ThaiPublica > Sustainability > Social Change/Project > กระทรวงอุตฯ ชูศูนย์วิจัย “กพร.” รีไซเคิลขยะ ดึงเครือข่ายผู้ประกอบการ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Circular Economy

กระทรวงอุตฯ ชูศูนย์วิจัย “กพร.” รีไซเคิลขยะ ดึงเครือข่ายผู้ประกอบการ ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Circular Economy

15 พฤศจิกายน 2018


เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมร่วมเครือข่ายผู้ประกอบการ 80 ราย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานที่ประชุมร่วมระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับเครือข่ายผู้ประกอบการ 80 ราย เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ด้วย Innovation และ New Business Model ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

นายสมชาย กล่าวว่า เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ถือเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปลี่ยนขยะหรือของเสียที่ถูกมองว่าเป็นปัญหา ให้สามารถกลับมาใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบทดแทน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ หรือ “Waste to Resource” ตามแนวคิด Circular Economy ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลที่เป็นเทคโนโลยีต้นแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการพิสูจน์ความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยีแล้ว รวม 49 ชนิด ทั้งนี้ กพร. ได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสียไม่น้อยกว่า 8 ชนิดต่อปี เพื่อแก้ปัญหาขยะของประเทศ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมคาดว่าในปีนี้จะสามารถนำโลหะมีค่าจากขยะหรือของเสียกลับมาใช้ใหม่ คิดเป็นมูลค่า 260 ล้านบาท ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท

นายสมชายกล่าวต่อว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ถือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่อนาคต (Industry Transformation Center: ITC) ด้านเทคโนโลยีรีไซเคิล และนวัตกรรมวัตถุดิบของกระทรวงอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ในส่วนของภาคเอกชน ยังมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสียอีกหลายชนิด ซึ่งหากกระทรวงอุตสาหกรรมและเครือข่ายผู้ประกอบการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน และปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎระเบียบที่เป็นปัญหาและอุปสรรคจะสามารถสร้างผู้ประกอบการใหม่ (startup) และยกระดับผู้ประกอบการ (level-up) เดิม เพื่อขยายผลไปสู่เชิงพาณิชย์ได้ในวงกว้าง ร่วมกันเปลี่ยนขยะ หรือของเสียเป็นแหล่งทรัพยากรทดแทน ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติใหม่ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดขยะ ปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ Circular Economy ได้อย่างเป็นรูปธรรม

นายวิษณุ ทับเที่ยง
อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)

ด้านนายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า การประชุมหารือในวันนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเครือข่ายผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ผู้ประกอบการรวบรวมคัดแยกของเสีย ผู้ประกอบการรีไซเคิล ผู้ประกอบการกำจัดบำบัดของเสีย ไปจนถึงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการนำของเสียไปใช้ประโยชน์ การหารือในวันนี้ สามารถระดมความเห็นแนวทางการผลักดันสู่ Circular Economy ด้วย Innovation และ News Business Model ได้หลายแนวทาง ซึ่งจะก่อให้เกิดรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ (startup) และการยกระดับผู้ประกอบการ (level-up) เช่น การให้บริการ waste pre-treatment ที่แหล่งกำเนิดของเสีย เพื่อให้ง่ายต่อกระบวนการรีไซเคิลในขั้นตอนต่อไป การให้บริการเช่า เช่น สารเคมีแทนการขายขาด โดยบริษัทผู้ผลิตและจำหน่าย เป็นผู้รับสารเคมีที่เหลือใช้ และภาชนะที่บรรจุไปรียูสหรือรีไซเคิล หรือจัดการตามหลักวิชาการต่อไป หรือการให้บริการเช่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือรีไซเคิล ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การออกแบบหรือปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงกระบวนการบำบัดของเสีย เพื่อเอื้อต่อการนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด หรือเกือบทั้งหมด การนำของเสียที่มีศักยภาพสูงในการรีไซเคิล เช่น โลหะมีค่า ที่อยู่ในหลุมฝังกลบที่มีอยู่เดิมกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ เป็นต้น

“ขณะนี้มีผู้ประกอบการ 3 รายให้ความสนใจเทคโนโลยีรีไซเคิล กากตะกอนอะลูมิเนียม เพื่อนำกลับมาหลอมเป็นอะลูมิเนียมใหม่อีกครั้ง สำหรับผู้ประกอบการรายอื่นๆ ที่สนใจเทคโนโลยีรีไซเคิลขยะหรือของเสีย สามารถมาติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลของ กพร. อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หรือโทรศัพท์ 0 2202 3897 ขณะนี้พร้อมให้บริการแก่ภาคอุตสาหกรรมแล้ว คิดค่าบริการไม่แพง” นายวิษณุกล่าวทิ้งท้าย

ตรวจเยี่ยมศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิล กพร.