
โออาร์ ประกาศวิสัยทัศน์ประจำปี 2565 “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” หรือ “Empowering All Toward Inclusive Growth” พร้อมตั้ง OR Goal 2030 3 ด้าน ได้แก่ ชุมชน สิ่งแวดล้อม และพันธมิตร เตรียมงบ 200,000 ล้านรองรับการลงทุนในอีก 10 ปี
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวถึงการเปลี่ยนวิสัยทัศน์ใหม่และทิศทางการดำเนินธุรกิจของ โออาร์ รวมทั้งเป้าหมายปี 2030 (พ.ศ. 2573) ว่าบริษัทได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางด้านภูมิอากาศ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีในการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมของผู้บริโภค การใช้พลังงานสะอาด และปัญหาสังคมอย่างเรื่องความเหลื่อมล้ำ จึงได้ปรับทิศทางในการขับเคลื่อนธุรกิจ และตอกย้ำถึงเจตจำนง ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการเติบโตของผู้คนและสิ่งแวดล้อม และได้กำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ คือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” หรือ “Empowering All Toward Inclusive Growth” ซึ่งจะเป็นทิศทางในการดำเนินธุรกิจของ โออาร์ รวมทั้งตั้งเป้าหมายในปี 2030 หรือ OR 2030 Goals ใน 3 ด้าน คือ
- การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน (Living Community) ซึ่งครอบคลุมทั้งในพื้นที่ที่ โออาร์ ดำเนินธุรกิจและชุมชนรอบพื้นที่ธุรกิจ มากกว่า 15,000 ชุมชน หรือกว่า 12 ล้านชีวิต
- การสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ครอบคลุมตลอดทั้งการดำเนินธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในสถานประกอบการ และลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ โดยตั้งเป้าที่จะลดให้ได้มากกว่า 1 ใน 3 หรือประมาณ 33% เมื่อเทียบกับปี 2018 รวมทั้งตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutrality) ภายในปี 2030 และบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050
- การสร้างการเติบโต สร้างอาชีพ และการกระจายความมั่งคั่ง (Economic Prosperity) สู่คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ผู้ประกอบการขนาดย่อม (MSMEs) พนักงาน และชุมชนมากกว่า 1 ล้านราย ผ่านการเติบโตโดยการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) เป็นหลัก

นางสาวจิราพร กล่าวต่อว่า การเติบโตรูปแบบใหม่ของ โออาร์ จะเป็นการเติบโตแบบ Outside-In หรือการเติบโตโดยการเข้าไปร่วมมือกับธุรกิจที่สร้างจากพันธมิตรภายนอกสนับสนุนกันและกันผ่านการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพ (Physical) ทางดิจิทัล (Digital) ตลอดจนความสามารถในการขยายธุรกิจให้เติบโต (Scalability) เช่นการบริหารงานแบบมืออาชีพ ความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การขยายฐานลูกค้าและการต่อยอดความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์
“โออาร์ต้องการสร้างจุดยืนที่ชัดเจนในการเป็น Inclusive Growth Platform เพื่อรองรับการเติบโตร่วมกับพันธมิตร ซึ่งจะเป็นธุรกิจใดก็ตามที่ โออาร์ สามารถเข้าไปสนับสนุนได้แล้วก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลาง หรือธุรกิจที่ต้องการการสนับสนุน”
นางงสาวจิราพร กล่าวต่อว่า โออาร์ได้พัฒนาโมเดล “OR Inclusive Partnership” ซึ่งประกอบด้วยการนำความต้องการของลูกค้าของพันธมิตรเป็นที่ตั้ง แสวงหาสิ่งที่พันธมิตรต้องการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า และการเข้าไปเติมเต็มได้ด้วยศักยภาพที่บริษัทมีอยู่ ตลอดจนพัฒนาระบบการปฏิบัติงานที่ยืดหยุ่นให้สามารถรองรับการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และสอดคล้องกับพันธกิจทั้ง 4 ด้าน คือ การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ (Seamless Mobility) การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตอย่างครบวงจรเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ (All Lifestyles) การขยายฐานธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก (Global Market) และการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมในแบบฉบับของ โออาร์ (OR Innovation)
ทั้งนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าหมายและคาดหวังว่าในปี 2030 จะมี EBITDA มากกว่า 40,000 ล้านบาท โดยกว่าร้อยละ 50 มาจากการเติบโตร่วมกับพันธมิตรของ โออาร์
“วันนี้ โออาร์ พร้อมที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ (Partnership) เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน และในขณะเดียวกันก็สามารถเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบครัน ตอบโจทย์การชีวิตในทุกรูปแบบ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญ โออาร์ จะไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจที่มุ่งเน้นแสวงหากำไร แต่ยังเป็นอีกเสาหลักของสังคมในยุคนี้ ที่ไม่ได้มองว่าผู้คนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ แต่ล้วนเป็นชีวิตที่เราอยากให้เติบโตไปด้วยกัน” นางสาวจิราพร กล่าว