ThaiPublica > เกาะกระแส > ผ่านมาแล้ว 100 วัน ยังเหลืออีก 1,361 วัน แม้ไม่มีทรัมป์ ยังยากที่โลกเราจะกลับมาสู่ภาวะ “ปกติเดิม”

ผ่านมาแล้ว 100 วัน ยังเหลืออีก 1,361 วัน แม้ไม่มีทรัมป์ ยังยากที่โลกเราจะกลับมาสู่ภาวะ “ปกติเดิม”

4 พฤษภาคม 2025


รายงานโดย ปรีดี บุญซื่อ

ที่มาภาพ : The Economist

นิตยสาร The Economist ฉบับ 26 เมษายน 2568 หน้าปกเป็นรูปพญาอินทรีย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะเพียงแค่ 100 วันที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมีอำนาจในสมัยที่สอง ทรัมป์เป็นผู้นำสหรัฐฯที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสุดในศตวรรษนี้ ก่อนหน้าที่พิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์ คนอเมริกันกังวลว่า ตัวเองจะได้รัฐบาลแบบไหน

แต่ประเด็นนี้จบลงแล้ว ทรัมป์คือคนที่ยืนนำหน้าโครงการแบบปฏิวัติ ที่มีผลสำคัญต่อเศรษฐกิจ ระบบหน่วยงานของรัฐ นโยบายต่างประเทศ วัฒนธรรม รวมทั้งสิ่งที่เป็นความคิดของอเมริกาเอง คำถามมีอยู่ว่า เวลาที่เหลืออีก 1,361 วัน ทรัมป์จะประสบความสำเร็จหรือไม่

นักการปฏิวัติขบวนการ MAGA

การเป็นประธานาธิบดีของทรัมป์ ได้รับความนิยมอย่างมาก จากคนอเมริกันที่ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง การสนับสนุนทรัมป์จากคนที่นิยมในพรรครีพับลิกัน มีมากถึง 90% การต่อต้านทรัมป์มีน้อย เมื่อทรัมป์โจมตีหน่วยงานรัฐ มหาวิทยาลัย สื่อมวลชน หรือสถาบัน ที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้นำพรรคดีโมแครท

The Economist กล่าวว่าการปฏิวัติของขบวนการ MAGA หรือ “ทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง” ก็เหมือนการปฏิวัติอื่นๆ คือมีทั้งวิธีการและทฤษฎี วิธีการคือการละเมิดกฎหมาย โดยใช้ “คำสั่งฝ่ายบริหาร” (Executive Order) ส่วนทฤษฎีคืออำนาจฝ่ายบริหารที่ไม่มีข้อจำกัด เพราะแนวคิดที่ว่า หากประธานาธิบดีทำในสิ่งใด สิ่งนั้นก็ถูกกฎหมาย

ทรัมป์อ้างคำพูดของนโปเลียนที่ว่า “คนที่ทำอะไรเพื่อรักษาประเทศไว้ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายอะไร” แต่สิ่งเหล่านี้สั่นคลอนในสิ่งที่เคยทำให้อเมริกายิ่งใหญ่มาก่อน เช่น ผลประโยชน์อเมริกาใหญ่พอ ที่จะสนับสนุนโครงการสาธารณสุขในแอฟริกา องค์กรอิสระเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองก็เป็นคนที่รักชาติเช่นเดียวกัน

กระแสความคิดแบบ MAGA อาจนำไปสู่ระบบอำนาจนิยม แต่การกระทำที่สุดขั้วใน 100 วันแรกของรัฐบาลทรัมป์ ก็ทำให้เกิดพลังต่อต้าน คือนักลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น ที่ไม่ได้มีมีสาเหตุจากการเมือง แต่นักลงทุนต้องเผชิญกับสภาพความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ ตระหนักเรื่องเศรษฐกิจจะเสียหายจากอัตราภาษี หรือนโยบายที่ทำให้เงินดอลลาร์พังทลายทันทีทันใด

เมื่อประสบกับภาวะตลาดตกต่ำ ในระยะหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์ยอมถอยหลังสองครั้ง ครั้งแรกคือชะลอการใช้ภาษีตอบโต้ออกไป 90 วัน และเรื่องการปลด Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ทรัมป์ยังแสดงท่าทีว่า ต้องการหาทางออก0kdสงครามการค้าที่ประกาศกับจีน เพียงแค่นี้ ทรัมป์ก็สร้างความเสียหายแก่สถาบันต่างๆของอเมริกา ต่อพันธมิตร และค่านิยมประชาสังคม อเมริกาไม่มีทางที่จะกลับไปแบบเมื่อก่อน 100 วันที่แล้ว มีแต่อีก 1,361 วันที่ยังเหลืออยู่

ที่มาภาพ : Pinterest

ยากที่จะกลับคืนสู่ “ภาวะปกติเดิม”

ส่วนบทความ The New York Times เรื่อง Why Trump’s Economic Disruption Will Be Hard to Reverse กล่าวว่า การทำให้ระเบียบเศรษฐกิจแบบเดิม เดินหน้าต่อไปไม่ได้ของทรัมป์ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สามารถดำรงอยู่ไปได้อีกนาน เพราะประเทศต่างๆต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของทรัมป์ ในเวลา 100 วัน ทรัมป์สามารถทำลายระเบียบเศรษฐกิจโลก จุดชนวนสงครามการค้า และยกเลิกข้อตกลงระหว่างประเทศของสหรัฐฯ

การเปลี่ยนแปลงของทรัมป์เกิดขึ้นอย่างลุ่มลึก และยังคงสั่นคลอนโลกอยู่ การปกครองของทรัมป์ได้รับความชอบธรรมจากรัฐธรรมนูญเป็นเวลา 4 ปี เมื่อสหรัฐฯมีประธานาธิบดีคนใหม่ในอนาคต จะสามารถยกเลิกสิ่งที่ทรัมป์ได้เคยทำไว้ได้หรือไม่ แบบเดียวกับที่พระคาร์ดินัล Michael Czerny ผู้ช่วยพระสันตะปาปาฟรานซิส เคยกล่าวไว้ว่า “ไม่มีอะไรที่เราได้เคยทำในช่วง 2 พันกว่าปีที่ผ่านมา จะยกเลิกไม่ได้”

สิ่งที่เกิดขึ้นในศาสนจักรก็สามารถเกิดขึ้นในโลกทางภูมิรัฐศาสตร์เช่นเดียวัน แต่ในช่วงระยะแรกของรัฐบาลทรัมป์ นักประวัติศาสตร์และนักรัฐศาสตร์มองว่า การเปลี่ยนแปลงที่ทรัมป์ทำให้เกิดขึ้น อาจเป็นเรื่องยากที่จะย้อนกลับ เหมือนกับการผุกร่อนของความเชื่อมั่นต่อสหรัฐฯ ที่ใช้เวลาคนหลายรุ่นในการสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา

Ian Goldin ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโลกาภิวัตน์และการพัฒนาของ Oxford กล่าวว่า “เมื่อทรัมป์จากไปแล้ว รากฐานของขบวนการ MAGA และคนอย่างรองประธานาธิบดี JD Vance ก็ยังอยู่”

ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนต่อไป เงื่อนไขที่ทำให้เกิดขบวนการ MAGA ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิม คือความเหลื่อมล้ำ และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น สำหรับโลกเรา สิ่งที่น่ากังวลก็คือ ทรัมป์อีกคนหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ประเทศต่างๆหาทางสร้างหุ้นส่วนทางการค้า และพันธมิตรความมั่นคง โดยไม่มีสหรัฐฯ EU และประเทศลาตินอเมริกาประกาศสร้างเขตการค้าที่ใหญ่สุดของโลก แคนาดาเสนอเครือข่ายการขนส่งที่จะเข้าสู่ตลาดโลกได้สะดวกขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ และอังกฤษกับ EU กำลังทำข้อตกลงทางทหาร

Ian Goldin กล่าวอีกว่า ถึงอย่างไร โลกก็เดินต่อไปข้างหน้า ห่วงโซ่อุปทานจะมีการจัดรูปแบบใหม่ เกิดหุ้นส่วนเศรษฐกิจใหม่ขึ้นมา นักศึกษาต่างประเทศ นักวิจัยและคนมีทักษะไฮเทค จะหาที่อพยพใหม่ ไม่เพียงแต่สหรัฐฯเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ทรัมป์ช่วยไปเสริมฐานะความเข้มแข็งของผู้นำแบบอำนาจนิยมที่มีอยู่ทั่วโลก ที่กำลังทำให้ระเบียบโลกมีพื้นฐานบนกฎเกณฑ์ต่างๆ ต้องอ่อนแอลง

นอกจากนี้ การที่ทรัมป์ไม่ชอบองค์การระหว่างประเทศ แต่สิ่งนี้กลับไปทำให้จีนมีอิทธิพลมากขึ้น ทั้งๆที่จีนเป็นเป้าหมายหลักของทรัมป์ ในการใช้แรงกดดันเศรษฐกิจ นโยบายกีดกันการค้าและการทำลายการค้าโลกที่มีกฎระเบียบ ช่วยส่งเสริมฐานะจีนให้กลายเป็นผู้ปกป้องการค้าเสรี และการเป็นผู้นำใหม่ของระบบการค้าโลก

ที่มาภาพ : Khmer Times

โลกยังจะหาทางรักษา “ระบบการค้าเสรี”

ภาษีทรัมป์ที่สั่นคลอนระบบการค้าโลก ถูกเปรียบเทียบเหมือนเหตุการณ์ Brexit ที่อังกฤษถอนตัวจาก EU ทรัมป์เรียกการประกาศภาษี ที่อเมริกาถอนตัวจากระเบียบเศรษฐกิจโลกว่า “วันปลดปล่อย” แต่ภาษีทรัมป์ส่งผลสะเทือนต่อมากกว่า Brexit เพราะเศรษฐกิจสหรัฐฯมีขนาดใหญ่ และสหรัฐฯเหมือนเป็นฟันเฟืองการค้าโลก

แต่ผลกระทบในตอนสุดท้ายของภาษีทรัมป์ จะเป็นแบบความปั่นป่วน และความไม่แน่นอน ไม่แน่นอน ทรัมป์อาจกลับลำ เพราะภาวะตลาดเกิดแปรปรวนที่รวดเร็ว แต่นักเศรษฐศาสตร์บอกว่า สิ่งที่สำคัญกว่าก็คือ กระแสการค้าเสรีที่ไม่สามารถจะไหลกลับ หรือถูกยกเลิกในที่สุด เพราะอนิสงค์ของการค้าเสรีมีพลังอย่างมาก จนทำให้ประเทศในโลกที่เหลืออยู่ หาทางรักษาระบบนี้ให้ดำเนินการต่อไป แม้จะไม่มีประเทศที่เคยมีบทบาทหลักแล้วก็ตาม

นักวิเคราะห์ที่มองในแง่ดีกล่าวว่า หลังจากอังกฤษถอนตัวออกไป EU ก็ไม่ได้แตกสลายลง ทุกวันนี้ ในอังกฤษกำลังพูดถึงหนทางที่จะใกล้ชิดกับสมาชิก EU มากขึ้น แต่ท่าทีใหม่ของอังกฤษมีขึ้น หลังจากเกิดความปั่นป่วนมาหลายปี นักเศรษฐศาสตร์คาดหมายว่า การถอนตัวจากการค้าโลกของทรัมป์ จะทำเกิดความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง ที่กระทบการค้าโลกแบบเดียวกัน

Eswar Prasad จากมหาวิทยาลัย Cornell กล่าวว่า “สิ่งนี้จะไม่ใช่จุดจบของการค้าเสรี แต่แน่นอนว่า จะเป็นการถอยจากการค้าเสรีที่ไม่มีการกำกับควบคุม ซึ่งเป็นหนทางที่โลกกำลังไปในทิศทางนี้ ที่ชัดเจน เป็นระยะเวลาของประเทศในโลกที่เหลืออยู่ พยายามร่วมกันที่จะส่งเสริมการค้าเสรีในหมู่พวกเขา แต่ความจริงก็คือว่า จะเป็นแบบที่แต่ละประเทศเพื่อตัวเอง”

แต่นักเศรษฐศาสตร์ก็กล่าวว่า แม้จะมีเสียงวิจารณ์ต่อวิธีการเหมือนใช้การบังคับตรงๆ แต่ทรัมป์ก็ทำในสิ่งที่เป็นการตอบสนองต่อปัญหาที่เป็นจริง คือการที่จีนพุ่งขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางการค้า ที่สามารถแข่งขันได้สูงมาก มหาอำนาจที่ให้การสนับสนุนทางการเงิน แต่ธุรกิจตัวเอง ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตสหรัฐฯหายไป ในทัศนะของทรัมป์ ภาษีคือสิ่งที่จะนำอุตสาหกรรมนี้กลับมาคืนมาสหรัฐฯ

เอกสารประกอบ
Trump is a revolutionary. Will he succeed? April 26, 2025, The Economist.
Why Trumps’ Economic Disruption Will Be Hard to Reverse, April 28, 2025, nytimes.com
Trump’s Tariffs Will Wound Free Trade, but the Blow May Not Be fatal, April 6, 2025, nytimes.com