ThaiPublica > Native Ad > ปตท. ผนึก กสศ.ชวนทุกภาคส่วนร่วม “PTT Virtual Run” ช่วยเด็กยากจนพิเศษกว่า 6 หมื่นราย

ปตท. ผนึก กสศ.ชวนทุกภาคส่วนร่วม “PTT Virtual Run” ช่วยเด็กยากจนพิเศษกว่า 6 หมื่นราย

17 พฤษภาคม 2022


ปตท. มุ่ง “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ผนึก กสศ. ช่วยเด็กยากจนพิเศษกว่า 6 หมื่นรายที่อาจจะหลุดออกนอกระบบ จากผลกระทบโควิด-19 ให้ “น้องได้กลับโรงเรียน” ปีการศึกษา 2565 เชิญทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรม PTT Virtual Run 15 พ.ค.-30 มิ.ย.นี้

ข้อมูลกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)รายงานอย่างต่อเนื่องถึงวิกฤติการศึกษาไทยในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้เด็กยากจนพิเศษหลุดออกจากระบบการศึกษามากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงยิ่ง แม้ว่าไม่มีโรคระบาด การศึกษาก็มีปัญหาอยู่แล้ว เด็กไทยอายุ 10 ปีที่ไม่สามารถอ่านเขียนระดับที่ใช้งานได้ หรือ Learning poverty มีประมาณ 23.5 % ตัวเลขนี้อาจจะย่ำแย่ลง หรือคะแนน PISA ด้านการอ่านที่ต่ำกว่ามาตรฐานถึง 59.5 % และสุดท้ายคือการเข้าถึงทรัพยากรทั้งในบ้านหรือในโรงเรียนที่เหลื่อมล้ำกันค่อนข้างมาก

สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษายิ่งถ่างมากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่าปี 2563 มีนักเรียนยากจน 1.7 ล้านคน ในส่วนนี้เป็นนักเรียนยากจนพิเศษถึง 1 ล้านคน ทั้งนี้หากเทียบก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในภาคเรียนที่ 1/2562 พบว่ามีนักเรียนยากจนพิเศษ (นักเรียนทุนเสมอภาค) ที่ผ่านการคัดกรองใหม่ มีจำนวน 652,341 คน

ทั้งนี้เป็นผลจากรายได้ครัวเรือนกลุ่มเด็กยากจนพิเศษมีรายได้เฉลี่ยวันละ 37 บาท และมีความเสี่ยงที่เด็กลุ่มนี้จะหลุดออกนอกระบบการศึกษา ด้วยเหตุนี้จึงมีหลายภาคส่วนประสานความร่วมมือกับกสศ.เพื่อให้ “น้องได้กลับโรงเรียน” ด้วยการจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษทั่วประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ได้ทันเวลา

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)ร่วมพิธีแสดงเจตนารมณ์ “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” เพื่อคืนโอกาสให้แก่เด็กนักเรียนและเยาวชนในช่วงชั้นรอยต่อ ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษาในปี 2565 ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยมี ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการบริหาร กสศ. และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธี

ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ปตท. ได้ช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระภาครัฐจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจัดตั้ง “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ขึ้นในปี 2564 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ระบบสาธารณสุขในการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาด อย่างไรก็ดี โควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำให้รายได้ของหลายครัวเรือนลดลง เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เด็กนักเรียนจำนวนมาก มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

นายอรรถพล กล่าวว่า ปตท. จึงจัดตั้ง “โครงการลมหายใจเพื่อน้อง” ขึ้น โดยตั้งเป้ามอบทุนการศึกษากว่า 150 ล้านบาท ผ่าน กสศ. ให้แก่น้อง ๆ เยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 จำนวนกว่า 60,000 คนทั่วประเทศ เพื่อร่วมลดช่องว่างทางการศึกษา จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมสร้างโอกาสในกิจกรรม PTT Virtual Run เพื่อแปลงกิจกรรมการเดินหรือวิ่งให้เป็นทุนการศึกษา โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่ 15 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2565”

พร้อมกล่าวต่อว่า “ทุกลมหายใจของเราจะมีคุณค่ายิ่ง หากสามารถช่วยสนับสนุนให้กับน้อง ๆ กว่า 60,000 คน ได้กลับเข้าสู่โรงเรียน ปตท. จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรม PTT Virtual Run เดินหรือวิ่งสะสมระยะทาง ทุก 1 กิโลเมตร มีมูลค่าเท่ากับ 250 บาท โดย 10 กิโลเมตร จะมีมูลค่าเป็นทุนการศึกษาจำนวน 2,500 บาท ซึ่งสามารถพาน้องกลับโรงเรียนได้ 1 คน” นายอรรถพล กล่าว

ดร.ไกรยส กล่าวว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทย และขนาดประชากรของครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนของสภาพัฒน์ทั้งในและนอกระบบการศึกษา มีอยู่มากกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ด้วยรายได้ที่ลดลงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งช่วงรอยต่อระหว่างปีการศึกษาในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุก ๆ ปี คือช่วงเวลาสำคัญที่จะกำหนดชะตาชีวิตการเรียนต่อของนักเรียนในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
โดยในช่วงก่อนปิดภาคเรียนที่ผ่านมา กสศ. สำรวจพบว่ามีนักเรียนในครัวเรือนยากจนพิเศษช่วงชั้นรอยต่อจำนวนกว่า 60,00 คน ที่มีความเสี่ยงหลุดออกจากระบบ ซึ่งการหลุดออกจากระบบการศึกษาก่อนวัยอันควรจะทำให้พวกเขาติดอยู่ในกับดักความยากจน และมีโอกาสสูงมากที่ความยากจนจากรุ่นพ่อแม่จะถูกส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเราเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า ปัญหาความยากจนข้ามชั่วคน (Intergenerational Poverty) ที่อยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน

ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.

“ในวันนี้ กสศ. จึงขอขอบคุณ ปตท. ที่ให้ความไว้วางใจ กสศ. ในการนำเงินที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อช่วยสนับสนุนเยาวชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งคณะกรรมการบริหาร กสศ. มีนโยบายให้สำนักงาน กสศ. มุ่งใช้ฐานข้อมูล ผลงานวิจัย และผลการพัฒนานวัตกรรมต้นแบบการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเหนี่ยวนำทรัพยากรและความร่วมแรงร่วมใจจากหน่วยงานภาคีทุกภาคส่วน ให้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างยั่งยืนตามกลยุทธ์ All for Education”
ด้วยความมุ่งมั่นนี้ ปตท. และ กสศ. เชื่อมั่นว่าหากเด็กและเยาวชนได้รับโอกาส และสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ จะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป