ThaiPublica > เกาะกระแส > ไทยพาณิชย์คาดสินทรัพย์ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยกว่า 1 ล้านล้านดอลล์ปี 2571 มุ่งดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึง Wealth

ไทยพาณิชย์คาดสินทรัพย์ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยกว่า 1 ล้านล้านดอลล์ปี 2571 มุ่งดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึง Wealth

25 กุมภาพันธ์ 2025


นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์

ไทยพาณิชย์ เดินหน้ารุกตลาดเวลธ์เต็มรูปแบบ ชูแนวคิด “Your Success Our Success” ดัน SCB WEALTH ขึ้นแท่นเบอร์ 1 ธุรกิจเวลธ์ในไทยครอบคลุมทุกมิติ ภายในปี 2569 นำเสนอการบริหารความมั่งคั่งแบบ Holistic and Customer-Centric Wealth Management Solution ให้กับทุกกลุ่ม ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน Asset Under Advisory ครองใจลูกค้า และบริหารภาพรวมพอร์ตโฟลิโอให้เติบโตอย่างยั่งยืน

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงข่าว SCB WEALTH WELCOME TO THE NEW HORIZON โดย นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก และประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% โดยคาดการณ์ว่าในปี 2571 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากโอกาสประเทศไทยมีสูงมาก ซึ่งก็น่าจะทําให้คนไทยส่วนใหญ่ผ่านการพัฒนาความเจริญไปสู่หัวเมือง และจังหวัดต่างๆ มีรายได้และโอกาสในการที่จะบริหารจัดการความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ ทั้งสามหมวดนี้ยังเติบโตได้ สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ EIC ได้คาดการณ์ไว้ที่ 2.5-3% แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์โลก

“พลวัตของภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยนไปและพลวัตนั้นก็ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของแต่ละประเทศที่มีผลบวกและลบไม่เหมือนกัน ถ้าเราบริหารภาพรวมของประเทศได้ดี ผมเชื่อว่าเราไปต่อ และการขยายความเจริญไปสู่ทุกจังหวัดในประเทศไทย ควรจะทําให้คนไทยนั้นมีอันจะกิน และมีรายได้เพิ่มขึ้น” นายกฤษณ์กล่าว

นายกฤษณ์กล่าวว่า ธุรกิจบริหารความมั่นคั่งให้บริการเพื่อคนไทย แต่การดูแลอาจจะไม่เท่ากัน ในกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูงมีสินทรัพย์มาก ธนาคารที่ให้บริการก็จะใช้ส่วนผสมระหว่างคนกับดิจิทัล โดยเน้นด้านคนมากกว่า ขณะที่ดิจิทัลอาจจะเป็นการให้บริการด้านการสนับสนุน ในกลุ่มลูกค้าที่อาจจะไม่ได้มีสินทรัพย์มาก แต่มีความต้องการและความเข้าใจและความจําเป็นในการบริหารความมั่งคั่ง เทคโนโลยีจะเป็นตัวต่อ สุดท้ายแล้วผู้ให้บริการสามารถบริการด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อให้สามารถที่จะวางแผนการเงินได้ โดยที่มีโอกาสในการเข้าถึงการลงทุนที่เหมาะสมและถูกต้องอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม “ผมเชื่อว่าธุรกิจนี้สําหรับทุกคนเพียงแต่รายละเอียดการดูแลอาจจะไม่เท่ากัน”

นายกฤษณ์กล่าวว่า เชื่อว่าคนไทยจะเปิดรับโอกาสและรูปแบบการลงทุนที่มากกว่าการลงทุนในประเทศ และจะเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าโอกาสในประเทศไม่มี เพียงแต่ต้องรู้ว่าในโอกาสนั้นจะต้องลงทุนให้เหมาะสม และสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ คําจำกัดความของความบริหารความมั่งคั่ง

“ผมเชื่อว่าการบริหารความมั่งคั่งคือสิ่งที่ทุกคนควรจะเข้าถึงได้ ไม่ได้จํากัดเฉพาะแต่กลุ่มคนที่เราเชื่อว่าเป็นคนที่มีฐานะ มีเงินอย่างเดียว เพราะควรจะเป็นความเสมอภาคในการเข้าถึงข้อมูล และปัจจัยในการขับเคลื่อนความเสมอภาคนั้นคือเทคโนโลยี ในประเทศเอเชียและประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเข้าถึงโทรศัพท์ ดิจิทัล โซเชียลมีเดีย และการเปิดรับแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มต่างๆอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นผมเชื่อว่าในปีหน้าสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเลยคือ wealth จะเข้าถึงทุกคนมากขึ้นผ่าน digitization” นายกฤษณ์กล่าว

นายกฤษณ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นอีกด้าน คือ การบริหารความมั่งคั่งอาจจะไม่มุ่งไปที่การลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จะเป็นองค์รวมของการวางแผน องค์รวมของการใช้ชีวิต คําแนะนํา การเตรียมส่งต่อ การที่จะเตรียมความพร้อมของครอบครัวไปสู่อนาคต แต่ในมิติในการให้คําแนะนําที่อาจจะมากกว่าการลงทุนจะเพิ่มขึ้น ทั้งสามด้านนี้เชื่อว่าในปีหน้าจะได้เห็น บริบทของธุรกิจจะเริ่มเปลี่ยนไป

แม้ภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เปลี่ยนไป เป็นเรื่องที่คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดเพื่อทําให้ลงทุนได้อย่างเหมาะสม แต่สิ่งที่สําคัญคือต้องไม่ปิดโอกาสตัวเอง การลงทุนไม่จำกัดอยู่ในประเทศ แต่โอกาสของการลงทุนนั้นมีผ่านหลายสินค้าหลายบริการขึ้นอยู่กับการรับความเสี่ยง และการได้มาซึ่งผลกําไรนั้นเร็วหรือช้า ถ้าเข้าใจบริบทและเปิดใจให้กว้าง ก็มีโอกาสที่จะประสบความสําเร็จหรือบริหารความผันผวน

นายกฤษณ์กล่าวว่า ไทยพาณิชย์มองเห็นถึงโอกาสจากการเติบโตของตลาดและจากการเป็นสถาบันทางการเงินอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ทำให้สามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร ที่สำคัญธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) นับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่สร้างการเติบโตให้กับธนาคาร “SCB Wealth ขอเป็นฟันเฟืองหนึงในการที่จะเปิดโอกาสการลงทุนให้กับคนไทยที่กว้างขึ้นไปอีก”

“การดูแลลูกค้าของ SCB Wealth ไม่ได้จํากัดเฉพาะ segment ในกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง เราก็จะประสานเทคโนโลยีกับความเอาใจใส่ขอบุคลากรผ่านการบริการแบบใกล้ชิด ผ่าน RM ที่มีความรู้ ในกลุ่มลูกค้าที่อยากจะเพิ่งเริ่มคิดถึงการวางแผนทางด้านการเงิน อาจจะยังไม่มีสินทรัพย์สูงนัก เราจะใช้ดิจิทัลเป็นตัวนําในการที่ให้ลูกค้าเข้าถึง ข้อมูลข่าวสารการทําธุรกรรมที่สามารถทําจบได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ต้องกลับไปทําธุรกรรมที่สาขา แต่สามารถทำแบบ straight through ได้ครบจบทุกขั้นตอนผ่านมือถือ ซึ่งเรามีสินค้าลงไปเรียบร้อยแล้ว เป็นสินค้าที่มีเกี่ยวข้องกับทั้งอัตราแลกเปลี่ยนด้วย ทําจบได้ในครั้งเดียว ดังนั้นธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในมุมมองของ SCB Wealth ไม่ได้เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์เฉพาะคนที่มั่งคั่งแล้ว แต่ตอบโจทย์คนไทยที่คนถึงโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล โอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี โอกาสและสิ่งพึงควรในการที่จะสามารถวางแผนชีวิตและวางแผนการเงิน เพื่อให้สามารถที่จะเห็นคนไทย เกษียณอย่างมีความสุขได้”

SCB Wealth คือ องค์รวมสินค้าและบริการ บริษัท segment คําแนะนําและข้อมูลและข่าวสารทั้งหมดที่อยู่ภายใต้กลุ่มเอสซีบีเอส พร้อมดูแลบริหารความมั่งคั่งด้วยโซลูชันแบบครบวงจร ผสานศักยภาพจากบริษัทในเครือ SCBX และพันธมิตรชั้นนำ

นายกฤษณ์กล่าวว่าปัจจุบันคนไทยที่มีสินทรัพย์ที่พร้อมให้ธนาคารดำเนินการมีจำนวนมากและต้องการให้ดูแลในอีกระดับหนึ่ง ซึ่งเดิมไทยพาณิชย์มี SCB Julius Baer พันธมิตรที่เข้มแข็งคอยให้การดูแลอยู่แล้ว ในวันนี้ไทยพาณิชย์ได้ปิดตัวพันธมิตรด้านบริหารความมั่งคั่งรายใหม่ Blackrock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือเป็นพันธมิตรรายสำคัญในระดับโลกของธนาคาร โดยความร่วมมือกับ Blackrock มีด้วยกัน 5 ด้านคือ

หนึ่ง การพัฒนาสินค้าแบบ Exclusive Product ที่วางแผนผ่าน คณะกรรมการลงทุน(IC Committe)ร่วมเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์และลูกค้ากลุ่ม SCBX

สอง Research Co-branded จะมีงานวิจัยเกี่ยวข้องกับการลงทุนที่เป็น Co-branded

สาม ได้มีการหารือไปแล้วเบื้องต้นเพื่อตอบโจทย์ digitization การนำเสนอสินค้าและบริการ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบริหารความมั่งคั่งแบบ end to end ให้กลุ่มลูกค้าที่เดิมทีไม่เคยได้รับการดูแล เพราะอาจจะถูกมองว่าเงินยังไม่มากพอ ยังไม่ถูกจัดเป็น segment ยังไม่ได้มีสิทธิ์ “SCB เราเชื่อว่าการบริหารความมั่งคั่งนั้นไม่ได้อยู่เฉพาะคนที่มั่งคั่ง แต่ควรจะเป็นสิ่งสําคัญที่สําหรับคนไทยทุกคนเพื่อทําให้คนไทยนั้นสามารถที่จะวางแผนทางการเงินและแผนเกษียณได้อย่างครบวงจร การพัฒนาแพลตฟอร์ม และ การใช้ digitalization เพื่อนําเสนอสินค้าและบริการแบบ end to end ก็จะเกิด”

สี่ การพัฒนาศักยภาพ RM ที่ดูแลลูกค้าให้เข้าถึง Blackrock Academy ที่จะช่วยทําให้มุมมองการลงทุนของ RM มีความรอบด้านมากขึ้น

ห้า ในโลกที่มีความผันผวน หากมองโจทย์การบริหารให้คําแนะนําเพียงคนเดียวโดยไม่มีคนที่จะมาช่วยมองและบริหารความเสี่ยงร่วมกัน ก็จะไปสร้างความเสี่ยงให้กับลูกค้าเพิ่มเติ ในมิติทั้งหมด จะเป็นนิติที่ทํางานร่วมกันกับ Blackrock

ไทยพาณิชย์ ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2569 ขึ้นแท่นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ด้านสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory: AUA), ความพึงพอใจของลูกค้า (Net Promoter Score: NPS) และการบริหารภาพรวมพอร์ตโฟลิโอให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Portfolio Growth)

“โจทย์ข้อแรกของเราต้องการที่จะให้ AUA(Asset Under Advisory) สินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำการเติบโตเป็นเลข 2 หลัก ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าขนาดของ AUAเติบโตได้ 2 หลัก โอกาสในการเป็นอันดับหนึ่งก็ ในมิติที่ 2 คือความพึงพอใจของลูกค้า ที่ต้องการให้เป็นอันดับหนึ่งจากปัจจุบันอันดับสอง และอีกด้านที่ผมเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่มีความสําคัญ ที่สะท้อนความสําเร็จของเรา คือการวัดผลตอบแทนจากการลงทุนที่เราให้คําแนะนํา จากค่าเฉลี่ยย้อนหลังที่ต่อเนื่อง 9 ปีติดต่อกันต้องสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับตัวอ้างอิง(benchmark)” นายกฤษณ์กล่าว

ในบริบทของสินค้าและบริการไทยพาณิชย์มีครบทุกมิติทั้งการให้ข้อมูลภายใต้ SCB Wealth ทั้งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ มี IC ที่เป็นบุคลากรในการให้คำแนะนำ แต่จากนี้ไปสู่อนาคต SCB Wealth จะบริหารความเข้าใจแบบองค์รวมให้สําเร็จ

จากการที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และโซลูชันด้านการเงินการลงทุน ไทยพาณิชย์จึงได้ทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า และพบว่าสิ่งที่ลูกค้ามองหาจากธนาคารในการดูแลและบริหารความมั่งคั่งคือ ความจริงใจ ใส่ใจ ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่ง และสร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืน มีผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านการเงินการลงทุนที่ครบวงจร และในปีนี้จึงได้วางเป้าหมายธุรกิจบริหารความมั่งคั่งภายใต้แนวคิด “Your Success. Our Success.” ความสำเร็จของคุณ คือความสำเร็จของเรา นำเสนอโซลูชันด้านการบริหารความมั่งคั่งแบบองค์รวมโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Holistic and Customer-Centric Wealth Management Solution) ผสานศักยภาพจากบริษัทภายใต้กลุ่ม SCBX อาทิ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM), บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) บล. ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด (SCB Julius Baer) และพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 30 ราย เข้ากับขีดความสามารถในการให้คำปรึกษา (Advisory Capability) ในการนำเสนอโซลูชันบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า SCB WEALTH จำนวนกว่า 500,000 ราย

โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ SCB PRIME, SCB FIRST และSCB PRIVATE BANKING ทั้งด้านเป้าหมายชีวิต และเป้าหมายด้านการลงทุน โดยยึด 3 กลยุทธ์หลักอันเป็นหัวใจสู่ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ได้แก่

1.Customer Centricity: คิดจากคุณ เพื่อความสำเร็จในแบบเฉพาะคุณ
มุ่งเน้นเป้าหมายและความต้องการของลูกค้าแต่ละช่วงชีวิตอย่างลึกซึ้ง และยึดผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นที่ตั้ง โดยคัดสรรผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เหมาะสมในทุกมิติ ด้วยบริการวางแผนกับที่ปรึกษาด้านการบริหารและต่อยอดความมั่งคั่งมืออาชีพ โดยนำเสนอโซลูชันผ่าน 3 แนวคิดใหม่ ดังนี้

  • ลูกค้ารู้สึกไม่เป็นธรรม เมื่อต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียม แม้ตลาดติดลบ นำเสนอแนวคิดใหม่ของการลงทุน No Gain No Pay ไม่เก็บค่าธรรมเนียมหากมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งหลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจนสามารถบรรลุเป้าหมายภายที่วางไว้ภายใน 1 เดือน 13 วัน จากที่ตั้งเป้าที่ 8 เดือน
  • ลูกค้ามีความกังวลเรื่องตลาดผันผวน นำเสนอแนวคิด Capital Protected Fund การลงทุนที่ความเสี่ยงต่ำ ลดการขาดทุนเงินต้น พร้อมผลตอบแทนที่สูงกว่าการเงินทั่วไป ด้วยยอดขายตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปัจจุบัน กว่า 1 แสนล้านบาท
  • ลูกค้าไม่รู้ว่าจะต้องวางแผนบริหารความมั่งคั่งให้ครอบคลุมทุกมิติได้อย่างไร นำเสนอแนวคิด Innovative Holistic Advisory Solution ออกแบบโซลูชันการบริหารความมั่งคั่งส่วนบุคคลที่ตรงตามความต้องการที่หลากหลาย อาทิ การต่อยอดทางการเงิน การดูแลบริหารจัดการ ความคุ้มครอง รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่ง เพื่อสร้างผลลัพธ์ความสำเร็จที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

    2.Hyper-Personalization: ตอบโจทย์ทุกความต้องการ เพื่อคุณโดยเฉพาะ
    ยกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ารายบุคคล ผสานศักยภาพของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ในการดูแลลูกค้าอย่างตรงใจและไร้รอยต่อในทุกมิติ

    3.Go Global: ทุกที่ที่มีโอกาส เราให้คุณไปถึงได้ทั่วโลก
    เปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดโลก พร้อมต่อยอดความมั่งคั่งด้วยโซลูชันทางการเงิน การลงทุน และยกระดับการให้คำปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญของ SCB WEALTH เข้ากับพันธมิตรระดับโลก อาทิ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ และล่าสุด จับมือ BlackRock ผู้นำทางการลงทุนระดับโลก ในการนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนสำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์โดยเฉพาะภายใต้แนวคิด กองทุนผสมแนวคิดใหม่ ประกอบด้วยสินทรัพย์ดั้งเดิม และสินทรัพย์ทางเลือก

    “ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญของไทยพาณิชย์ ในการเป็นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่งด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทย ภายในปี 2569 ด้วยการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน Asset Under Advisory เติบโต Double Digit จากสินทรัพย์การลงทุนภายใต้ธีม Customer Centricity เติบโตกว่า 2 เท่า จากปัจจุบัน 70,000 ล้านบาท มีลูกค้า Active ด้านการลงทุนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มกว่า 30% จากปัจจุบัน 15% และสินทรัพย์การลงทุนสกุลเงินต่างประเทศเติบโตกว่า 180,000 ล้านบาท ขณะที่ยังคงสร้างความพึงพอใจของลูกค้า และรักษาผลตอบแทนสะสมที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าเหนือกว่าตลาดอย่างต่อเนื่อง” นายกฤษณ์ กล่าว

    สไหรับการดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยผลดำเนินงานด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งปี 2567 ที่ผ่านมา ยังคงมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในทุกด้าน สะท้อนจากความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับธนาคารในการบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน Asset Under Advisory เพิ่มขึ้น 10% ยอดสินเชื่อธุรกิจกลุ่มลูกค้าเวลธ์ (Wealth Lending) และการมอบโซลูชันการดูแลบริหารจัดการ การลงทุน ความคุ้มครอง ผ่านช่องทางธนาคาร ที่ยังคงครองอันดับ 1 ขณะที่ยังคงสร้างความมั่นใจและผลตอบแทนที่โดดเด่นให้กับลูกค้าด้วยยอดขายอันดับ 1 ในผลิตภัณฑ์หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง (Structured Products) 4 ปีซ้อน พร้อม 10 รางวัลการันตีจากสถาบันระดับโลก นอกจากนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้ายกระดับประสบการณ์การบริหารความมั่งคั่งด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ผ่าน SCB WEALTH LINE OA, บริการ AI Advisory Chatbot, WEALTH4U และ MY ALERT