ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ไทยยูเนี่ยน เดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจดูแลท้องทะเลยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยน เดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจดูแลท้องทะเลยั่งยืน

13 มิถุนายน 2025


ข่าวประชาสัมพันธ์

กรุงเทพฯ – 12 มิถุนายน 2568 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลก พร้อมบริษัทในเครือใน 11 ประเทศ 4 ทวีป ร่วมกันจัดกิจกรรมเก็บขยะทะเล ได้กว่า 17 ตัน เนื่องในวันมหาสมุทรโลกเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลท้องทะเลภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืน SeaChange®2030 ของไทยยูเนี่ยนในเรื่องการลดขยะพลาสติกในทะเลไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและทะเลให้ได้ตามเป้าหมาย 1,500 ตัน ภายในปี 2573 

นายอดัม เบรนนัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะบริษัทอาหารทะเลชั้นนำระดับโลก ไทยยูเนี่ยนมองว่าความยั่งยืนคือหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เราจึงมุ่งปกป้องดูแลทรัพยากรในมหาสมุทรและระบบนิเวศ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลโลกภายใต้กลยุทธ์ SeaChange®2030 โดยหนึ่งในพันธกิจ คือ การจัดการขยะพลาสติก 1,500 ตัน ไม่ให้ปนเปื้อนสู่แม่น้ำลำคลองและท้องทะเล ภายในปี 2573 โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นพื้นที่กักเก็บขยะทะเลปัจจุบันมีขยะพลาสติกกว่า 200 ล้านตันในท้องทะเล ที่เกิดจากการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้อง การทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ท่อระบายน้ำ แม่น้ำ และทะเล  เราได้ทำงานร่วมกับองค์กร Global Ghost Gear Initiative (GGGI) อย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาการทิ้งอุปกรณ์จับปลาในท้องทะเลทั่วโลก 

สำหรับกิจกรรมเก็บขยะทะเลของไทยยูเนี่ยนเนื่องในวันมหาสมุทรโลกปีนี้มีผู้เข้าร่วมทั่วโลกมากกว่า 700 คน โดยในประเทศไทยมีอาสาสมัครจากไทยยูเนี่ยนและบริษัทในเครือ อาทิ บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 องค์การบริหารส่วนตำบลบางหญ้าแพรก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) โรงเรียนในท้องถิ่น และโรงเรียนนานาชาติ ร่วมกันเก็บขยะทะเลในประเทศไทย 

ปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet, Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

นายปราชญ์ เกิดไพโรจน์ ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืน ธุรกิจ Pet, Feed และ Marine Ingredient บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (2564-2567) โครงการเก็บขยะทะเลของไทยยูเนี่ยนได้ระดมพลังอาสาสมัครของเราและพันธมิตรจากทั่วทุกมุม ซึ่งการดำเนินการอย่างต่อเนื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดปริมาณขยะในทันที แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ในปีนี้ โครงการเก็บขยะเนื่องในวันมหาสมุทรโลกของไทยยูเนี่ยนได้ขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่ 11 ประเทศใน 4 ทวีป ได้แก่ ไทย, สหรัฐอเมริกา, กานา, เซเชลส์, สหราชอาณาจักร, นอร์เวย์, เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และโปแลนด์ โดยเก็บขยะทะเลได้กว่า 17 ตัน โดยเน้นการเก็บขยะในพื้นที่สำคัญ เช่น ป่าชายเลน, แม่น้ำ, ชายหาด และบริเวณใกล้เคียงกับโรงงานของไทยยูเนี่ยน การขยายขอบเขตการดำเนินงานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยยูเนี่ยนในการแก้ไขปัญหามลพิษทางทะเลในระดับโลก และการสร้างการมีส่วนร่วมจากชุมชนท้องถิ่นในแต่ละประเทศ

นางสาวศุภวดี สิทธิจำเริญคุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไอ-เทล ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมาอย่างยาวนาน และให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน เพราะเราเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนมาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ตลอดจนอาสาสมัคร โดยกิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงเป็นการเก็บขยะทะเล แต่ยังเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจและสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนในชุมชนและสังคม เพื่อร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป”

ศุภวดี สิทธิจำเริญคุณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น

ทั้งนี้ ขยะที่เก็บรวบรวมได้จากโครงการทั้งหมดจะถูกนำไปคัดแยกและจดบันทึกตามแนวทางของ International Coastal Cleanup (ICC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการเก็บข้อมูลขยะทะเล ขยะที่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งมอบให้บริษัทจัดการขยะในพื้นที่เพื่อนำไปแปรรูปอย่างเหมาะสม ส่วนขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะถูกส่งต่อผ่านหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องส่งไปยังบริษัทที่รับแปรสภาพขยะเพื่อนำไปทำเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นกระบวนการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน

ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนความมุ่งมั่นของ ไทยยูเนี่ยนและไอ-เทล ในการสร้างความยั่งยืน แต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีของการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมกันดูแลรักษามหาสมุทร ซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญของโลก เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน