โครงการ “ชมรมเด็กสร้างสรรค์” หรือ โครงการ FAI-FAH CLUB (ไฟ-ฟ้าคลับ)ของทีเอ็มบี ได้เปิดพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเยาวชนในโรงเรียนวัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนค้นพบและรู้คุณค่าตัวเอง ผ่านการเรียนรู้เชิงศิลปะและทักษะชีวิต ที่ต่อยอดเป็นอาชีพ พร้อมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้คืนสู่สังคม เพื่อเปลี่ยนให้ชีวิตคุณดีขึ้น ภายใต้แนวคิด TMB Make THE Difference ซึ่งปีนี้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยเล็งเห็นว่าวิชาชีพและวิชาชีวิต เป็นอีกมิติแห่งการเรียนรู้ที่ช่วยเปิดโลกให้เยาวชนได้ค้นพบพลังและศักยภาพในตัวเอง และร่วมส่งเสริมการเรียนรู้นอกตำราให้สอดคล้องกับนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
นางกาญจนา โรจวทัญญู หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร สื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “โครงการ FAI-FAH CLUB เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของไฟ-ฟ้า (FAI-FAH) โครงการซีเอสอาร์ของทีเอ็มบี เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ด้านศิลปะและทักษะชีวิต ตามแนวคิดของไฟ-ฟ้า ไปสู่นักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ให้เป็นพื้นที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุด โดยมีเป้าหมายขยายโอกาสการเรียนรู้ผ่าน FAI-FAH CLUB ในโรงเรียนเขตชุมชนต่างๆ ให้เพิ่มขึ้นทุกปี”
สำหรับ FAI-FAH CLUB ที่โรงเรียนวัดพุทธบูชา ทีเอ็มบีได้ต่อยอดเป็นปีที่ 3 โดยในปี 2558 อาสาสมัครทีเอ็มบีร่วมกันปรับปรุงพื้นที่เป็น FAI-FAH CLUB สอนวิชาออกแบบผลิตภัณฑ์จากเศษผ้าและนำออกจำหน่าย ปีต่อมา FAI-FAH CLUB เปิดสอนทักษะศิลปะเพิ่ม 3 วิชา คือ เต้น เทควันโด และกีตาร์ ตามความต้องการของนักเรียน ในปีนี้นักเรียนส่งต่อความรู้ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ชุมชนและโรงเรียนเพื่อนบ้าน เริ่มด้วยสอนการทำผ้ามัดย้อมที่ชุมชนคอลิดีน เขตทุ่งครุ โดยศูนย์ไฟ-ฟ้าจะติดตามและประเมินพัฒนาการของเยาวชนอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนางบุสบง พรหมจันทร์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “เป้าหมายคือ ให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข รู้สึกอบอุ่นและสนุก อยากมาโรงเรียน อีกอย่าง FAI-FAH CLUB มีเป้าหมายที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์โรงเรียนที่มุ่งเรื่องความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ และเสียสละ โดยนักเรียนไปเรียนที่ศูนย์ไฟ-ฟ้า ประชาอุทิศ และนำความรู้มาสอนเพื่อนๆ ที่ชมรม เด็กๆ มีความรับผิดชอบที่เห็นได้ชัดเจน อย่างเช่น ถึงเวลาสอน จะมาจัดเตรียมสถานที่ เตรียมข้อมูลที่จะสอน และยอมเสียสละเวลาส่วนตัวกับการเล่นเกม เตะบอลมาให้ความรู้เพื่อนๆ วันนี้ เราเห็นพัฒนาการที่ชัดเจน คือ เด็กมีภาวะความเป็นผู้นำ นักวางแผน มีความสามัคคี รู้จักช่วยเหลือและดูแลกัน อย่างน้อยที่สุดการที่นักเรียนมีเวทีในการแสดงศักยภาพ ได้โชว์การเต้น โชว์การเล่นกีตาร์ เป็นการวัดประสิทธิภาพของ FAI-FAH CLUB ได้เป็นอย่างดี อนาคตก็อยากที่จะเพิ่มปีละวิชาทุกๆ ปี”
ขณะที่นางแจ่ม พิมพามา รองประธานชุมชนคอลิดีน ทุ่งครุ วัย 70 ปี อาชีพขายของชำ เผยว่า “เด็กรวมกลุ่มกัน แล้วมาสอนออกแบบผ้ามัดย้อมในชุมชน ตอนลงชื่อมีแค่ 10 คน แต่พอวันเรียนมากันเยอะ ขั้นตอนก็ไม่ยาก ตอนเรียนก็สนุก เรียนแล้วก็ได้ทำผ้าเช็ดหน้าให้ลูกๆ หลานๆ ใช้ และจะสอนต่อให้คนในชุมชนที่สนใจจริงๆ”
ส่วน “น้องดรีม” ด.ญ.อริศรา คงอาจหาญ และ “น้องเต้ย” ด.ช.สรศักดิ์ สุขสบาย นักเรียนชั้น ม.3 ที่เป็นเยาวชนแกนนำ FAI-FAH CLUB วิชาออกแบบผลิตภัณฑ์ ร่วมกันเผยว่า “เราคุยกันและเลือกธีมลมหนาวเป็นลายมัดย้อมเพื่อไปสอนป้าๆ น้าๆ ในชุมชนคอลิดีน ลักษณะของลายจะสื่อถึงสายลมหนาวพัดผ่าน กระทบแผ่นน้ำเป็นคลื่น โทนสีเย็น ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์ที่ยังมีน้อยในตลาด อย่างเช่น ผ้ากันเปื้อน โคมไฟ ฯลฯ จะได้ขายดีเวลาทำเสร็จแล้ว ส่วนขั้นตอนก็ง่าย ลายของการมัดย้อมก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผูก การมัดด้วยวัสดุต่างๆ ที่จะสร้างลายผ้าที่มีอารมณ์และความรู้สึกต่างกัน”
“น้องเอ” รุจิรัตน์ สีตุ นักเรียนชั้น ม.4 เยาวชนแกนน FAI-FAH CLUB วิชาเต้น เผยว่า “หนูชอบเต้นตั้งแต่จำความได้ ตอนนี้ที่สอนเต้นฮิปฮอปพื้นฐานใน FAI-FAH CLUB มีโยกตัว กระตุกร่างกายแต่ละส่วน ย่อขา โยกตัวขึ้นลง สอนวันละ 1 ชั่วโมง มีคนเรียนวันละ 20 คน รู้สึกดีใจที่ได้ถ่ายทอดความรู้ เวลาเห็นเพื่อนๆ น้องๆ เต้นกันสวยๆ ยิ่งภูมิใจ โตขึ้นอยากเป็นเหมือน คริส บราวน์ นักร้อง แรปเปอร์อเมริกัน ที่เต้นเก่งขั้นเทพ”
“น้องเต้ย” ด.ญ.ฟ้ารุ่ง สารภี นักเรียนชั้น ม.3 เยาวชนแกนนำไฟฟ้าคลับ วิชาเทควันโด กล่าวว่า “ช่วงแรกๆ ที่สอนรู้สึกกดดัน ต้องทำการบ้านเยอะ และฝึกจิตเราให้ผ่อนคลาย คือ เวลาที่สอน เราดูว่าจุดบกพร่องหรือท่าที่แต่ละคนต้องปรับแก้คืออะไร ค่อยๆ ปรับกันทีละนิด ไม่กดดันทั้งคนสอนและคนเรียน แต่หลายครั้งที่สอนก็รู้สึกท้าทายมาก เราไม่ได้เก่งกาจ เป็นแค่สายขาวเริ่มต้น บางครั้งมีคำถาม ก็ไม่อายที่จะพูดว่าไม่รู้ เพื่อไปค้นหาคำตอบร่วมกันต่อไป หนูคิดว่าประโยชน์ของเทควันโดมีเยอะมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงยุคนี้ เพราะไว้ใช้ป้องกันตัวได้”
อย่างไรก็ตามโครงการ FAI-FAH CLUB มอบทักษะชีวิตที่ไม่ได้มีในห้องเรียน ทักษะที่ต่อยอดเป็นอาชีพ เพื่อเป้าหมายของการเรียนอย่างสร้างสรรค์ และจุดประกายเยาวชนเพื่อชุมชนได้อย่างยั่งยืนตามแนวคิดไฟ-ฟ้า มีแผนงานที่จะเผยแพร่กิจกรรมนี้สู่โรงเรียนเป้าหมายทั่วประเทศต่อไป
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
