ThaiPublica > เกาะกระแส > ผู้ตรวจสอบบัญชีสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระบุรองผู้จัดการฯยักยอกเงิน 30 ล้านบาท

ผู้ตรวจสอบบัญชีสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระบุรองผู้จัดการฯยักยอกเงิน 30 ล้านบาท

13 กุมภาพันธ์ 2020


วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ออกเอกสารข่าวแจ้งสมาชิกว่า ตามที่คณะกรรมการสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจได้ว่าจ้างบริษัท เอ็นแอนด์เค จำกัด จัดทำงบการเงินย้อนหลัง 2 ปี รวมทั้งปีปัจจุบัน (2560 – 2562 ที่ยังไม่มีการปิดงบฯ) ทั้งนี้ เพื่อนำไปยื่นภาษีต่อกรมสรรพากร และกรมการปกครอง โดยบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562

ต่อมา บริษัท เอ็นแอนด์เคฯ ได้จัดทำรายงานการตรวจสอบบัญชีเบื้องต้นมาเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ตรวจพบอดีตรองผู้จัดการฯ กระทำการทุจริต ยักยอก ลักทรัพย์ของสมาคมฯเพิ่มเติมอีกประมาณ 13 ล้านบาท จากเดิมที่สมาคมฯเคยร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 17 ล้านบาท รวมความเสียหายปัจจุบันจำนวนประมาณ 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ ยอดความเสียหายที่ตรวจพบเพิ่มเติมเป็นยอดประมาณ 30 ล้านบาท ตามที่กล่าวข้างต้นนั้น ทางบริษัท เอ็นแอนด์เคฯ ได้ตรวจพบ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.กลุ่มเติมตัวเลขด้านหน้า ใบเบิกเงินกับธนาคาร จำนวน 42 ครั้ง เป็นวงเงิน 24,696,140 บาท

2.กลุ่มเบิกซ้ำเบิกเกิน จำนวน 2,387,779 บาท

  • ตัวอย่างการเบิกซ้ำ การเบิกเงินค่าออแกไนท์งานสัมมนาใหญ่ ได้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนเต็มไปแล้ว จำนวน 500,000 บาท มีการเบิกเงินค่ามัดจำวนมาเบิกค่าใช้จ่ายซ้ำอีกรอบ เป็นจำนวนเงิน 165,650 บาท ฯลฯ
  • ตัวอย่างการเบิกเกิน ค่า ภ.ง.ด.55 ปี 2559 เบิกเงินจำนวน 448,534.48 บาท มีการตรวจพบใบเสร็จ ภ.ง.ด.55 ยอด 5785.11 บาท ฯลฯ

3.กลุ่ม ยอดยกมาจาการเบิกเงินไว้แล้วปีก่อน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าเงินเดือน โอที ประกันสังคม จำนวน 1,557,586.90 บาท

จากการตรวจพบการกระทำความผิดเพิ่มเติมตามที่กล่าวข้างต้นนั้น คณะกรรมการสมาคมฯ มิอาจเพิกเฉยได้ จึงดำเนินการเชิญ อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ พร้อมด้วยบริษัทบัญชีและที่ปรึกษากฏหมาย เข้าหารือและขอคำแนะนำ โดยในที่ประชุมมีมติให้ฟ้องร้อง กล่าวโทษ ร้องทุกข์ เพิ่มเติมต่อไป ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับอดีตรองผู้จัดการ ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดี พร้อมส่งตัวผู้ต้องหาไปให้อัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป