ThaiPublica > สู่อาเซียน > นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ฉายภาพ “อำนาจเศรษฐกิจเวียดนาม”ฉลองวันชาติ 76 ปี

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ฉายภาพ “อำนาจเศรษฐกิจเวียดนาม”ฉลองวันชาติ 76 ปี

2 กันยายน 2021


นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวปาฐกถาในโอกาสการฉลองวันชาติของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ครบรอบ 76 ปี ที่มาภาพ: https://vietnamnews.vn/politics-laws/1023342/pm-chairs-virtual-ceremony-of-the-76th-national-day-celebration.html

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวปาฐกถาในโอกาสการฉลองวันชาติของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ครบรอบ 76 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 2 กันยายนของทุกปี ที่จัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ และถ่ายทอดไปยัง 194 แห่งทั่วโลก

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่าตลอด 76 ปีที่ผ่านมา พรรค รัฐ และประชาชนของเวียดนามได้พยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตย เอกภาพ ความเป็นหนึ่งเดียวของดินแดน กำหนดความเป็นชาติด้วยตนเอง และเสรีภาพและความสุขของประชาชน ในจิตวิญญาณแห่ง “ไม่มีอะไรมีค่ามากกว่าอิสรภาพและเสรีภาพ”

นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า เวียดนามสนับสนุนอย่างแข็งขันและดำเนินการด้วยความรับผิดชอบเพื่อสันติภาพ ความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกัน และความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคและของโลก

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า “ที่น่าทึ่งที่สุด หลังจาก 35 ปีของการปฏิรูป ตามนโยบาย Doi Moi หรือ โด่ย-เหม่ย การเปิดกว้างและการบูรณาการ การเอาชนะความท้าทายและความยากลำบากนานับประการ และด้วยความช่วยเหลือที่ประเมินค่ามิได้และมีประสิทธิภาพของเพื่อนต่างชาติ เวียดนามจึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ในทุกด้าน”

“ขนาดและอำนาจของเศรษฐกิจเวียดนามกำลังพุ่งทะยาน จากประเทศที่ยากจนและด้อยพัฒนา เวียดนามได้กลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลาง องค์การสหประชาชาติยอมรับว่าเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ โดยเฉพาะด้านการลดความยากจน ความเสมอภาคทางเพศ การดูแลสุขภาพและการศึกษา”

พรรคได้เติบโตขึ้นและสมบูรณ์ขึ้น ความเป็นผู้นำและความพร้อมขององค์ประกอบและสมาชิกในพรรคก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน หลักนิติธรรมของสาธารณรัฐสังคมนิยม โดยและเพื่อประชาชนได้รับการเสริมสร้างอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจแบบตลาดเชิงสังคมนิยมมาถูกทางแล้ว สภาพแวดล้อมสำหรับธุรกิจและการลงทุนมีแนวโน้มดีขึ้น มีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม รวมทั้งดำรงไว้ซึ่งการป้องกันประเทศและความมั่นคง ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศขยายในวงกว้างและลึกยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน เวียดนามเป็นประเทศที่มีประชากรเกือบ 100 ล้านคน โดยมีรายได้ต่อหัวมากกว่า 3,500 เหรียญสหรัฐ

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ เน้นย้ำว่า ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้และความมุ่งมั่นของชาวเวียดนาม และความทะเยอทะยานของพวกเขาในการพัฒนา ภายใต้การนำอันรุ่งโรจน์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวอีกว่า “ในขณะเดียวกัน เวียดนามจะเป็นมิตรที่เชื่อถือได้ เป็นพันธมิตร และเป็นสมาชิกที่กระตือรือร้นและมีความรับผิดชอบของประชาคมนานาชาติ ดังเช่นที่เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวียดนามมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและมีความรับผิดชอบต่อสหประชาชาติและประเด็นระหว่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหประชาชาติ ซึ่งถือว่าเวียดนามมีส่วนสำคัญในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค”

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ชี้ว่า การอุบัติและการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายอย่างมากแก่ทุกประเทศในหลายด้าน โดยเฉพาะชีวิต สุขภาพ และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ทำให้การว่างงาน ความยากจน ความไม่เท่าเทียมกัน และความไม่มั่นคงเพิ่มขึ้น

ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม การมีส่วนร่วมของระบบการเมืองทั้งหมด และด้วยเจตจำนงและจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ของทั้งประเทศ เวียดนามได้พยายามร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักสองประการ ได้แก่ การต่อสู้กับโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ และการส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมและการพัฒนาเพื่อการเติบโต ในขณะเดียวกันก็ดูแลรักษาความมั่นคงให้กับสังคมและความปลอด ภัยให้กับประชาชน

นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ ได้ใช้โอกาสนี้แสดงความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจถึงความรู้สึก และความเสียใจต่อความยากลำบากและความสูญเสียที่ประเทศอื่น ๆ และผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการระบาดใหญ่ และขอบคุณประชาคมระหว่างประเทศสำหรับความร่วมมือและความช่วยเหลืออย่างแข็งขันและมีประสิทธิภาพต่อเวียดนาม

“เราขอบคุณประเทศต่างๆ และองค์กรระหว่างประเทศที่ให้ความสนใจ และเอื้ออำนวยชาวเวียดนามในต่างประเทศและชุมชนเวียดนามในแต่ละประเทศ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

“เราขอบคุณอย่างสุดซึ้งและซาบซึ้งอย่างมากกับการแสดงออกที่สูงค่า และสะท้อนถึงความเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามจำเป็น และยืนยันชัดเจนถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งระหว่างเวียดนามและมิตรทั่วโลก”

การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและเหนียวแน่นยิ่งขึ้นของประเทศต่างๆ และเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวมากขึ้นในความพยายามร่วมกันเพื่อเอาชนะการแพร่ระบาด เป็นเรื่องที่สำคัญ

ในด้านประชาคมระหว่างประเทศ นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า “เราหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือและแบ่งปันเทคโนโลยี ประสบการณ์ การเงิน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ยารักษาโรค และโดยเฉพาะวัคซีน โดยเร็วที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ เพราะสำหรับเรา “วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ได้รับเร็วที่สุด”

“ในขณะเดียวกัน เราหวังว่าประเทศต่างๆจะอำนวยความสะดวกในการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือในการขนส่งผู้คนและสินค้าระหว่างประเทศ และป้องกันไม่ให้การผลิตและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงัก”

นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่าเวียดนามจะยังคงพยายามปกป้องผลประโยชน์ของรัฐชาติบนพื้นฐานของหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ

“ที่สำคัญที่สุด เรายึดคนเป็นศูนย์กลาง เป็นประเด็น เป็นเป้าหมายสูงสุด และแรงผลักดันที่สำคัญที่สุดของการพัฒนา”

“เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการพัฒนาโดยรวมของประชาชนในฐานะที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจ ต้นทาง และต้นแบบของการพัฒนาประเทศของเรา และเราส่งเสริมการผสมผสานกลมกลืนระหว่างค่านิยมดั้งเดิมและความทันสมัย”

ในอนาคต นายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ กล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามจะดำเนินตามนโยบายต่างประเทศอย่างต่อเนื่องในด้านความเป็นอิสระ การพึ่งพาตนเอง พหุภาคี การกระจายความเสี่ยง และการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการบูรณาการระหว่างประเทศที่เข้มข้นและกว้างขวาง

“เราจะจัดการกับอธิปไตยในดินแดนและข้อพิพาทเกี่ยวกับเกาะและน่านน้ำอย่างอดทนด้วยสันติวิธี ตามกฎหมายระหว่างประเทศ และปกป้องสภาพแวดล้อมของสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ในขณะเดียวกัน เวียดนามหวังที่จะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านความมั่นคงทั้งรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ ส่งเสริมโลกาภิวัตน์และการบูรณาการและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ และทำงานเพื่อโลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสะอาด และมีการพัฒนาที่ทั่วถึง คำนึงถึงมนุษยชาติอย่างยั่งยืน