ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิด KFGLOBAL ถึง 25 มี.ค. นี้

บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิด KFGLOBAL ถึง 25 มี.ค. นี้

21 มีนาคม 2024


ข่าวประชาสัมพันธ์

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด

บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกองทุนเปิดกรุงศรี Global Unconstrained Equity (KFGLOBAL) กับโอกาสลงทุนในหุ้นคุณภาพดีทั่วโลก ที่ให้โอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีบนระดับความผันผวนที่ไม่มากจนเกินไป เสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันนี้ถึง 25 มี.ค. 67 ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ภาพรวมบรรยากาศการลงทุนในช่วงเวลานี้มีแนวโน้มที่ดีและมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่หลายเรื่อง ทั้งเรื่องแนวโน้มเงินเฟ้อที่ลดลง เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ดัชนีตลาดหุ้นหลักหลายแห่งปรับขึ้นสู่จุดสูงสุด อีกทั้งโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยเหลือเพียง 40% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 70% ปัจจัยต่างๆดังกล่าวล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้การลงทุนในตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่ดีขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจโลกที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง”

“บลจ.กรุงศรี มองว่าเป็นจังหวะดีในการลงทุนหุ้นต่างประเทศ จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนกรุงศรี Global Unconstrained Equity (KFGLOBAL) ซึ่งบริหารโดย BlackRock ผู้จัดการกองทุนระดับโลก มีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักชื่อ BlackRock Global Unconstrained Equity Fund, Class D USD ที่ได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว* กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Unconstrained approach เน้นลงทุนในบริษัทจากหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยที่ไม่ยึดติดกับประเภทหุ้น อุตสาหกรรม หรือดัชนีชี้วัด เพื่อโอกาสที่ดีที่สุดทั้งในวัฎจักรเศรษฐกิจขาขึ้นและขาลง (*ที่มา :BlackRock ณ 31 ธ.ค. 66 / ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / การจัดอันดับจาก Morningstar ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมบริษัทจัดการลงทุนแต่อย่างใด)

“จุดเด่นของกองทุนหลัก นอกจากการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตจากพื้นฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตแล้ว 50% ของพอร์ตจะลงทุนในธุรกิจที่มีความทนทานต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้พอร์ตในช่วงเศรษฐกิจขาลง ส่วนที่เหลือจะกระจายการลงทุนในหลากหลายประเภทธุรกิจที่มีศักยภาพสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม ส่งผลให้กองทุนมีผลงานที่ดีเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด พอร์ตปัจจุบันมีการลงทุนใน 3 ธีมหลักได้แก่ 1) บริษัทที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีตำแหน่งเป็นผู้นำตลาด 2) เป็นหุ้นของบริษัทที่มีเทคโนโลยี หรือมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ 3)เป็นบริษัทที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนของผลตอบแทน”

“สำหรับกรอบกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหลักจะเน้นคัดเลือกหุ้นรายตัวโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน ประมาณ 20 – 30 หลักทรัพย์ภายใต้ 3 ธีมการลงทุนหลักดังกล่าวข้างต้น “ตัวอย่างหุ้นในพอร์ตที่กองทุนหลักลงทุน เช่น Microsoft, Ferrari บริษัทผลิตรถยนต์ LVMV บริษัทลักซ์ชูรี่แบรนด์อย่างหลุยส์ วิตตอง และ ASMLบริษัทเครื่องผลิตชิปคอมพิวเตอร์ เป็นต้น การบริหารกองทุนจะใช้มุมมองระยะยาว ไม่ปรับพอร์ตบ่อยนัก โดยจะปรับพอร์ตเมื่อปัจจัยขับเคลื่อนหรือพื้นฐานหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงและส่งผลต่อปัจจัยสนับสนุนการลงทุน หรือราคาของหลักทรัพย์ในพอร์ตมีการปรับตัวจนทำให้กองทุนมีสัดส่วนของธุรกิจกลุ่ม Defensive น้อยกว่า 50% หรือระดับราคาของหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเกินกว่าความเป็นจริงอย่างมาก รวมทั้งมีการค้บพบบริษัทอื่นที่มีศักยภาพที่ดีกว่า”

ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย 1 ปีอยู่ที่ 34% ดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 24% ผลการดำเนินงานย้อนหลังเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 10% ดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 7% ผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุน(ต่อปี) อยู่ที่ 14% ดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 9% และมีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 64.8% ผลตอบแทนสะสมของดัชนีชี้วัด MSCI World อยู่ที่ 40.0%” (ที่มา : BlackRock ณ 31 ธ.ค. 66 /ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผลการดำเนินงานที่แสดงเป็นผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน)

“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่ากองทุน KFGLOBAL เป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในการเข้าถึงหุ้นคุณภาพดีทั่วโลกที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากปัจจัยพื้นฐานและการเติบโตของผลกำไรที่แข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีบนระดับความผันผวนที่ไม่มากจนเกินไป และสามารถใช้เป็นพอร์ตการลงทุนหลักของทุกท่านได้” นางสุภาพร กล่าว

คำเตือน

  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงซึ่งอาจทำให้ ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • KFGLOBAL ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศชื่อ BlackRock Global Unconstrained Equity Fund, Class D USD (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV ระดับความเสี่ยง 6 :เสี่ยงสูง