ThaiPublica > Native Ad > Advertorial > “กลัฟเท็กซ์” เจ้าของนวัตกรรมถุงมืออุตสาหกรรมสู่ความปลอดภัยของผู้บริโภคในไทยและต่างแดน

“กลัฟเท็กซ์” เจ้าของนวัตกรรมถุงมืออุตสาหกรรมสู่ความปลอดภัยของผู้บริโภคในไทยและต่างแดน

3 กันยายน 2018


EXIM E-NEWS เดือนมิถุนายน 2561 ในคอลัมน์ “CEO Talk” ได้สัมภาษณ์นาย “เสริมศักดิ์ วงศ์ชัย” กรรมการ บริษัท กลัฟเท็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกถุงมือและอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมของเรา สู่ความปลอดภัยของคุณ” มาบอกเล่าแนวคิดและประสบการณ์ โดยเล่าย้อนถึงที่มาของ “กลัฟเท็กซ์” ว่าก่อนหน้านี้ดำเนินธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วนจำกัดในช่วงปี 2543 เริ่มต้นจากการผลิตถุงมือสำหรับใช้ในภาคเกษตร ประมง และกิจกรรมของนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ซึ่งมีคำสั่งซื้อของลูกค้าเข้ามาตามช่วงฤดูกาล เมื่อถึงช่วงที่จะต้องใช้สินค้าก็ไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ แต่เมื่อหมดฤดูกาลจะเกิดปัญหาสินค้าค้างสต็อก

บริษัทได้เล็งเห็นถึงข้อจำกัดของการขายสินค้ากับกลุ่มลูกค้าเดิม จึงหันมาผลิตถุงมือสำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีคำสั่งซื้อตลอดทั้งปี โดยได้พัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างความแตกต่างของถุงมือ เช่น ถุงมือป้องกันการบาดเฉือน ถุงมือป้องกันความร้อน ซึ่งจะมีวิธีการและวัตถุดิบที่ใช้ผลิตแตกต่างกันตามประเภทอุตสาหกรรมที่ใช้งาน

นอกจากนี้ยังมีถุงมือป้องกันความร้อน ถุงมือป้องกันสารเคมี และชุดยูนิฟอร์มป้องกันความปลอดภัย ด้วยความแตกต่างของสินค้าที่บริษัทพัฒนาขึ้น ทำให้มีออร์เดอร์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จากเดิมที่ใช้แรงงานคนในการผลิตจึงเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักร ปัจจุบันโรงงานมีเครื่องจักรประมาณ 500 ตัว และมีกำลังการผลิตถุงมือที่บริษัทผลิตเองอยู่ที่ 1,000,000 คู่ต่อเดือน ไม่รวมกับการจ้างผลิตต่อ

ปัจจุบัน “กลัฟเท็กซ์” มี 5 ช่องทางในการจัดจำหน่าย ได้แก่

  • การขายสินค้าแบบดั้งเดิม
  • การค้าปลีกแบบสมัยใหม่ โดยวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า เริ่มต้นที่ Makro, Home Pro และขยายไปยังห้างสรรพสินค้าเกือบทุกแห่งทั่วประเทศ
  • Direct to Customer เป็นการจำหน่ายสินค้าโดยตรงไปยังโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 300-400 แห่ง
  • การขายผ่านตัวแทนจำหน่าย
  • การส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งบริษัทเพิ่งเริ่มส่งออกมาได้ 4-5 ปี โดยมีตลาดหลักอยู่ที่สหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ เพราะสินค้าที่จะส่งออกต้องมีมาตรฐานระดับสากล การทำธุรกิจของกลัฟเท็กซ์จึงไม่ได้แข่งขันด้านราคา แต่จะแข่งขันด้านคุณภาพ ทำให้บริษัทต้องพัฒนาองค์ความรู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา

เกาะเทรนด์ – มาตรฐานโลก

ผลิตภัณฑ์ของ“กลัฟเท็กซ์” มีนวัตกรรมโดดเด่น ไม่เหมือนใคร รวมทั้งเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อความปลอดภัยและสุขภาพของมนุษย์ เรามีองค์ความรู้และติดตามเทรนด์โลกและกฎระเบียบต่างๆ ของภาครัฐอย่างทันต่อการเปลี่ยนแปลงและมีการปรับตัวอยู่เสมอ เช่น กฎระเบียบของภาครัฐในปัจจุบันเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยของพนักงานมากขึ้น สินค้าที่บริษัทพัฒนาขึ้นมาจึงสามารถตอบสนองกฎระเบียบต่างๆ เหล่านี้ โดยบริษัทมีห้องแล็บและทีมวิจัยพัฒนาสินค้าที่สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ตรงตามความต้องการและทันเวลา สินค้าของกลัฟเท็กซ์ถือเป็นสินค้าที่มีนวัตกรรม ไม่ว่าลูกค้าจะต้องการสินค้าแบบไหน ขนาดเท่าไร จำนวนสั่งซื้อมากหรือน้อย เราสามารถผลิตสินค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด

ที่ผ่านมา บริษัทปฏิเสธคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อในต่างประเทศมานาน เพราะคิดว่าคำสั่งซื้อจากตลาดในประเทศยังมีมากพอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราเริ่มมองเห็นว่าการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศน่าสนใจ บริษัทจึงเริ่มทำธุรกิจส่งออกและมีมูลค่าการส่งออกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ความท้าทายประการแรกเป็นเรื่องภาษาที่ใช้ในการสื่อสารซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการติดต่อธุรกิจ รวมทั้งปัจจัยต่างๆ ของประเทศผู้ซื้อก็เป็นความท้าทายเช่นกัน อาทิ นโยบายของรัฐ และมาตรการกีดกันทางการค้า

กุญแจสู่ความสำเร็จในวันนี้

นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า “เรารับฟังปัญหาของลูกค้าและพยายามศึกษาทำความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร เมื่อลูกค้าเจอปัญหาเราก็พร้อมเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขอย่างรวดเร็ว สำหรับเราลูกค้าเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจหรือเพื่อนของเรา เราอยู่ด้วยกันอย่างมีไมตรี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ขณะเดียวกันเราก็คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดเวลา”

นอกจากนี้เราใช้บริการ EXIM BANK ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสนับสนุนธุรกิจส่งออก-นำเข้า และให้เงื่อนไขที่ดีกับผู้ประกอบการ มีการให้ความรู้กับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออก ทั้งการจัดสัมมนาและข่าวสารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ประกอบการและผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ควรต้องมองตัวเองก่อนว่ามีความพร้อมด้านไหน และเริ่มต้นจากการทำตลาดในประเทศให้แข็งแรงก่อนจึงค่อยเริ่มส่งออก รวมทั้งจะต้องแข่งขันด้านคุณภาพ สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า ไม่แข่งขันที่ราคาเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าสินค้าเราไม่มีความแตกต่างและแข่งขันกันที่ราคา เมื่อบริษัทอื่นเสนอราคาต่ำกว่าลูกค้าก็พร้อมจะไปซื้อสินค้าของคู่แข่งและทำให้เราเสียลูกค้า แต่ถ้าสินค้าเรามีจุดเด่นลูกค้าก็จะวางใจในสินค้าของเรา คิดถึงสินค้าเราเป็นอันดับแรก