ThaiPublica > จับเท็จ: ประเด็น > กทม. เผย กล้องวงจรจับมือระเบิดไม่ได้ เหตุมือดีปรับมุมสูง

กทม. เผย กล้องวงจรจับมือระเบิดไม่ได้ เหตุมือดีปรับมุมสูง

6 สิงหาคม 2014


ปูมหลัง

เหตุระเบิดบริเวณบิ๊กซีราชประสงค์

 

จากการชุมนุมปิดกรุงเทพฯ (SHUT DOWN BKK) ของกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เพื่อต่อต้าน และคัดค้านการทำหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการ ได้กระจายตามจุดสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ รวมทั้งบริเวณแยกราชประสงค์ที่เป็นจุดเกิดเหตุด้วย ยิ่งการชุมนุมยืดเยื้อความรุนแรงจากการก่อกวนก็ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ มิใช่เพียงแยกราชประสงค์ที่เกิดเหตุระเบิด ก่อนหน้านี้บริเวณใกล้เคียงอย่างถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมก็มีเหตุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่เหตุการณ์มิได้มีผู้ได้รับความสูญเสียมากเท่าเหตุการณ์ครั้งนี้

จากเหตุระเบิดครั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 20 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 คน ในจำนวนนี้ 2 คน เป็นเด็กชายและเด็กหญิงวัยเพียง 4 ขวบและ 6 ขวบ นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดยังสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ที่จอดบริเวณนั้น 3 คัน

 

บทวิเคราะห์: กล้องวงจรเจ้าปัญหา

 

ในประเด็นของกล้องวงจรปิดของทาง กทม. นั้น มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวในกรณีที่กล้องจับภาพมือดีที่นำถุงดำมาคลุมกล้องวงจรปิดได้บริเวณหน้าวัดเบญจมบพิตรเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 โดยชี้แจงในเบื้องต้นว่าตนได้ดำเนินการติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม ตั้งแต่ช่วงที่เริ่มชุมนุม โดยได้รับการขอร้องของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งทาง กทม. ก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ และภายหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ กทม. ได้ดำเนินการนำถุงดำออกจากกล้องวงจรบริเวณนั้นเป็นที่เรียบร้อย

 

กล้องวงจรถูกปรับ

เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นอีกครั้งที่แยกราชประสงค์เมื่อมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นแต่กล้องไม่สามารถจับภาพคนผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากมีถุงดำคลุม บางตัวก็ถูกปรับให้แหงนขึ้นฟ้า ภายหลังการประกาศของ กทม. ผู้คนในโซเซียลเน็ตเวิร์กจึงทำการตรวจสอบว่ากล้องทาง กทม. มีสภาพดังที่ทาง กทม. กล่าวอ้างหรือไม่

 

มีผู้บันทึกภาพกล้องวงจรถูกถุงดำคลุมก่อนเกิดเหตุระเบิด 1เดือน

 

มีการนำภาพของผู้ที่เคยพบเห็นว่ามีการถอดกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวออกมาเผยแพร่ในเฟสบุ๊ก อีกทั้งมีการตรวจสอบกล้องในพื้นที่เกิดเหตุพบว่ากล้องทุกตัวถูกปรับให้แหงนขึ้นฟ้า แต่ไม่ทราบผู้กระทำ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวที่เคยลงพื้นที่บริเวณนั้นยืนยันได้ว่ากล้องในบริเวณดังกล่าวมีการรับให้ผิดทิศทางจริง แต่ไม่สามารถ ส่วนกรณีที่มีผู้นำถุงดำมาคลุมนั้นกล้องบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถจับภาพที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำถุงดำมาคลุมได้ ซึ่งได้ถูกนำมาเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2557 ก่อนการเกิดเหตุระเบิดที่หน้าบิ๊กซีราชดำริ

 

กทม อ้างเหตุเข้าพื้นที่ชุมนุมไม่ได้

อย่างไรก็ตามทาง กทม. ยังอ้างเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปจัดการปัญหากล้องวงจรปิดได้อย่างทั่วถึงเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาติจากการ์ดในพื้นที่ ทำให้ที่ผ่านมากล้องวงจรไม่สามารถจับภาพเหตุปกติในบริเวณดังกล่าวได้ แต่ที่น่าสังเกตก็คือ เมื่อเกิดเหตุแล้วกล้องวงจรบริเวณดังกล่าวกลับยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้งที่เจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจหน้าที่ และกฎหมายในการดำเนินการกับผู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ เพราะเรื่องได้บานปลายเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาแล้ว

 

สรุป

จากหลักฐานต่างๆ ข้างต้นทำให้เห็นถึงสาเหตุของการที่กล้องวงจรปิดของ กทม. ในบริเวณที่เกิดเหตุไม่สามารถบันทึกภาพใดๆ ที่เป็นประโยชน์ในการหาตัวผู้ก่อเหตุได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการตัดสายไฟกล้อง การปรับทิศให้ผิดเพี้ยน และการนำถุงดำไปคลุม

ดังนั้นคำกล่าวของนางสาวตรีดาว ที่ว่า “จากเหตุดังกล่าว (เหตุระเบิดที่บิ๊กซีราชดำริ) กล้องซีซีทีวีของ กทม.ไม่สามารถจับภาพคนร้ายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ถูกปรับขึ้นมุมสูงและมีการนำถุงดำมาคลุมกล้องไว้” อยู่ในเกณฑ์ “เป็นจริง”

ป้ายคำ :