่า การประชุมตามกฎหมายวันนี้ถือว่ามีผลถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ มีกรรมการเข้าร่วมประชุม 267 คน ถือว่าครบองค์ประชุม ส่วนเรื่องการทำหนังสือมอบอำนาจให้ตัวแทนเข้าร่วม ตามประเพณีปฏิบัติของ สอท. ไม่จำเป็นต้องแนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หรือใบรับรองจากบริษัท ส่วนเรื่องการติดอากรแสตมป์นั้นเป็นบริการของเจ้าหน้าที่ สอท.