ThaiPublica > Sustainability > Sustainable Business > “อายิโนะโมะโต๊ะ” สร้างสังคมกินดีมีสุข รุกตลาดอาหารสร้างเสริมสุขภาพ ชูโภชนาการครบวงจร

“อายิโนะโมะโต๊ะ” สร้างสังคมกินดีมีสุข รุกตลาดอาหารสร้างเสริมสุขภาพ ชูโภชนาการครบวงจร

8 กรกฎาคม 2024


“อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนธุรกิจปี 2567 ชูกลยุทธ์โภชนาการครบวงจร รุกตลาดนวัตกรรมสุขภาพ และความงาม สร้างความ “กินดีมีสุข อย่างยั่งยืน” กวาดรายได้ 32,000 ล้านบาทและก้าวขึ้นมาติด 1 ใน Top 10 กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร ผลักดันไทยสู่ ศูนย์กลางการเกษตรและอาหาร พร้อมยอมรับสภาอากาศแปรปรวนวัตถุดิบปรับราคา ทำให้ต้องปรับเพิ่มราคาสินค้า

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัดแถลงเปิดแผนธุรกิจปี 2567 โดย มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 100 ปีที่กลุ่มบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ ก่อตั้งขึ้นโดยเริ่มจากการใช้ “ศาสตร์แห่งกรดอะมิโน” (AminoScience) พัฒนามาเป็นผลิตภัณฑ์ เครื่องปรุงรส กาแฟ และอาหารแช่แข็งภายใต้ยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ผู้คนทั่วโลกให้กินดีมีสุข ดังนั้นความเชี่ยวชาญในด้านศาสตร์แห่งกรดอะมิโน จึงถือเป็นจุดแข็งที่อายิโนะโมะโต๊ะจะมาส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลกให้กินดีมีสุข เพื่อดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนได้

“เราจะพัฒนาความเชี่ยวชาญกรดอะมิโน เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะสร้างสังคมกินดีมีสุข โดยตั้งเป้าหมายในปี 2573 ของกลุ่มบริษัทฯ จะเดินหน้ารุกตลาดอาหารที่สร้างเสริมสุขภาพ และทำให้คนมีอายุยืนยาวมากขึ้นทั่วโลก และตั้งเป้าหมายในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมลง 50 % ให้ได้ทั่วโลก”

ส่วนในประเทศไทย จะสนับสนุนภาครัฐตามแผนขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรและอาหาร (Agriculture and Food Hub) ระดับโลก โดยแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 จากเดิมที่เราการสร้างความ “กินดีมีสุข” แต่ในปีนี้เราสร้างสังคมกินดีมีสุขอย่างยั่งยืนใน 3 มิติ คือ 1) ผู้บริโภค 2) สังคมและสิ่งแวดล้อม 3) พนักงานให้มีสุขภาพที่ดีด้วย

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวว่าแผนการดำเนินธุรกิจมีเป้าหมายครอบคลุมกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งผลการสำรวจ คนรุ่นใหม่อายุ 20-39 ปี นิยมการสร้าง work-life balance เลือกรับประทานอาหารอร่อยและดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญ ต้องมีหน้าตาสวยงามน่าทาน และคำนึงถึงผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45-65 ปี จะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใส่น้ำตาล ลดเค็ม ไขมันต่ำ งดอาหารแปรรูปโดยผู้บริโภคทั้งสองกลุ่มคิดว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเอง

ดังนั้นเป้าหมายในการออกผลิตภัณฑ์ของเราจะตอบโจทย์ทั้ง สองกลุ่ม คือกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ต้องการอาหารสุขภาพที่ลดเกลือ น้ำตาล และไขมันลง

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ บอกอีกว่าภายในปี2567 จะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ทำให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผลิตภัณฑ์ในด้านความสวยงามใน 4 หมวดหมู่ คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโนสำหรับการนอนหลับ โภชนาการกีฬา บำรุงร่ายกายและบิวตี้ นอกจากนี้ เราได้สานต่อความแข็งแกร่ง ในฐานะผู้นำตลาดอาหาร ด้วยการขยายธุรกิจสู่บริการกับ “แอปพลิเคชัน i-LiveWell – แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน เพื่อติดตามพฤติกรรมการบริโภค การออกกำลังกายและการใช้ชีวิตในการดูแลสุขภาพ

