ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ธอส.ขานรับนโยบายรัฐ ปี’68 เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ลุยปล่อยกู้ “บ้านเพื่อคนไทย”

ธอส.ขานรับนโยบายรัฐ ปี’68 เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ลุยปล่อยกู้ “บ้านเพื่อคนไทย”

16 ธันวาคม 2024


ข่าวประชาสัมพันธ์

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

ธอส.แถลงผลงาน 11 เดือน ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้วกว่า 2 แสนล้าน คาดทั้งปี’67 ไม่ต่ำกว่า 2.3 แสนล้านบาท ปี’68 เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยดอกเบี้ยต่ำ ลุยปล่อยกู้โครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ช่วยคนมีรายได้น้อย – เด็กจบใหม่ได้มีบ้านเป็นของตนเอง

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอดระยะเวลา 71 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.6 ล้านครอบครัว สามารถสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้มีคุณภาพชีวิต และความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย โดย ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2567 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 155,536 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 200,856 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สูงถึง 95,125 ราย สะท้อนว่า ธอส. เป็นธนาคารที่ตอบโจทย์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัย สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางมาอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน ธอส. มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.78 ล้านล้านบาท ให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงตามความต้องการของลูกค้า อาทิ สินเชื่อบ้าน 71 ปี ธอส., โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน พ.ศ.2567, มาตรการสินเชื่อซื้อ – สร้าง และมาตรการสินเชื่อซ่อม – แต่ง ทำให้คาดการณ์ทั้งปี 2567 ธอส. จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ไม่ต่ำกว่า 230,000 ล้านบาท

ขณะที่การจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนปี 2567 และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านรายได้ให้กับลูกค้านั้น ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการรวม 114,101 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 133,255.49 ล้านบาท โดยเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรักษาบ้านให้คนไทย และทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของ ธอส. อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

นายกมลภพ กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2568 ธอส.พร้อมที่จะดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ซึ่งจะมีการนำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีทำเลดีๆอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ามาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย หรือ คนที่เริ่มทำงานได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ เริ่มต้นผ่อนชำระเดือนละ 4,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลาไม่เกิน 30 ปี ซึ่ง ธอส.ก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำประมาณ 3-4% ต่อปี หลังจากที่ รฟท.เริ่มดำเนินโครงการ และส่งรายชื่อลูกค้ามาให้ธนาคารพิจารณา โดยธนาคารจะใช้หลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเช่นเดียวกับโครงการบ้านคนไทยประชารัฐของกรมธนารักษ์ที่มีการนำที่ดินราชพัสดุมาผู้มีรายได้น้อยเช่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นเวลา 30 ปี และสามารถต่อสัญญาเช่าได้อีก 30 ปี นอกจากนี้ธนาคารก็พร้อมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน ด้วยการเป็นที่ 1 ของสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดย ธอส. คาดการณ์ปล่อยสินเชื่อใหม่ในปี 2568 ได้ไม่ต่ำกว่าปี 2567 ผ่านการให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำและเงินงวดในการผ่อนชำระอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง (Social Solution) และสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประจำ-อาชีพอิสระ ที่มีรายได้มากกว่า 25,000 บาท/เดือน (Business Solution)

“จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นในปลายปี 2567 ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจในปี 2568 ขยายตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงคาดว่าการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. จะได้ตามที่คาดการณ์ไว้ โดย ธอส. พร้อมสานต่อนโยบายของรัฐในการสนับสนุนให้คนไทยมีบ้าน ด้วยการให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มอาชีพเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ไม่ต่ำกว่าสินเชื่อใหม่ที่ปล่อยได้ในปี 2567 ได้”

นอกจากนี้ ธอส. ยังพัฒนาการให้บริการเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น อาทิ (1) โครงการสอบทานกระบวนการให้สินเชื่อ (Automate Loan Review : ALR ) โครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อสอบทานคุณสมบัติของลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้สินเชื่อที่ตรงกับความต้องการ และความสามารถของลูกค้า และ (2) โครงการระบบ GHB Digital Appraisal ระยะที่ 3 เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการประเมินราคาหลักทรัพย์ผ่านระบบดิจิทัล ซึ่งมีการขยายพื้นที่ในการให้บริการไปยังสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยระบบดังกล่าวเป็นการให้บริการด้านข้อมูลการประเมินราคาหลักทรัพย์ในเบื้องต้นให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มีความประสงค์จะขอสินเชื่อกับธนาคาร ให้สามารถประเมินราคาในเบื้องต้นเพื่อประมาณการวงเงินอนุมัติเบื้องต้นได้รวดเร็วขึ้น โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th