ThaiPublica > คนในข่าว > “ไซปรัส” ไข่มุกเมดิเตอร์เรเนียน “ธุรกิจสปา-โรงแรม” โอกาสลงทุนของไทย

“ไซปรัส” ไข่มุกเมดิเตอร์เรเนียน “ธุรกิจสปา-โรงแรม” โอกาสลงทุนของไทย

30 มิถุนายน 2022


นายอะยิส ลุยซู (H.E. Mr. Agis Loizou) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐไซปรัสประจำประเทศไทย ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย

สาธารณรัฐไซปรัส เตรียมยกระดับการค้า-ลงทุนกับไทย พร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ธุรกิจสปา-โรงแรม ชู “ไซปรัส”ศูนย์กลางเงินธนาคารที่มีประสิทธิภาพของยุโรป

“สาธารณรัฐไซปรัส” สำหรับคนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยและเป็นที่รู้จักมากนัก แต่หลังโควิด-19 เชื่อว่าคนไทยจะรู้จักไซปรัสมากขึ้นในฐานะหมู่เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีความสวยงามทั้งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อทั้งสองประเทศเปิดความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนมากขึ้น

นายอะยิส ลุยซู (H.E. Mr. Agis Loizou) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐไซปรัสประจำประเทศไทย ซึ่งมีถิ่นพำนัก ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ให้สัมภาษณ์ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมการประชุมมนตรีมูลนิธิเอเชีย-ยุโรป (Asia-Europe Foundation Board of Governors) ในไทย ถึงความโอกาสความร่วมมือระหว่างไทยและไซปรัสหลังโควิด-19 ว่า หลังจากนี้ ทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งด้านการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ก่อนหน้านั้นเคยหารือถึงความร่วมมือของสองประเทศในด้านการท่องเที่ยวแต่ต้องหยุดลงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและไซปรัสเป็นไปด้วยดีมาโดยตลอด นับจากความร่วมมือกันในระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ช่วยเหลือสนับสนุนกันด้วยดีเสมอมานับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตปี พ.ศ. 2523 จนถึงปัจจุบัน ด้วยลักษณะวัฒนธรรมของไทยที่อบอุ่น เป็นมิตร เคารพผู้สูงอายุ ซึ่งรวมถึงภูมิศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติที่สวยงามทั้งภูเขา ทะเล มีวิถีวัฒนธรรมด้านประวัติศาสตร์โบราณ คล้ายคลึงกับ “ไซปรัส” ทำให้เชื่อว่าเมื่อมีการเปิดประเทศ ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

“ผมประทับใจเมืองไทย และเคยเดินทางมาไทยพร้อมครอบครัวครั้งแรกเมื่อปี 1988 ที่กรุงเทพฯ อยุธยา ผมชอบคนไทยที่มีความเป็นมิตร ยิ้ม และ อากาศร้อนไม่ได้เป็นปัญหาอะไร ผมชอบทะเล บรรยากาศแบบชายหาดเมื่อมาเมืองไทยได้มองแม่น้ำก็รู้สึกดีแล้ว”

นายอะยิส ลุยซู อยากให้คนไทยได้สัมผัสความสวยงามของไซปรัส โดยบอกว่า ไซปรัสมีทุกอย่าง คุณสามารถเที่ยวแค่หนึ่งสัปดาห์แต่ได้เล่นน้ำทะเล เที่ยวภูเขา เล่นสกีบนหิมะได้ นอกจากนี้ยังสัมผัสวัฒนธรรมของสหภาพยุโรปและแอฟริกาจากปราสาทโบราณที่สวยงาม และโบสถ์บนภูเขาและหาดทรายที่สวยงามเป็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สะอาด มีพระอาทิตย์สาดแสงสีทอง คุณสามารถดำน้ำ ปีนเล่นสกีบนภูเขาได้ในเวลาไม่กี่นาที

ทีมาภาพ : https://en.wikipedia.org/wiki/Cyprus#/media/File:Chionistra_winter_1.JPG

“ไซปรัส” โอกาส ธุรกิจสปา-โรงแรมของไทย

สาธารณะไซปรัสถือเป็นประเทศตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้ของตุรกีและทางตะวันตกของซีเรีย จึงมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งกรีกและยุโรป มีประชากรเพียง 1 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายไซปรัส-กรีก ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาธุรกิจ แต่ภาษาทางการเป็นกรีก ปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข มีหัวหน้ารัฐบาล โดยไซปรัสถือเป็นประเทศเล็กแต่มีคุณภาพชีวิตที่ดีมาก มีจีดีพีต่อหัวประมาณ 26,624 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อปี ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรป นอกจากนี้ ไซปรัสยังเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาเพราะไม่มีประชากรที่ไม่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และยังถือเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงสุดเพราะมีอาชญากรรมน้อยมาก

“บ้านไม่ต้องปิดประตูหรือรถยนต์ สามารถเสียบกุญแจทิ้งไว้ได้โดยที่ไม่หาย เพราะไม่มีปัญหาอาชญากรรม ประเทศเรามีความปลอดภัยสูงมาก”

ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเกือบ 4 ล้านคน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีธรรมชาติสวยงาม มีน้ำทะเลสีเขียวครามมีหลักฐานทางโบราณคดี ที่ย้อนไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ในช่วงความรุ่งเรืองของอาณาจักรกรีกและออตโตมัน ทำให้เกิดวัฒนธรรมผสมผสาน

ด้วยไซปรัสไม่มีสถานทูตประจำประเทศไทย เนื่องจากมีบุคลากรทางการทูตไม่มาก ทำให้นายอะยิส ลุยซู ประจำกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย แต่ดูแลงานด้านการทูต 9 ประเทศรวมทั้งไทย

