
วันที่ 19 ตุลาคม 2561 โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เปิดตัวโครงการ “ทำดีให้คนมองเห็น” เชิญชวนประชาชนบริจาคเงินสร้าง “โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว” โรงพยาบาลเฉพาะทางตาแห่งแรกที่สร้างขึ้นจากพลังของภาคประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคตาให้มีโอกาสเข้าถึงบริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัยและครบวงจร เช่น ห้องตรวจ ห้องผ่าตัด ศูนย์เลเซอร์ ศูนย์วิจัยเพื่อช่วยเหลือคนตาบอด
โดยในปี 2558 มูลนิธิโรงพยาบาลบ้านแพ้วและภาคประชาชนได้ร่วมกันจัดสร้างโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ต้องใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้นราว 400 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับเงินสนับสนุนแล้ว 280 ล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากคนไทยทั่วประเทศ รวมถึงองค์กรต่างๆ อีกประมาณ 120 ล้านบาท เพื่อให้โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้วสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2562
นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว และจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตา เปิดเผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยที่ต้องทนทุกข์กับภาวะตาบอดจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบท ซึ่งจากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีอยู่ประมาณกว่า 1 แสนราย โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากภาวะต้อกระจก รวมทั้งภาวะอื่นๆ เช่น ต้อหิน ปัญหาจอประสาทตา และกระจกตา
สำหรับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ปัจจุบันมีคนไข้มารับการรักษาโรคตาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 500 คนต่อวัน ซึ่งทางโรงพยาบาลได้พยายามจัดการตรวจและรักษาให้อย่างรวดเร็วที่สุด แม้จะมีหมอตาเพียง 15 คน มีห้องตรวจและห้องผ่าตัดที่จำกัด เพราะเชื่อว่าการที่คนได้เห็นเร็วขึ้นแค่ 5 นาทีก็มีความสุขแล้ว
“แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของเราทุกคน อยากให้คนไข้กลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง ให้ได้รับการรักษาดูแลที่ดีที่สุดและรวดเร็วที่สุด เพียงแต่ผมไม่รู้จะหาเงินจากไหน ผมหาเงินไม่เป็น ได้แต่ขอบริจาคจริงๆ จากการช่วยเหลือของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงอยากฝากทุกคนช่วยเผยแพร่ให้คนที่มีใจเมตตา ที่อยากจะมาช่วยเรา ช่วยหมอ ช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคตาให้เขากลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง” นพ.พรเทพกล่าว
นายต่อศักดิ์ ชื่นประภา Chief Creative Officer: Wolf BKK ผู้ร่วมทำโครงการทำดีให้คนมองเห็น กล่าวถึงจุดเริ่มต้นโครงการว่า ได้รับการติดต่อจากกลุ่มเอสซีจีให้ช่วยทำงานของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว แต่ส่วนตัวไม่รู้จักโรงพยาบาลนี้มาก่อน จนต่อมาได้รับทราบว่าสิ่งที่โรงพยาบาลทำนั้นคืออะไร และเห็นว่าเป็นประโยชน์มาก จึงทำให้รู้สึกว่าต้องช่วยคุณหมอ
ทั้งนี้ ทีมงานได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วเพื่อไปดูสภาพจริงว่าเป็นอย่างไร โดยได้ไปคุยกับคนไข้หลายคนที่ดวงตามองไม่เห็น ซึ่งส่วนใหญ่รับรู้ได้ถึงสิ่งที่คุณหมอดูแลรักษาเอาใจใส่พวกเขาเป็นอย่างดี จึงทำโครงการเพื่อที่จะทำให้คนทราบว่าคุณหมอทำอะไร และโรงพยาบาลบ้านแพ้วทำอะไร
นายต่อศักดิ์กล่าวต่อว่า “คนป่วยมองเห็นสิ่งที่คุณหมอทำให้ตั้งแต่ตอนที่ตาเขายังมองไม่เห็นด้วยซ้ำ จึงเป็นที่มาของโครงการทำดีให้คนมองเห็น นั่นคือสิ่งที่คุณหมอทำดีให้คนเห็นได้ตั้งแต่ผู้ป่วยยังมองไม่เห็น จึงอยากนำสิ่งนี้มาแชร์ให้ทุกคนได้รู้สึก โดยเล่าเรื่องราวผ่านภาพยนตร์โฆษณา “ช่วยคุณหมอ” โดยมีพี่ต่อ-ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับโฆษณาชื่อดังระดับโลก มาช่วยถ่ายทอดสิ่งที่คุณหมอทำ เพื่อให้คนรู้สึกจริงๆ มีคนไข้มาช่วยเล่าความรู้สึกนี้จริงๆ”
“เวลามีคนป่วยโรคตาหนึ่งคนที่มองไม่เห็น ไม่ได้แปลว่าเขาลำบากแค่คนเดียว แต่คนที่บ้านเขาก็ลำบากด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าคุณหมอช่วยคนไข้ได้หนึ่งคน เท่ากับคุณหมอช่วยคนได้อีกหลายคน จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยคุณหมอ” นายต่อศักดิ์กล่าว

น้องเอ๋ย-จิรารัตน์ ใจเพียน วัย 15 ปี ผู้ป่วยโรคจอประสาทตาหลุดลอก หนึ่งในผู้ป่วยที่ได้รับการช่วยเหลือจากทีมแพทย์ รพ.บ้านแพ้ว จนตาข้างขวาสามารถกลับมามองเห็นในระยะ 20 ฟุต ได้อีกครั้ง จากเดิมที่ตาสองข้างมองเห็นเพียงแค่แสง กล่าวเชิญชวนว่า “หนูอยากขอให้ทุกคนช่วยกันบริจาค เพื่อจะสร้างโอกาสให้คนที่มองไม่เห็นกลับมามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง สร้างชีวิตใหม่ให้กับคนเหล่านั้นเหมือนกับหนูค่ะ”
ปัจจุบัน โรงพยาบาลบ้านแพ้วเป็นโรงพยาบาลขนาด 300 เตียง เปิดให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนโดยมีแพทย์เฉพาะทางครอบคลุมเกือบทุกสาขา จำนวน 130 คน มีเจ้าหน้าที่สาขาวิชาชีพต่างๆจำนวน 1,500 คน มีชื่อเสียงในการให้บริการและคุณภาพในการรักษา โดยเฉพาะทางจักษุ
นับแต่ปี 2548 ในฐานะทีมผ่าตัดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โรงพยาบาลบ้านแพ้วได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เริ่มโครงการออกหน่วยผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่ เดินทางไปรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ และขยายความช่วยเหลือไปยังประเทศใกล้เคียง ได้แก่ กัมพูชา ภูฎาน และเมียนมา สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้กว่า 1 แสนคน ในระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา
พญ.พรรณสมร ชำนาญกิจ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตา โรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวว่า นอกจากโรงพยาบาลจะช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงแล้ว ยังเป็นศูนย์รับส่งต่อคนไข้ด้านโรคตาอีกด้วย เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางทุกแผนก ทั้งจอตา ต้อหิน กระจกตา ตาเด็ก เส้นประสาทตาฯลฯ
เพราะฉะนั้นคนไข้ที่อยู่ในภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ที่อยู่ใกล้เคียงโรงพยาบาล ไม่ต้องเดินทางมารักษาไกลถึงกรุงเทพฯ และหากมีโรงพยาบาลจักษุฯที่เพรียบพร้อมสามารถรองรับจำนวนคนไข้ได้มากขึ้น จึงอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว
สำหรับอาคารโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2558 แต่ปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จ โดยออกแบบให้เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีทั้งแผนกผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก มีห้องตรวจเพิ่มขึ้น ห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีห้องตรวจแค่ 7 ห้อง และห้องผ่าตัดแค่ 2 ห้อง ซึ่งจะทำให้กระจายหมอได้มากขึ้น คนไข้ไม่ต้องรอนานมากนักในการตรวจ
นอกจากนี้ยังมีศูนย์เลเซอร์ ศูนย์เครื่องมือพิเศษทางตาที่ทันสมัย ห้องจัดประชุมวิชาการ และศูนย์วิจัยเพื่อช่วยเหลือคนตาบอด ซึ่งเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมีโถงต้อนรับ แผนกสปา ร้านค้า สำนักงาน
พญ.พรรณสมร ให้กล่าวเพิ่มเติมว่า หากโครงการโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้วแล้วเสร็จ คาดว่าจะสามารถให้บริการผู้ป่วยได้อย่างน้อยวันละประมาณ 1,000 คน จากเดิมเฉลี่ย 500 คนต่อวัน เพิ่มโอกาสให้กับผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วขึ้น
สำหรับค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต้อกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตาบอดในผู้สูงอายุ แต่สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดแล้วกลับมาเห็นชัดได้ โรงพยาบาลบ้านแพ้วคิดค่าใช้จ่ายคนไข้ทั่วไปขั้นต่ำรวมทุกอย่างจำนวน 10,000 บาท เช่น ค่าเลนส์ ค่ายาต่างๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าโรงพยาบาลอื่นๆหรือโรงพยาบาลเอกชนอยู่พอสมควร
ส่วนคนไข้ที่มีสิทธิ์บัตรทอง 30 บาทของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว คนไข้ข้าราชการเบิกได้ ประกันสังคม ก็จะผ่าตัดต้อกระจกฟรี หรือคนไข้ที่อยู่ในจังหวัดอื่น หรืออยู่ในที่ห่างไกล แต่มีใบส่งตัวมา ก็จะผ่าตัดฟรีเช่นกันและนอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลยังมีผ่าตัดตาอื่นๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกันไป แต่ก็ไม่สูงนัก
ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจสามารถร่วมสมทบทุนได้ตั้งแต่วันนี้ ภายใต้โครงการ “ทำดีให้คนมองเห็น” บริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านแพ้ว ชื่อบัญชีโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กองทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว เลขบัญชี 745-0-33317-1 โดยใบเสร็จสามารถลดหย่อนภาษี 2 เท่า หรือบริจาคครั้งละ 100 บาท ผ่านโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย พิมพ์ *948*888*100# กดโทรออก (วิธีนี้ไม่สามารถออกใบเสร็จได้)