ThaiPublica > เกาะกระแส > ปฏิบัติการมื้อเที่ยง “นายใหญ่” เช็คปฏิกิริยากองทัพ – เคลียร์ใจ “บิ๊กทหาร-บิ๊กตำรวจ”

ปฏิบัติการมื้อเที่ยง “นายใหญ่” เช็คปฏิกิริยากองทัพ – เคลียร์ใจ “บิ๊กทหาร-บิ๊กตำรวจ”

8 ธันวาคม 2011


มื้อเที่ยงนอกรอบ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยระหว่าง “บิ๊กกองทัพ” กับ “บิ๊กตำรวจ”
มื้อเที่ยงนอกรอบ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยระหว่าง “บิ๊กกองทัพ” กับ “บิ๊กตำรวจ”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก บนรถยานเกราะล้อยาง บีทีอาร์ - 3 อี 1
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก บนรถยานเกราะล้อยาง บีทีอาร์ - 3 อี 1

ความขัดแย้งระหว่าง “ทหาร – ตำรวจ” อยู่ในใจมาหลายปี นับตั้งแต่ปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ถึงแม้จะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงปะทุขึ้นระหว่างสองหน่วยงานด้านความมั่นคง แต่ปัญหาคาใจที่สะสมมาหลายปีคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “สีเขียว – สีกากี” ไม่มีอะไรในก่อไผ่ ?

เพราะหากย้อนดูปัญหาที่เกิดขึ้น มีตั้งแต่การดูแลการชุมนุมทางการเมือง, คดี 91 ศพ ,เว็บไซด์หมิ่นสถาบัน, คดีเกี่ยวกับสถาบัน,การแก้ไขปัญหายาเสพติด, คดี 13 ศพลูกเรือจีน , การแก้ไขปัญหาประตูระบายน้ำที่ตำรวจไม่ทำอะไรผู้มาปิดล้อม จนต้องส่งสารวัตรทหารเข้าดูแล ทำให้ทหารรู้สึกว่า “ตำรวจ” ใส่เกียร์วาง ต้องให้ทหารออกมาแก้ปัญหาทางการเมือง ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่และไม่อยากจะเกี่ยวข้องด้วย

พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ที่มาภาพ : http://www.thairath.co.th/media/content/2011/11/12/216077/hr1667/630.jpg
พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ : http://www.thairath.co.th/media/content/2011/11/12/216077/hr1667/630.jpg

ทำให้จู่ๆเกิดมื้อเที่ยงนอกรอบเคลียร์ใจ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ยระหว่าง “บิ๊กกองทัพ” กับ “บิ๊กตำรวจ” นำทีมโดย “รองเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ควง “บิ๊กอ๊อบ” พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร. บกกระทรวงกลาโหมเพื่อมาร่วมรับประทานอาหาร

ส่วนฝั่งทหาร นำทีมโดย “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “บิ๊กเปี๊ยก” พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) “บิ๊กกุ้ง” พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “บิ๊กจง” พล.อ.จงศักดิ์ พานิชกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยใช้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

“ได้มีการหารือโครงการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศ คดี 13 ศพลูกเรือชาวจีน การลาดตระเวนตำรวจ-ทหารลุ่มแม่น้ำโขงและดูแลเรือสินค้าจีน โดยที่ ผบ.ทบ.เป็นห่วงเรื่องการหมิ่นสถาบันในเว็บไซด์ เฟซบุ๊คและคนเสื้อแดง ได้ฝากเรื่องนี้ให้รองฉลิมกับตำรวจดูแล” พล.อ.ยุทธศักดิ์ เปิดเผยหลังอาหารมื้อพิเศษ

แต่เบื้องลึกเบื้องหลัง การเดินทางมาวันนี้ “รองเฉลิม” – “เพรียวพันธ์” ต้องการมาเคลียร์ใจกับทหารโดยเฉพาะ “ประยุทธ์” ในเรื่องความขัดแย้งทหารกับตำรวจในคดี 13 ศพลูกเรือชาวจีน ที่สำนวนให้การทหารกับตำรวจในคดีนี้ไม่ตรงกัน ก่อนที่ความขัดแย้งจะลุลามบานปลาย

ทางทหารให้การว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา ทหาร 9 นายจากกองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าควบคุมเรือจีนทั้ง 2 ลำ ที่มาจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำชายแดนสปป.ลาว-พม่า ขณะแล่นเข้าเขตน่านน้ำบ้านสบรวก เมื่อขึ้นไปตรวจสอบพบยาบ้าในกระสอบและกล่อง ประมาณ 900,000 เม็ด พบผู้เสียชีวิต 1 ศพ ปืนอาก้า 1 กระบอกต่อมาได้ทยอยพบศพกัปตันและลูกเรือจีนตามจุดต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงอีก 12 ศพ

แต่ทว่าตำรวจมีข้อมูลว่า 9 ทหารไทยมีเอี่ยวการปล้นและฆ่า จากหลักฐานที่วิถีกระสุนจากฝั่งไทย และพบรอยกระสุนปืน M16 แต่ทหารทั้ง 9 นาย ได้แสดงความบริสุทธิ์และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

จึงเป็นความขัดแย้งของทหารกับตำรวจที่เกิดขึ้นและเป็นเรื่องร้อนที่ประเทศที่จีนไล่บี้รัฐบาลไทยเพื่อหาคนผิด ซึ่งคดีนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวนของเจ้าหน้าที่

แต่งานนี้ “รองเฉลิม” ไม่ได้มีเป้าหมายแค่พาตำรวจมาเคลียร์ใจเท่านั้น นักวิเคราะห์การเมือง หรือทหารสายเหยี่ยว สายพิราบ เชื่อว่า การมาเยือนครั้งนี้เพื่อมาเช็คท่าทีกองทัพที่มีต่อรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ตามที่ “นายใหญ่” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯสั่งการมา เพื่อให้มา “หยั่งเชิง-ดูท่าที” หลังจากปล่อยข่าว “โยนหินถามทาง” การออกพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) อภัยโทษ – พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ

 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ.
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ.

รวมถึงคดี 91 ศพที่พนักงานสอบสวนไล่บี้กองทัพเพื่อหาคนผิด โดยเฉพาะ “คนเสื้อแดง” ที่ต้องการเชือด “บิ๊กหนุ่ย” พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. “เพื่อนรัก” ของผบ.ทบ.คนนี้ ที่มีส่วนสำคัญวางแผนยุทธการกระชับพื้นที่สลายการชุมนุมทางการเมืองคนเสื้อแดง เมษายน – พฤษภาคม 2553

นอกจากนี้ มีรายงานว่า หลังรับประทานอาหารแบบคณะใหญ่เสร็จ “รองเฉลิม” ได้ขอคุยเป็นการส่วนตัวกับ “ประยุทธ์” แบบตัวต่อตัว เพื่อหารือเรื่องคดี 91 ศพ ส่วนรายละเอียดเป็นเช่นไร มีข้อตกลงหรือหาทางออกอย่างไร ยังคงเป็นปริศนา

ดังนั้น การมาฟังความคิดเห็นโดยตรงจาก “ประยุทธ์” นายทหารผู้รักสถาบันยิ่งชีพคนนี้ ว่ามีแนวคิด มีสีหน้า ท่าทาง อาการอย่างไร เพราะเชื่อว่า “ประยุทธ์” จะส่งสัญญาณบางอย่าง ให้กับ “รองเฉลิม” – “เพรียวพันธ์” ญาติผู้พี่ “หญิงอ้อ” คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร (อดีต) ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นคือเรื่อง “สถาบัน” ที่ “กองทัพ” ห่วงใหญ่มากที่สุด

ยังไม่รวม การวางระเบิดหน้ากองสลากย่านสนามหลวง ของ “มือที่มองไม่เห็น” ที่เริ่มกลับมาป่วนเมืองในช่วงเย็น( 6 ธ.ค.) ส่งผลให้สถานการณ์การเริ่มเริ่มร้อนระอุขึ้น ยิ่งเมื่อมองอนาคตแล้ว หากความขัดแย้งคนในชาติยังไม่มีท่าจบลง ความปรองดองไม่เกิด ม็อบออกมาชุมนุมข้างถนน และที่สำคัญการดึง “สถาบัน” มาจาบจ้วงนั้น ก็ครบองค์ประกอบ “ปฏิวัติรัฐประหาร” !!!

งานนี้ รัฐบาลเพื่อไทยรู้ดีถึงแม้จะกุมเสียงข้างมากในสภาจนเสถียรภาพมั่นคง มีมวลชนที่แข็งแกร่ง ถึงแม้จะยุบสภาวันนี้พรุ่งนี้ก็กลับมาเป็นรัฐบาลแน่ แต่สิ่งที่ “นายใหญ่” เป็นห่วงคือ “กองทัพ” เพราะยังไม่สามารถควบคุมได้จนทุกวันนี้

เฉกเช่น มื้อกลางวัน ณ กระทรวงกลาโหม ของบรรดา“บิ๊กสีเขียว-บิ๊กสีกากี” ที่แสนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา….