เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯถอดถอนนายเควิน แม็กคาร์ธี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันออกจากตำแหน่งประธานสภา นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่สภาผู้แทนราษฎรดึงผู้นำลงจากเก้าอี้ด้วยการลงคะแนนไม่ไว้วางใจ
นายแม็กคาร์ธี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากแคลิฟอร์เนีย ถูกโหวตให้ออกจากตำแหน่งด้วยคะแนน 216-210 เมื่อสมาชิกพรรครีพับลิกันพวกอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงกลุ่มเล็กๆ 8 คน เข้าร่วมกับพรรคเดโมแครตทั้งหมดเพื่อเห้นชอบในการยื่นญัตติ”ถอดถอนออกจากตำแหน่ง” ที่เสนอโดยตัวแทนพรรคริพับลิกันหรือ GOP (GOP ย่อมาจาก Grand Old Party เป็นชื่อเรียกของ พรรครีพับลิกัน) นายแม็ตต์ แกตซ์ จากฟลอริดา ซึ่งเป็นคู่ปรับของนายแม็กคาร์ธีกันมานาน
หลังการลงคะแนนเสร็จสิ้นลง นายแพทริค แมคเฮนรี สส.จากนอร์ธแคโรไลนา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายแม็กคาร์ธีและเป็นประธานคณะกรรมาธิการบริการทางการเงิน รับหน้าที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว และสั่งปิดสมัยประชุมสภา
นายแม็กคาร์ธี บอกกับเพื่อนสส.ด้วยกันเมื่อเย็นวันอังคารว่า เขาจะไม่ลงแข่งชิงตำแหน่งประธานสภาอีกต่อไป จากการรายงานของ NBC News คำพูดแรกของนายแม็กคาร์ธี ตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งประธานสภา คำแรกที่นายแม็กคาร์ธีพูดคือ เขา”จะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งนั้น” และเขารู้สึก “โชคดี” ที่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานสภา
นายแม็กคาร์ธีกล่าวกับผู้สื่อข่าวใน อาคารรัฐสภาว่า เขาจะไม่ลงชิงตำแหน่งประธานสภาอีก
“ผมออกจากการเป็นประธานสภาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ความสำเร็จ และมีมุมมองทางบวก” “ผมจะไม่ลงแข่งชิงประธานสภาอีกต่อไป ผมจะให้ที่ประชุมเลือกคนอื่น”
นายแม็กคาร์ธีกล่าวว่า เขาไม่เสียใจที่ความขัดแย้งกับสมาชิกพรรคของเขาเองที่ทำให้เขาต้องถูกถอดถอน
“ผมไม่เสียใจที่ได้มีการเจรจา” นายแม็กคาร์ธีกล่าว “รัฐบาลของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อหาทางประนีประนอม”
การถอนถอนนายแม็กคาร์ธีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในวันเสาร์ หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในการผลักดันกฎหมายแบบเกินคาด โดยสามารถทำให้พรรคเดโมแครตร่วมกับพรรครีพับลิกัน อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวให้กับรัฐบาล และส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามเพื่อให้มีผลเป็นกฎหมายได้ทันเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 30 กันยายน ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลรอดพ้นจากการปิดทำการ(shutdown)ไปได้
แม้นายแม็กคาร์ธีจะทำให้ทำเนียบขาวพอใจกับการผลักดันกฎหมายงบประมาณ แต่ก็ได้สร้างความไม่พอใจต่อความเป็นผู้นำของเขาในหมู่สมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดของGOP
ผู้สนับสนุนของนายแม็กคาร์ธี หลายคนกล่าวว่า เตรียมวางแผนที่จะเสนอชื่อเขาสำหรับการลงคะแนนเสียงเลือกประธานสภาครั้งใหม่
แต่สมาชิกระดับผู้นำ GOP คนอื่น ๆ ก็ถูกเสนอชื่อเข้ามาเป็นตัวแทนที่มีศักยภาพเช่นกัน รวมถึงวิปเสียงข้างมากนายทอม เอ็มเมอร์จากมินนิโซตา และผู้นำเสียงข้างมากนายสตีฟ สคาลิส จากหลุยเซียนา ทั้งสองคนได้รับความนิยมในหมู่ลูกแถวของพรรครีพับลิกัน
ครั้งสุดท้ายที่มีการเสนอญัตติขอถอดถอนด้วยการลงคะแนนเสียงในสภาคือในปี 1910 ซึ่งนายโจเซฟ แคนนอน ประธานสภาจากพรรครีพับลิกันในตอนนั้นรอดจากการถูกถอดถอนมาได้
การดำรงตำแหน่งประธานสภาของนายแม็กคาร์ธีตั้งแต่เขาได้รับเลือกในเดือนมกราคมถือว่าเปราะบาง เนื่องจากมีกลุ่มเล็กๆ ที่นำโดยนายแกตซ์ที่ไม่พอใจกับสส.แคลิฟอร์เนีย และกว่านายแม็กคาร์ธีจะได้รับตำแหน่งประธานสภา ก็ต้องมีการลงคะแนนกันถึง 15 ครั้ง
แหล่งข่าวคนหนึ่งบอกกับ NBC News เมื่อวันอังคารว่า พันธมิตรของนายแม็กคาร์ธีบางคนขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนหนึ่งลงคะแนนเข้าข้างพวกเขาเพื่อรักษาตำแหน่งวิทยากรประธานสภาของนายแม็กคาร์ธี
“เราต้องการให้เควิน แม็กคาร์ธีอยู่ในตำแหน่งประธานสภาของเราต่อไป” นายเอ็มเมอร์กล่าวระหว่างการอภิปราย “เราจะมุ่งเน้นไปที่ภารกิจของเราในการมอบชัยชนะให้กับชาวอเมริกัน”
นายแกตซ์กล่าวว่า นายแม็กคาร์ธีไม่ได้เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของพรรคการเมือง GOP อีกต่อไป หลังจากที่ประธานสภาทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตเพื่อผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลในช่วงสุดสัปดาห์
นายแกตซ์คุกคามนายแม็กคาร์ธี ด้วยการยื่นญัตติที่จะถอดถอน นับตั้งแต่เขาทำงานร่วมกับพรรคเดโมแครตในข้อตกลงเพดานหนี้ในฤดูใบไม้ผลิ
ในเดือนมกราคม เพื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะเป็นประธานสภา นายแม็กคาร์ธีจึงตกลงที่จะเปลี่ยนกฎเกณฑ์เพื่อลดเกณฑ์ที่จำเป็นในการเสนอญัตติเพื่อถอดถอนประธานสภา จาก 5 เสียงเหลือเพียง 1 เสียง
นายแม็กคาร์ธีเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมมายาวนานในพรรครีพับลิกันจากแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ยังศึกษาอยู่ในวิทยาลัย เขาเป็นประธานของ California Young Republicans และเป็นผู้นำ Young Republican National Federation นอกจากนี้ก่อนที่จะเข้าสู่แวดวงรัฐสภาสหรัฐฯ นายแม็กคาร์ธีเส้นทางการเมืองที่โดดเด่นในทั่วทั้งรัฐแคลิฟอร์เนีย เขามีตำแหน่งในสภาระดับรัฐ(state assembly)ตั้งแต่ปี 2545 ถึง 2549 และเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยของพรรครีพับลิกันระหว่างปี 2547 ถึง 2549
หลังจากได้รับเลือกเข้าสู่สภาคองเกรส นายแม็กคาร์ธีก็ไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำภายในกลุ่ม GOP ในสภาผู้แทนราษฎรอย่างรวดเร็วในช่วงสมัยที่สองของเขา โดยครั้งแรกมีตำแหน่งรองผู้นำวิปพรรครีพับลิกันตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2011 หลังจากการเลือกตั้งกลางภาคปี 2553 ที่ทำให้ GOP เข้าคุมสภาด้วยเสียงข้างมาก นายแม็กคาร์ธีจึงรับหน้าที่วิปเสียงข้างมาก ตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2557 อย่างไรก็ตาม เมื่อนายเอริก แคนเตอร์พ่ายแพ้ต่อผู้ท้าชิงฝ่ายอนุรักษ์นิยมในปี 2557 นายแม็กคาร์ธี ก็เข้ามาแทนที่เขาในฐานะวิปเสียงข้างมาก
หลังจากที่พรรคเดโมแครตกลับมาครองสภาได้ในปี 2561 นายแม็กคาร์ธีได้รับเลือกเป็นผู้นำเสียงข้างน้อยหลังจากอดีตประธานสภาพอล ไรอัน เกษียณ ตั้งแต่ปี 2562 ถึงมกราคม 2566 นายแม็กคาร์ธีดำรงตำแหน่งผู้นำเสียงข้างน้อยในสภา การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานสภาของนายแม็กคาร์ธีก็ไม่ได้ราบรื่น เนื่องจากสมาชิกพรรคของเขาไม่ได้เลือกเขา จนกระทั่งการลงคะแนนเสียงครั้งที่ 15 ในวันที่ 7 มกราคม 2566