อย่างไรก็ตามด้วยกลยุทธ์ การสร้าง “ความกินดีมีสุขอย่างยั่งยืน” ทำให้ในปี2567 อายิโนะโมะโต๊ะ มีผลประกอบการ 32,000 ล้านบาทและก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 8 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ 93% รสดี 89% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 53%

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ บอกด้วยว่า นอกจากการสร้างความกินดีมีสุขให้กับคนไทยผ่านโภชนาการที่ดีแล้ว อายิโนะโมะโต๊ะยังมุ่งสร้างความยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกลงทั่วโลก50 % ส่วนในประเทศไทย ได้ลดก๊าซเรือนกระจกลงไปได้ 9 % ในปี2566 และขณะนี้กำลังดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตของบริษัท ด้วยการสร้างความร่วมมือกับเกษตรกรปลูกมันสำปะหลังให้มีกระบวนการผลิตที่ลดก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ลง ภายใต้โครงการ Thai Farmer Better Life Partner ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อเพิ่มศักยภาพและเสริมทักษะเกษตรกรไทยแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การเข้าไปสำรวจปัญหาของเกษตรกร พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร และ BIOTEC-NSTDA เป็นต้น ด้วยการใช้แนวคิดวัฏจักรชีวภาพ (Ajinomoto Biocycle) สร้างระบบนิเวศเชิงบวกในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเกษตรกรไทย ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอน

“เราได้เข้าไปทำงานร่วมกับเกษตรกรจำนวน 1,500 ราย โดยเริ่มทำงานด้วยกันตั้งแต่วิเคราะห์ดิน ใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม ทำให้ลดคาร์บอนฯได้ เพิ่มผลิต 26-28% โดยขณะนี้กำลังขยายความร่วมมือกับเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น โดยพร้อมสนับสนุนให้ไทยเดินหน้าสู่ศูนย์กลางการเกษตรและอาหาร (Agriculture Hub) ด้วยการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร ลดคาร์บอน และการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเกษตร” มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าว

ส่วนกระบวนการดูแลสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ที่ได้ดำเนินการ คือ 1.การลดขยะพลาสติก ซึ่งที่ผ่านมาได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นพลาสติกรีไซเคิลแล้ว 56 % 2.ขยะอาการ 3 การจัดการทรัพยากรน้ำ 4.การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นธรรมและโปร่งใส

มร.อิชิโระ ซะกะกุระ บอกว่าการดำเนินการในต้นปี 2567 ที่ผ่านมา ไม่ได้มีปัญหาอุปสรรคมากนักยอดขายยังคงเติบโตซึ่งคาดว่าอาจจะโตได้มากกว่า จีดีพีของประเทศไทย แต่ที่มีอุปสรรคมากก็คือเรื่องของวัตถุดิบ มันสำปะหลัง ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะอากาศแปรปรวนในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราคาวัตดิบปรับขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะปรับราคาสินค้าเพิ่มมากขึ้นจากราคาเดิม

นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงนวัตกรรมสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับคนทำงานว่า เป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ต่อยอดความเชี่ยวชาญจากผู้ผลิตอาหารสู่บริการ ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมสุขภาพสำหรับองค์กร แอปพลิเคชัน i-LiveWell – แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน ร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ Invitrace พัฒนาแอปรุกตลาดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันด้วยโมเดลธุรกิจแบบ B2B เตรียมเจาะ 50 บริษัททั่วไทยที่มีนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน เพื่อยกระดับสุขภาพพนักงานออฟฟิศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล

“แอปพลิเคชัน i-LiveWell จะ ดูแลสุขภาพกาย-ใจให้ดีแบบองค์รวม โดยมีฟีเจอร์หลักคือ 1) A.I. Personal Health คำนวณแคลอรี่ นับก้าวเดิน ทำอาหาร ออกกำลังกาย การประเมินสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับภารกิจของบริษัท 2) Entertainment Activity เกมและอวตาร คอมมูนิตี้ และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพที่ดีแก่พนักงานให้ “กินดีมีสุข” อย่างยั่งยืน โดยเดินเกมขยายธุรกิจด้านบริการอย่างเต็มตัว ตั้งเป้ามีพนักงานผู้ใช้งานกว่า 3,000 คน ภายในปี 2025”