เปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 33 เขตในกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างเรียบร้อย หัวหน้าพรรคนำทีม ส.ส. ลงสมัครรับเลือกตั้ง ด้วยสีสันและบรรยากาศที่สนุกสนาน
วันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต ตามที่กกตประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย. 2566 โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร 33 เขตสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครได้ใช้อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง
บรรยากาศภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและคึกคัก นับตั้งแต่เวลา 05.30 น ทันทีที่ประตูสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดงเปิด กำลังใจจากพรรคการเมืองต่างๆเริ่มทยอยเข้า ศูนย์เยาวชนฯ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น โดยทั้งหมดต่างสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์ของพรรคหรือผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุน มีการเตรียมดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ป้ายข้อความให้กำลังใจ พรรคการเมืองที่ตนเองสนับสนุน
เวลา 06.00 น. แกนนำพรรคการเมืองต่าง ๆ ทยอยเดินทางมาถึงศูนย์เยาวชนฯ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ สวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขตพร้อมด้วยแกนนำของพรรคเข้าไปภายในศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้ทุกคนรวมพลังกันให้เป็นหนึ่งเดียว ทั้งรวมพลังประชาชน รวมพลังชาติ ไม่ใช่แค่เฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น และยอมรับว่าการบริหารประเทศคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แบบพลิกฝ่ามือภายในวันเดียว ส่วนความคาดหวังจำนวนที่นั่ง ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ หลังจากผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติสมัคร ส.ส.แล้วเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ และผู้สมัคร ส.ส. จะเดินทางไปที่วัดพระแก้ว และร่วมไหว้ศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางออกจากพรรคเพื่อไทยพร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 33 เขต ด้วยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า หรือรถเมล์ EV มาถึงยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชน ไทย-ญี่ปุ่น โดยมีกองเชียร์และกลุ่มสนับสนุนพรรคเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนมาก
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมากันอย่างฟูลทีม เพื่อเอาใจช่วยผู้สมัครส.ส. โดยคาดหวังมาก เพราะพื้นที่ กทม.ทำงานกันเต็มที่ ส่วนเป้าหมายแลนด์สไลด์ยังเหมือนเดิม พร้อมขอบคุณสำหรับผลโพลที่ออกมาว่าพรรคมีเสียงสนับสนุนที่เพิ่มขึ้น ถือเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย
ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางถึงสนามกีฬาเวสน์ 2 ในเวลา 07.58 น. เพื่อมาให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคเช่นเดียวกัน โดยช่วงหนึ่งของการรับสมัครนั้น ปรากฏภาพ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร นั่งข้างกัน และมีการหยอกล้อกันพูดคุยถึงบบรรยากาศการรับสมัคร ส.ส. เขตวันแรก
พล.อ.ประวิตร บอกว่า ให้กำลังใจ 33 ผู้สมัคร ส.ส. เขต กทม. โดยตั้งเป้าหมายจำนวนส.ส.ที่จะได้รับการเลือกตั้งเท่าเดิม คือ 12 ที่นั่ง ส่วนจะเพิ่มมากกว่า 12 ที่นั่งก็ขอให้ได้ก่อน ส่วนหมายเลขจะได้เบอร์อะไรก็ได้ ขอแค่เป็นเลขตัวเดียวก็เแล้วกัน ไม่ได้มีเลขนำโชคไว้ในใจ
กรณีการขึ้นดีเบตกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้น พล.อ.ประวิตรบอกว่า “ขอคิดดูก่อนเรื่องการขึ้นเวทีดีเบต เพราะไม่ใช่นักโต้วาที ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนใจหรือไม่นั้น มันเรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
ขณะที่พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส. กทม.33 เขต มายังอาคารกีฬาเวสน์ 2 และหลังจากได้เบอร์เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลจากทั้ง 33 เขตเลือกตั้ง ขึ้นรถขบวนประชาสัมพันธ์เบอร์ผู้สมัครไปตามถนนของกรุงเทพฯ
นายพิธาบอกว่า จะเน้นหาเสียงให้เรียบง่าย สะดวกต่อประชาชนในการจดจำ ไม่สับสนและไม่น่าเบื่อ โดยจะพยายามทำให้การเมืองเป็นเรื่องสนุกและมีความหวังสำหรับประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสร้างการเปลี่ยนแปลง ยิ่งประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมาก จะยิ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงเจตนารมณ์ของประชาชนได้มากเท่านั้น
สำหรับยุทธศาสตร์ในการหาเสียงจะเน้นพูดถึงนโยบายหลักๆ ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนจำได้ว่าผู้สมัคร ส.ส. เขตแต่ละคนของพรรคคือใคร โดยจะบอกว่านโยบาย 100 วันแรกจะทำอะไรบ้าง และจะมีรายละเอียดต่างๆ ในการดำเนินการในเชิงลึกว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และจดจำพรรคก้าวไกล
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย นำผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบเขต กทม. เดินทางด้วย รถเมล์ไฟฟ้า ออกจากพรรคภูมิใจไทย ไปยังอาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดงเพื่อสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 คน พร้อมจับเบอร์ ท่ามกลางการรุมล้อมของสื่อมวลชน
หลังจากผู้สมัครได้ทราบเบอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางไปยังวัดชนะสงคราม เพื่อกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เอาฤกษ์เอาชัย หลังจากนั้นผู้สมัคร ส.ส. ได้เดินทางกลับพื้นที่ เริ่มกิจกรรมรณรงค์หาคะแนนเสียงในแต่ละพื้นที่
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงในเวลา 07:30 น. นำทีม ส.ส.33 เขตมารับสมัคร โดยมั่นใจว่าจะได้ ส.ส.กทม. และ ส.ส.ในหลายจังหวัดเพิ่ม มั่นใจว่ามีเสียงตอบรับจากประชาชนดีขึ้นเป็นลำดับ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ถ้าประชาธิปัตย์ได้ส.ส.มากกว่าพรรคการเมืองอื่นหรือสามารถรวบรวมเสียงส.ส.จากพรรคต่างๆได้เป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และยังมั่นใจว่าคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่แพ้ใคร
นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค และ น.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย พร้อมผู้สมัครพรรคไทยสร้างไทย กรุงเทพมหานคร จำนวน 33 คน
คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา มีการแย่งชิงอำนาจและถูกทหาร ทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง จึงเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ของประชาชน และไม่ว่าขั้วการเมืองใดชนะ ประชาชนเป็นผู้พ่ายแพ้มาตลอด หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เชื่อว่านี่คือสงครามครั้งสุดท้ายของสองขั้วการเมือง ที่จะพาประเทศไปสู่วิกฤติและความขัดแย้งครั้งใหม่ที่ใหญ่และรุนแรงกว่าเดิม พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเป็นด่านหน้า เพื่อพาคนไทยทุกคน เอาชนะสงครามการเมือง 2 ขั้ว และพรรคไทยสร้างไทย จะพาประชาชนไปสู่โอกาสและเศรษฐกิจที่ดี
นอกจากนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส. กทม.มายังศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น โดยทั้งหมดนั่งรถมาด้วยกัน โดยพรรคชาติพัฒนากล้า จะส่ง ผู้สมัครทั้ง 33 เขต
นายกรณ์ บอกว่านโยบายพรรคฯ ต้องการให้เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง และปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาสในการทำมาหากิน มั่นใจว่านโยบายเศรษฐกิจของชาติพัฒนากล้าตอบโจทย์ชัดเจน ทั้งเรื่อง ต้นทุน ราคาน้ำมัน ตนมองว่า แค่การแลก แจก แถม นั้นไม่เพียงพอ จะต้องทำในเรื่องโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา นำโดย นายนิกร ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค และ ผอ.พรรค พรรคเสรีรวมไทย นำโดย พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค นำทีมผู้สมัคร สส.ทั้ง 33 เขตมารับสมัคร เช่นเดียวกัน
สำหรับบรรยากาศการการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในกรุงเทพ 33 เขตเป็นไปอย่างเรียนร้อย โดยการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 400 เขต ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 3 – 7 เมษายน 2566
โดยกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม 2566 เป็นวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง หรือ วันเลือกตั้งล่วงหน้า
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
