ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ‘บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 637.5 ล้านหุ้น

‘บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 637.5 ล้านหุ้น

23 สิงหาคม 2022


ข่าวประชาสัมพันธ์

นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง ‘บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ เตรียมขายหุ้น IPO ไม่เกิน 637.5 ล้านหุ้น เดินหน้าเข้าจดทะเบียนใน SET ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของไทย

‘บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 637.5 ล้านหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้ เพื่อนำเงินจากการระดมทุนใช้ขยายกำลังการผลิต สร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของไทย

นายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมานานกว่า 15 ปี โดยเป็นผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก (Wet Pet Food) และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ชั้นนำของประเทศ ส่งผลให้ AAI มีความพร้อมทางด้านบุคลากร แหล่งเงินทุน และการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเปลี่ยนแปลง พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงสู่สากล

ปัจจุบัน บริษัทฯ ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) สำหรับสุนัขและแมว ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าที่เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับสากล และภายใต้เครื่องหมายการค้าของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วย แบรนด์มองชู (monchou) และแบรนด์มาเรีย (Maria) เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดสินค้าพรีเมียม แบรนด์มองชู บาลานซ์ (monchou balanced) และแบรนด์ฮาจิโกะ (Hajiko) เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดมวลชน และแบรนด์โปร (Pro) เจาะกลุ่มลูกค้าโดยเน้นแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก และ (2) ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าในน้ำปรุงรสและซอสปรุงรส รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารปรุงสุกพร้อมทาน (Ready-to-eat) ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ ยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผลพลอยได้ (By-product) จากการแปรรูปปลาทูน่า เช่น ผลิตภัณฑ์ปลาป่น ผลิตภัณฑ์น้ำนึ่งปลา และผลิตภัณฑ์น้ำมันปลา เป็นต้น

ปัจจุบัน AAI มีโรงงานผลิต 2 แห่ง คือ (1) โรงงานสมุทรสาคร เป็นฐานการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก และผลพลอยได้จากการแปรรูปปลาทูน่า มีกำลังการผลิตรวมในปัจจุบัน 65,500 ตันต่อปี (อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก: 42,000 ตัน, อาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก: 17,500 ตัน และ ปลาป่น: 6,000 ตัน) และ (2) โรงงาน MEISI ดำเนินการโดย Shandong Thaiya Meisi Pet Food Co., Ltd (“MEISI”) ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า ตั้งอยู่ที่มณฑลซานตง ประเทศจีน โดยใช้เป็นฐานการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด มีกำลังการผลิตรวมในปัจจุบัน จำนวน 20,000 ตันต่อปี

บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เน้นการลงทุนในเทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อนำมาใช้ในการผลิต อาทิ เครื่องจักรระบบแขนกล (Robotic Arm), คลังสินค้าอัตโนมัติ (Auto Warehouse) ฯลฯ เพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานแล้ว ยังช่วยให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กรรมการผู้จัดการ AAI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสู่สากล ด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจที่สำคัญ คือ 1.) การสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้มีส่วนได้เสียและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน 2.) ทำให้องค์กรมีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องมีสุขภาพดี มีความสุขทุกครอบครัว 3.) ผลิตอาหารที่ได้มาตรฐานสากล ด้วยคุณภาพ และราคาที่แข่งขันได้ 4.) มีนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และด้านวิธีการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน 5.) พัฒนาให้บุคลากรมีความรู้ ความชำนาญ และทัศนคติที่ดีต่อองค์กร 6.) มีเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยอย่างเพียงพอในการสื่อสารและบริหารงาน 7.) ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามหลักกฎหมาย มาตรฐานแรงงานที่ดี และต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น และ 8.) มีนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อตอกย้ำศักยภาพการเป็นผู้ผลิตอาหารและอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของประเทศไทย

นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)

นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 2565มีรายได้จากการขายรวม 3,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายรวม 2,415 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 308 ล้านบาท นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยมของบริษัทฯ

นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ Head of Investment Banking Capital Market บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากที่ บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ AAI ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้เริ่มนับหนึ่งไฟลิ่งแล้วเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565 ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ AAI มีทุนจดทะเบียนจำนวน 2,125 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,125 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1,700 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,700 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 637.5 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 425 ล้านหุ้น และ 2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บมจ. เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น: ASIAN) จำนวนไม่เกิน 212.5 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 30 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ลงทุนในที่ดิน อาคาร เครื่องจักรและอุปกรณ์ เพื่อขยายกำลังการผลิต ชำระคืนเงินกู้ยืม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต