ThaiPublica > Native Ad > “ซีพีเอฟ” เดินหน้า “2030 Sustainability in Action” มุ่ง “สุขภาพหนึ่งเดียว” ส่งมอบอาหารจากปศุสัตว์ที่ดีและปลอดภัย

“ซีพีเอฟ” เดินหน้า “2030 Sustainability in Action” มุ่ง “สุขภาพหนึ่งเดียว” ส่งมอบอาหารจากปศุสัตว์ที่ดีและปลอดภัย

18 พฤศจิกายน 2021


“ซีพีเอฟ” เดินหน้า “2030 Sustainability in Action” มุ่ง “สุขภาพหนึ่งเดียว” ส่งมอบอาหารจากปศุสัตว์ที่ดีและปลอดภัย ด้วยการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน

“คุณภาพและความปลอดภัย” หัวใจหลักของการผลิตอาหาร ในปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกตื่นตัวในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้สถานการณ์ของการเกิดโรคอุบัติใหม่ ในอุตสาหกรรมอาหารต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ต้องมาพร้อมทั้งความสะอาด ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ ที่ต้องใส่ใจตั้งแต่ต้นทางของการผลิต

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญตลอดกระบวนผลิตเนื้อสัตว์ ตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบ จนถึงปลายทางเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย และดีต่อสุขอนามัยของผู้บริโภค จึงเดินหน้าเป้าหมายสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ปี 2573 มุ่งมั่นส่งเสริมภาวะสุขภาพที่ดีของสัตว์ ผลิตเนื้อสัตว์คุณภาพดีและปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต สร้างความมั่นคงทางอาหารในอนาคต

นายสัตวแพทย์พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านระบบมาตรฐานอาหารสากล ในฐานะประธานคณะกรรมการสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ภายใต้กลยุทธ์ความยั่งยืนใหม่ ซีพีเอฟ “2030 Sustainability in Action” เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ อย่างยั่งยืนในอีก 9 ปีข้างหน้า (2564-2573) การดำเนินงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญในการสร้างอาหารมั่นคง โดยมุ่งเน้นการยกระดับแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในการปกป้องและดูแลสัตว์ ให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เจ็บป่วย ได้
รับการดูแลให้มีความเป็นอยู่ที่เหมาะสม มีสุขอนามัยที่ดี มีที่อยู่สะดวกสบาย มีอาหารและนํ้าเพียงพอ ได้แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์สากล หรือหลักอิสระ 5 ประการ (Five-Freedom Principles) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ให้ปลอดโรค
และแข็งแรง ส่งผลดีต่อการผลิตอาหารปลอดภัย

นายสัตวแพทย์พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านระบบมาตรฐานอาหารสากล ในฐานะประธานคณะกรรมการสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ

ซีพีเอฟ ประกาศนโยบายด้านสวัสดิภาพสัตว์และวิสัยทัศน์การใช้ยาต้านจุลชีพด้วยความรับผิดชอบ ให้สัตว์ได้รับการเลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ปราศจากความทุกข์ทรมาน และเคร่งครัดในการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับสัตว์ เฉพาะกรณีที่ต้องรักษาสัตว์บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเท่านั้นซึ่งควบคุมและดูแลโดยสัตวแพทย์ผู้ควบคุมฟาร์ม และไม่มีการใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ตลอดจนส่งเสริมให้คู่ค้าธุรกิจและเกษตรกรของบริษัทฯ นำไปประยุกต์ใช้ ครอบคลุมธุรกิจการเลี้ยงไก่เนื้อ สุกร เป็ด ไก่ไข่ และธุรกิจสัตว์น้ำ รวมถึงการคัดเลือกและทดสอบสายพันธุ์ตามหลักพันธุกรรมธรรมชาติ โดยไม่ใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมหรือการโคลนนิ่งในกระบวนการเพาะพันธุ์สัตว์

“บริษัทฯ ไม่เพียงนำหลักสวัสดิภาพสัตว์มาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในฟาร์มเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญ ตั้งแต่การจับสัตว์ที่ฟาร์ม การขนส่ง จนถึงโรงงานแปรรูป เพราะบริษัทฯตระหนักดีว่าสัตว์ที่สุขภาพดี ส่งผลดีต่อคุณภาพเนื้อสัตว์และอาหารปลอดภัย รวมทั้งสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหลักประกันอาหารมั่นคงปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต” นายสัตวแพทย์พยุงศักดิ์ กล่าว

ชูหลักสวัสดิภาพสัตว์ ผลิตอาหารปลอดภัย

ซีพีเอฟ ใส่ใจสุขภาพสัตว์ให้แข็งแรงทุกช่วงอายุทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ ทั้งธุรกิจในประเทศไทยและกิจการในต่างประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายสำคัญด้านสวัสดิภาพสัตว์ในปี 2573 คือ

1.ฟาร์มสุกรแม่พันธุ์อุ้มท้อง 100% ต้องได้รับการเลี้ยงดูในระบบคอกขังรวม มีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและมีปฏิสัมพันธ์กับสุกรตัวอื่นอย่างเป็นธรรมชาติ

2.เพิ่มกำลังการผลิตไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระในโรงเรือนระบบปิดปีละ 30% เทียบกับปี 2563 ( ประมาณ 16 ล้านฟอง)

3.ฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ 100% ได้รับการเสริมสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น คอน ลูกบอล และกระสอบแกลบ ให้ไก่ได้คุ้ยเขี่ยและจิกเล่น ตามธรรมชาติ

ในส่วนของธุรกิจสุกร มีการเลี้ยงสุกรตามหลัก 3Ts (No Testicies, No Teeth Clippig and No Tail Docking) เพื่อลด ละ เลิก การตอนสุกรเพศผู้ในประเทศไทย และขยายไปยังกิจการในต่างประเทศ คือ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ตลอดจนยกเลิกการตัด/กรอฟันสุกรในประเทศไทยและการตัดหางสุกรโดยขยายแนวปฏิบัติทั้งสองด้านไปยังประเทศมาเลเซีย และไต้หวันแล้ว

นวัตกรรมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ

ซีพีเอฟ นำเทคโนโลยีทีทันสมัยและนวัตกรรมมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยงและผลผลิตแล้ว การคิดค้นนวัตกรรมในการเลี้ยงสัตว์ที่ส่งเสริมให้สัตว์มีสุขภาพดี เช่น สูตรอาหารสัตว์ที่ผสม “โพรไบโอติก” ช่วยระบบการย่อยอาหารของสัตว์ให้
ทำงานดีขึ้น ทำให้สัตว์กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสมมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นวัตกรรมสูตรอาหารสัตว์ที่ส่งเสริมคุณสมบัติจำเพาะของเนื้อสัตว์ อาทิ “ไก่เบญจา” ผลิตภัณฑ์ไก่สดที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง และผลิตภัณฑ์หมู “หมูชีวา” ที่มีโอเมก้า 3 ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยง และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจาก NSF International (National Sanitation Foundation)

บริษัทฯ ยังได้พัฒนานวัตกรรมสารสกัดจากสมุนไพรที่มีกลิ่น สำหรับพ่นตัวสุกรให้มีกลิ่นเดียวกันให้กับลูกสุกรหลังหย่านมอยู่รวมฝูงได้เร็วขึ้น ช่วยลดพฤติกรรมการต่อสู้กันตามธรรมชาติ เนื่องจากลูกสุกรมาจากหลายแม่และหลายแหล่งเมื่อต้องมาอยู่ร่วมกันในโรงเรือน สำหรับเลี้ยงจึงต่อสู้กัน ทำให้สัตว์ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ทำให้เกิดความเครียดต่อสัตว์ มีผลต่อคุณภาพเนื้อสัตว์

เช่นเดียวกับธุรกิจสัตว์น้ำ ซึ่งบริษัทฯให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมมาใช้ อาทิ นวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อไม่ตัดก้านตาแม่พันธุุ์กุ้ง ด้วยการพัฒนาสารชีวโมเลกุลที่มีความจำเพาะ เพื่อพัฒนารังไข่ของแม่พันธุ์กุ้งให้สามารถวางไข่ได้รวดเร็วขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องตัดก้านตาแม่พันธุ์กุ้งเพื่อเร่งการวางไข่

นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลทั้งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และ IoT (Internet of Things) มาช่วยติดตามการกินอาหารและน้ำ การเจริญเติบโต ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในฟาร์ม และความผิดปกติของพฤติกรรมต่างๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้การวิเคราะห์และประเมินผลมีความแม่นยำและสม่ำเสมอ สร้างภูมิคุ้มกันและสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการฟาร์ม ลดการสูญเสียและต้นทุนการผลิต

ซีพีเอฟ มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวทาง “สุขภาพหนึ่งเดียว” (One Health) เพื่อการผลิตอาหารจากปศุสัตว์ที่ดีและปลอดภัย สอดรับตามแนวทางด้านการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน