บริบท
ข้อความในเฟสบุ๊กของนายชัชชาติ ระบุว่า ตนได้มาถึง จ.ตาก เวลาประมาณตีสี่ครึ่ง รถขับมาเรียบร้อยดี รถของ บขส. ทุกคันได้มีการติดตั้งระบบ GPS ทำให้สามารถตรวจสอบความเร็วของรถได้ตลอดเวลา คนขับระวังขึ้น สถิติอุบัติเหตุลดลงอย่างชัดเจน นอกจากกำลังอยู่ระหว่างการติดตั้งกับรถร่วม บขส. และรถตู้
พร้อมระบุว่า ตนได้ออกเดินทางไปตรวจเส้นทางสาย 12 ที่เชื่อมแม่สอด-ตาก ระยะทาง 85 กม. โดย 51 กม. หลังแวะอาบน้ำในเมือง ซึ่งถนนสายนั้นยังเป็นถนนสองเลนอยู่ มีจุดที่เป็นทางลงเขา คดเคี้ยว ลาดชัน หลายจุด เช่น ที่ดอยรวก ซึ่งในรอบเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุใหญ่ 2 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 45 คน
จากผลสำรวจของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พบว่า ปัจจุบัน ในขณะที่ความนิยมในการใช้บริการขนส่งสาธารณเพิ่มขึ้น การเกิดอุบัติเหตุก็ทวีความรุนแรง และมีความถี่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเทศกาล ซึ่งข้อมูลจากหน่วยสืบสวนอุบัติเหตุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตามโครงการ Accident Investigation Unit พบว่า พฤติกรรมของผู้ขับขี่ ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารประจำทาง
จากผลการศึกษาชี้ไปถึงการใช้เทคโนโลยีระบบจีพีเอส ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการเดินรถ การนำจีพีเอสมาใช้ควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถสามารถช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุของรถสาธารณะได้อย่างชัดเจน หลายประเทศที่พัฒนาแล้วก็ได้นำเทคโนลยีนี้มาใช้ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น
ในประเทศไทยช่วงต้นปี 2556 ขบ. ได้จัดทำโครงการติดตั้งศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System: GPS) เพื่อควบคุมดูแลด้านความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ ในระยะแรกจะนำร่องเฉพาะรถโดยสารประจำทางของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่วิ่งในเส้นทางหมวด 2 คือรถที่วิ่งจากกรุงเทพฯ ไปต่างจังหวัด ประมาณ 800 คัน
ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่อาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน เนื่องจากต้องอาศัยการเชื่อมโยงข้อมูล อาทิ ศูนย์บูรณาการการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบแห่งชาติ ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะกำกับดูแลในภาพรวมของการเดินรถ เพื่อวางนโยบายทางด้านความปลอดภัยในการเดินรถโดยสารประจำทาง ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะควบคุมการเดินรถให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างทั่วถึง
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบแนวนโยบายให้ บขส. ศึกษาแนวทางการติดตั้ง “กล้องวงจรปิด (CCTV)” โดยกำหนด 5 จุดภายในตัวรถ เช่น บริเวณที่นั่งคนขับ เพื่อบันทึกพฤติกรรมคนขับรถฝ่าฝืนกฎหมายหรือขับรถด้วยความประมาท จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งติดตั้งกล้องบริเวณห้องโดยสาร บริเวณรอบตัวรถด้านนอกทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้างตัวรถ เพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์และสภาพแวดล้อมโดยรอบในขณะที่รถวิ่งให้บริการ
นายพ้องกล่าวว่า กล้องวงจรปิดจะทำหน้าที่คล้ายกับกล่องดำบนเครื่องบิน ที่เป็นตัวบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ หากเกิดอุบัติเหต ุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถหาสาเหตุได้จากกล้องวงจรปิดเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้
โดยจะติดกล้องวงจรปิดทั้งภายในห้องโดยสาร และบริเวณตัวรถ จากจำนวนรถของ บ.ข.ส. ปัจจุบันที่มีประมาณ 800 คัน ต้องใช้กล้องวงจรปิดประมาณ 4,000 ตัว ขณะนี้ได้ดำเนินการติดกล้องจีพีเอสไปแล้ว 731 คัน
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีนโยบายที่จะเร่งรัดการติดตั้งระบบบันทึกข้อมูลการเดินทางหรือจีพีเอส โดยเบื้องต้นตั้งเป้าหมายติดตั้งในรถร่วมบริการ บขส. ทั้งระบบ จำนวน 13,000 คัน แบ่งเป็นรถร่วมบริการขนาดใหญ่ 7,000 คัน และรถตู้ร่วมบริการอีกประมาณ 5,000-6,000 คัน
ขณะนี้ บ.ข.ส.กำลังศึกษาแนวทางดังกล่าว เพราะการติดตั้งระบบต้องใช้เงินลงทุนสูง ต้องมีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการอีกครั้งถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ โดยปัจจุบันรถโดยสารของ บ.ข.ส.ได้นำร่องติดตั้งระบบจีพีเอสแล้วเสร็จทั้งหมดแล้ว 800 คัน ก่อนที่จะขยายไปยังรถ บ.ข.ส.ร่วมบริการฯ และรถตู้ทั่วประเทศ ทางศูนย์ควบคุมสามารถตรวจวัดอัตราความเร็วที่ใช้วิ่งบนถนนได้อย่าง รวดเร็ว ทำให้สามารถควบคุมพนักงานขับรถให้ขับรถ ตามอัตราความเร็วที่กฎหมายกำหนด
วิเคราะห์ข้อมูล
สถิติอุบัติเหตุ กับการติด GPS
ข้อมูลเบื้องต้นของการดำเนินการติดจีพีเอสนำร่องในรถโดยสารของ บขส. นายวิวัฒน์ สืบเส็ง ฝ่ายงานสื่อสารและควบคุมการเดินรถของ บขส. ระบุว่า ณ ปัจจุบันได้ดำเนินการติดจีพีเอสไปแล้วกว่า 700 คัน เหตุที่ยังไม่ครบทั้งหมดนั้นเนื่องจากจำนวนรถยังไม่คงที่ มีทั้งรถที่อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุง ยังเหลือรถเก่าที่รอหมดสัญญาเช่า และจะดำเนินการเปลี่ยนรถเก่าที่หมดสัญญานั้นเป็นรถใหม่ทั้งหมด ทำให้ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ แต่ส่วนของรถที่มีสภาพดี และยังอยู่ในสัญญาได้ดำเนินการติดจนครบทุกคันแล้ว
นายวิวัฒน์ เผยว่าได้เริ่มดำเนินการมาได้ปีกว่าแล้ว พบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุ และระดับความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุลดลง เนื่องจากผู้ขับใช้ความเร็วในการขับลดลง มีความระมัดระวังในการขับขี่มากขึ้น
ปี |
รถยนต์โดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด |
รถร่วม | รวม | |||||||||
เกิดอุบัติเหตุ (ครั้ง) |
บาดเจ็บ (คน) |
เสียชีวิต (คน) |
รวม |
อุบัติเหตุ (ครั้ง) |
บาดเจ็บ (คน) |
เสียชีวิต (คน) |
||||||
ฝ่ายถูก | สุดวิสัย |
รอผล ทางคดี |
ฝ่ายผิด | รวม | ||||||||
54 |
153 |
24 | 38 | 132 | 347 | 261 | 23 | 284 | 57 | 652 | 65 | 717 |
55 |
145 |
16 | 93 | 130 |
384 |
276 | 37 | 313 | 86 | 703 | 75 | 778 |
56* |
137
|
2 | 81 | 110 | 330 | 267 | 44 | 311 |
84 |
454 | 55 | 600 |
ข้อมูลจากกองกฎหมาย บริษัท ขนส่ง จำกัด *ปีที่เริ่มติด GPS เฉพาะรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด
เดือน/ปี | รถยนต์โดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด | รถร่วม | รวม | |||||||||
เกิดอุบัติเหตุ (ครั้ง) |
บาดเจ็บ (คน) |
เสียชีวิต (คน) |
รวม |
อุบัติเหตุ (ครั้ง) |
บาดเจ็บ (คน) |
เสียชีวิต (คน) |
||||||
ฝ่ายถูก | สุดวิสัย |
รอผล ทางคดี |
ฝ่ายผิด | รวม | ||||||||
ม.ค. 54 |
13 | 0 | 4 | 9 | 26 | 0 | 1 | 1 | 7 | 56 | 7 | 63 |
ก.พ. 54 |
9 | 1 | 5 | 9 | 24 | 1 | 0 | 1 | 5 | 67 | 6 | 73 |
มี.ค. 54 |
19 | 4 | 3 | 19 | 45 | 48 | 2 | 50 | 9 | 183 | 11 | 194 |
รวม |
41 | 5 | 12 | 31 | 95 | 49 | 3 | 52 | 21 | 306 | 24 | 330 |
ม.ค. 55 |
5 |
1 | 15 | 18 | 39 | 21 | 0 | 21 | 6 | 52 | 6 | 58 |
ก.พ. 55 |
11 |
0 | 6 | 10 | 27 | 0 | 0 | 0 | 7 | 115 | 10 | 125 |
มี.ค. 55 |
20 |
3 | 6 | 10 | 39 | 79 | 2 | 81 | 7 | 54 | 10 | 64 |
รวม |
36 |
4 | 27 | 38 | 105 | 100 | 2 | 102 | 20 | 221 | 26 | 247 |
ม.ค. 56 |
17 |
1 | 8 | 9 | 35 | 5 | 1 | 6 | 7 | 55 | 11 | 66 |
ก.พ. 56 |
12 |
0 | 6 | 5 | 23 | 11 | 0 | 11 | 8 | 54 | 9 | 63 |
มี.ค. 56 |
15 |
0 | 8 | 9 | 32 | 0 | 1 | 1 | 7 | 36 | 11 | 47 |
รวม* | 44 | 1 | 22 | 23 | 90 | 16 | 2 | 18 | 22 | 145 | 31 | 176 |
ม.ค. 57 | 9 | 0 | 8 | 6 | 23 | 0 | 0 | 0 | 7 | 38 | 11 | 56 |
ก.พ. 57 |
10 | 2 | 3 | 4 | 19 | 0 | 0 | 0 | 5 | 36 | 2 | 43 |
มี.ค. 57 |
2 | 1 | 12 | 5 | 30 | 7 | 2 | 7 | 12 | 96 | 6 | 190 |
รวม* | 31 | 3 | 21 | 15 | 72 | 7 | 2 | 7 | 24 | 170 | 18 | 289 |
ข้อมูลจากกองกฎหมาย บริษัท ขนส่ง จำกัด *ปีที่เริ่มติด GPS เฉพาะรถของบริษัท ขนส่ง จำกัด
ด้านนิติกรของ บขส. ให้ความเห็นว่า การติดจีพีเอสนั้นสามารถช่วยลดอุบัติเหตุได้จริง แต่เป็นไปในทางอ้อมมากกว่า คือ ช่วยควบคุมให้ผู้ขับรถไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด มีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น เพราะมีบทลงโทษของทางบริษัทกำกับอยู่ และการติดจีพีเอสทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น
ในเรื่องของบทลงโทษ นิติกรของ บขส. ให้ความเห็นว่ายังคงต้องมีการปรับปรุง เพราะหากไม่เข้มงวดพอก็ไม่สามารถควบคุมพนักงานได้ ประโยชน์ของจีพีเอสอีกประเด็น คือ ช่วยในเรื่องการดำเนินคดีเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยสามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีได้ และระบุได้ว่าพนักงานขับรถของบริษัทขับรถโดยประมาทหรือไม่
นับตั้งแต่มีการติดตั้งจีพีเอส เห็นได้ชัดว่าการใช้ความเร็วในการขับรถของพนักงานลดลง โดยอยู่ที่ไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การร้องเรียนในเรื่องการขับรถโดยประมาทลดลง แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้รับร้องเรียนมาเพิ่มเติมแทนคือ การถึงจุดหมายปลายทางล่าช้า
สรุป
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการดำเนินการติดตั้งจีพีเอสของ บขส. นั้นยังไม่ได้ดำเนินการครบร้อยเปอร์เซ็นต์ คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะให้จำนวนรถคงที่เสียก่อน ด้านข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุในการเดินรถของ บขส. ในระยะเวลา 1 ปีที่ติดจีพีเอสนั้น เห็นได้ว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุลงลง และจำนวนผู้เสียชีวิตก็ลดลงเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถิติการเกิดอุบัติเหตุของ บขส. ไปอีกสักระยะ เนื่องจากโครงการเพิ่งเริ่มดำเนินการ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า อัตราการเกิดอุบัติเหตุที่ลดลงเมื่อดูจากตารางทั้ง 2 ข้างต้นนั้น เกิดจากการติดตั้งจีพีเอสจริงหรือไม่
ดังนั้นข้อความของนายชัชชาติ ที่ว่า “รถของ บขส. ทุกคัน ได้มีการติดตั้งระบบ GPS ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบความเร็วของรถได้ตลอดเวลา คนขับระวังขึ้น สถิติอุบัติเหตุลดลงอย่างชัดเจน” อยู่ในเกณฑ์ “ยังพิสูจน์ไม่ได้”