นายปณิธิ วสุรัตน์ กงสุลกิตติมศักดิ์ไซปรัสประจำประเทศไทย

แต่ในประเทศไทยมีนายปณิธิ วสุรัตน์ เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ไซปรัสประจำประเทศไทย ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไซปรัสจำนวนหลักร้อย และมีคนไทยอาศัยในไซปรัสจำนวน 200 คน

นายปณิธิกล่าวว่า ก่อนเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจกรีซช่วงปี 2556 ไซปรัสเป็นประเทศที่พึ่งพาตัวเอง ไม่ได้ส่งออกหรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากนัก โดยผลิตไวน์และอาหาร ค้าขายในประเทศเท่านั้น ขณะที่พลังงานก็เน้นพลังงานจากธรรมชาติ แสงอาทิตย์ และลม

แต่หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าเป็นโอกาสในการฟื้นความสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ได้รับการตอบรับจากกลุ่มทัวร์ไทยดีมาก โดยเพียงแค่หนึ่งเดือนที่ผ่านมากรุปทัวร์ไทยเดินทางไปท่องเที่ยวแล้ว 3 กลุ่ม

อย่างไรก็ตาม กงสุลกิตติมศักดิ์ไซปรัสประจำประเทศไทยบอกว่า ถือเป็นโอกาสในการขยายแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ของคนไทยจากเดิมที่คนไทยมักจะไปเที่ยว ลอนดอน นิวยอร์ก ปารีส หลังจากนี้ไซปรัสจะเป็นที่หมายใหม่ในการท่องเที่ยวในยุโรป

“กำลังหารือกับหอการค้าไทยในเรื่องของธุรกิจโรงแรมและสปาที่จะเข้าไปทำธุรกิจ เนื่องจากขณะนี้ ไซปรัสมีคาสิโนแห่งใหม่ และพบบ่อน้ำมัน 11 แห่ง แต่เขายังขาดงานบริการด้านธุรกิจสปาและโรงแรม คาดว่าธุรกิจไทยน่าจะตอบโจทย์ด้านนี้ได้”

นายปณิธิกล่าวว่า ไซปรัสเป็นประเทศที่สวยงามและสงบ จากที่เป็นกงสุลมานานกว่า 10 ปี ทำให้เห็นถึงศักยภาพของทั้งสองประเทศที่จะร่วมมือกันในด้านการท่องเที่ยวและลงทุนได้ โดยเชื่อว่าภายในสิ้นปีนี้ อยากจะชวนนักธุรกิจไทยไปไซปรัสเพื่อดูโอกาสในการลงทุน รวมถึงชวนนักธุรกิจไซปรัสมาดูโอกาสลงทุนในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

“ไซปรัส” ชูศูนย์กลางการเงินที่ปลอดภัย

นายอะยิส ลุยซู (H.E. Mr. Agis Loizou)

ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุนนับจากเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2547 ธุรกิจส่วนใหญ่ของไซปรัสเป็นด้านพาณิชย์นาวี โทรคมนาคม ธุรกิจด้านการเงินการธนาคาร และการท่องเที่ยว โดยมีนโยบายเศรษฐกิจสำคัญคือ ทำให้ประเทศเป็นฐานสำหรับการทำธุรกิจของชาวต่างชาติ แต่ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของไซปรัสคือศูนย์กลางทางการเงินที่หลายประเทศเข้ามาใช้เป็นฐานด้านธุรกิจทางการเงิน จนทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินที่อาจไม่เหมาะสม

ในเรื่องนี้ นายอะยิส ลุยซู กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับไซปรัสมาก ไซปรัสเป็นประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้กฎระเบียบในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินต้องดำเนินตามเงื่อนไขของสหภาพยุโรป จึงมีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพมาก ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีเว็บไซต์ที่บิดเบือนการทำธุรกิจทางการเงินของไซปรัสเป็นอย่างมาก จึงอยากแนะนำให้ผู้ที่สนใจเข้าเว็บไซต์ที่ถูกต้อง ดังนี้ 1. http://www.cyprus.gov.cy/portal/portal.nsf/citizen_en?OpenForm&access=0&SectionId=citizen&CategoryId=none&SelectionId=home&print=0&lang=en 2. https://mfa.gov.cy 3. https://www.investcyprus.org.cy

ไซปรัส ถือเป็นศูนย์กลางการเงินและธนาคารเป็นสะพานเชื่อมเศรษฐกิจตะวันออกกลาง ยุโรป และมีธนาคารที่ดีที่สุดในยุโรป เนื่องจากไซปรัสเป็นสมาชิกอียู ทำทุกอย่างตามกฎหมายของอียูอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และมีความภูมิใจในระบบการเงินการธนาคารที่มีประสิทธิภาพ

“เราเป็นประเทศสมาชิกของอียู ทำให้เงื่อนไขกฎระเบียบในการทำธุรกิจอยู่ภายใต้กฎระเบียบของอียู จึงคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาใช้เป็นฐานทางการเงินที่ผิดกฎหมายได้ นอกจากนี้ เรามีบุคลากรที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญและพยายามให้แรงจูงใจนักลงทุนจากยุโรปโดยมีภาษีที่โปร่งใส ดึงดูดนักลงทุนตามกำกติกาของอียูที่ถูกต้องตรวจสอบได้”

อย่างไรก็ตาม นายอะยิส ลุยซู ย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและไซปรัส ที่จะเกิดขึ้นหลังโควิด-19 ใน 3 ด้าน คือ 1. การเพิ่มพูนการค้าและการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ 2. การยกระดับการท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว 3. แลกเปลี่ยนความร่วมมือในด้านวัฒนธรรมและการศึกษา ซึ่งทั้ง 3 ด้านเชื่อว่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองประเทศ