ชื่อคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไต่อยู่บนเส้นลวดแห่งอำนาจอย่างสม่ำเสมอ
ภาพที่เคยปรากฏในโลกการเมือง เมื่อ “คุณหญิงหน่อย” เยื้องย่างไปทางใดในพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ไม่มีชายชาตรีใด ไม่ลุกขึ้นค้อมหัว น้อมไหว้
ภาพที่เพิ่งสร้างใหม่ “คุณหญิงหน่อย” นุ่งขาว เข้าเรียนวิชา “พระพุทธศาสนา” ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ม.จ.ร.) พร้อมกิจกรรมบูรณะลุมพินีสถาน สถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า
แม้ปลีกวิเวกไปธุดงค์ในวงพุทธศาสนา แต่ “คุณหญิงหน่อย” ไม่เคยห่างดงการเมือง
ทุกความเคลื่อนไหว-ทุกจังหวะการเปลี่ยนแปลงวาระทางการเมือง “คุณหญิงหน่อย” จะออกจากหอคอย-ละศีล เข้าไปจรยุทธ์ทางการเมือง แบบคลุกวงในเข้มข้น และเข้มแข็ง
ในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2556 ฝ่าย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) พ่ายแพ้ต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เพราะส่ง พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ ลงแข่ง
ความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น คนในพรรคเพื่อไทยสรุปบทเรียนว่า “คุณหญิงหน่อย” ลงมือ-ไม่เต็มแรง แถมแทงทะลุหัวใจ “คุณหญิง” ผู้มีบารมีแห่งเพื่อไทย ในโค้งสุดท้าย จนพ่ายแพ้ยับเยิน หลังผลเลือกตั้งจบจึงได้ยินเสียง พ.ต.ท. ทักษิณ โฟนอินเข้าห้องประชุมพรรคด้วยคีย์เวิร์ดสำคัญว่า “ต่อไปนี้ พื้นที่ กทม. set zero” ชื่อคุณหญิงหน่อยหล่นออกห่างจากพรรคไปครู่ใหญ่
ยามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กุมบังเหียนผู้นำหมายเลข 1 ตึกไทยคู่ฟ้า ชื่อของ “คุณหญิงหน่อย” โคจร วนเวียน รอบตัวนางสาวยิ่งลักษณ์ อยู่ตามงานอีเวนท์การเมืองบ้างประปราย
เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ “คุณหญิงหน่อย” ใช้คอนเนกชันกับทหารสาย “วงศ์เทวัญ” เข้าประชิดขั้วอำนาจใหม่
ก่อนปรับคณะรัฐมนตรี “ประยุทธ์ 2” เป็น “ประยุทธ์ 3” ราว 2 เดือน มีข่าวปล่อยชิ้นใหญ่ ไหลออกจากฝ่ายนักการเมืองอาชีพ ระบุว่า “คุณหญิงหน่อย” ได้รับสัญญาณไฟเขียว จาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ให้ถือธงเป็น “ว่าที่หัวหน้า” พรรคเพื่อไทย
ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2558 ชื่อ “คุณหญิงหน่อย” ถูกพูดดังขึ้นจากปาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี กลางงานมงคลสมรสบุตรชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มีท่วงทำนองว่า มีไมตรีกับฝ่าย “คุณหญิงหน่อย”
ข่าวชิ้นนี้ถูกปะติด-ปะต่อ กับความเคลื่อนไหว “เขาใหญ่คอนเนกชัน” ที่ระบุว่า “คุณหญิงหน่อย” กับแกนนำเพื่อไทย อย่าง พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก และตัวแทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คือ พล.อ. นพดล อินทปัญญา หรือบิ๊กกี่ ที่ปรึกษา คสช. ควบตำแหน่งสมาชิก สนช. ร่วมปรึกษาหารือทางการเมือง หาทางออกให้รัฐบาล พร้อมมีบันทึกข้อตกลงลับ ระบุว่า จะมีการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันในอนาคต
ก่อนการลงมติ “ถอดถอน” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ส่วนใหญ่เป็นสายเพื่อไทย 248 คน แกนนำเพื่อไทยได้ยินเสียง “คุณหญิงหน่อย” ส่งข่าวว่า จะมีการเดินเกม เพื่อช่วยชีวิต 248 ส.ส. ไม่ให้ต้องโทษถอดถอน และถูกต้องห้ามทางการเมืองตลอดชีวิต ตามนัยแห่งรัฐธรรมนูญใหม่ แม้แกนนำเพื่อไทยสายกฎหมายจะฟันธงไปแล้วว่า “ไม่มีทางที่ ส.ส. จะถูกถอดถอน เพราะมีกรณีอดีต ส.ว. พ้นโทษนี้ เป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว”
งานนี้ถือว่า “คุณหญิงได้แต้มไปฟรีๆ” เพราะเมื่อถึงวันลงมติ (14 ส.ค. 2558) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปรากฏว่าผลการลงมติไม่สามารถถอดถอนอดีต ส.ส. ทั้ง 248 คนได้ เนื่องจากคะแนนถอดถอนไม่ถึงตามข้อบังคับ คือ 132 คะแนนขึ้นไป
อีกวาระที่แกนนำเพื่อไทยยืนยันระดับความ “แม่นยำ” ของ “คุณหญิงหน่อย” คือ ก่อนที่ สนช. จะลงมติเลือกกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) สายของ “คุณหญิงหน่อย” นำความมาปรารภในห้องประชุมแกนนำบนตึกโอเอไอ ย่านถนนเพชรบุรี ว่า “สนช. จะคว่ำ กรรมการ 2 ราย”
ถึงวันลงมติของ สนช. (20 สิงหาคม 2558) ปรากกฏว่า ชื่อนายบวร ยสินทร ประธานเครือข่ายราษฎรอาสาปกป้อง 3 สถาบัน กับ ชื่อ นพ.ศุภชัย ถนอมทรัพย์ อาจารย์พิเศษ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ถูก สนช. โหวตไม่รับความเห็น ถึง 118 เสียง และ 107 เสียง ตามลำดับ ด้วยข้อมูลใต้ดินที่ว่า นายบวร ถูกร้องเรียนเรื่องคดีความทางการเงิน และ นพ.ศุภชัย มีปัญหาเรื่องถูกร้องเรียนทางจริยธรรม อาจไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติหน้าที่ใน กสม.
หลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว (2557) มีการปลดล็อกให้นักการเมืองกลุ่ม 111 และ 109 คนเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ก่อนการปรับ ครม. “ประยุทธ์3” ชื่อ “คุณหญิงหน่อย” ถูกระบุอยู่ใน “โผ” อีกครั้ง
ในราวต้นเดือนสิงหาคม 2558 มีข่าวปล่อย-ข่าวปรับ ระบุรายชื่อนักการเมืองอาชีพ เข้าร่วมเป็นคณะรัฐมนตรี อาทิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม, ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนายพินิจ จารุสมบัติ
ในที่สุด 20 สิงหาคม 2558 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ท่ามกลางเสียงที่แกนนำหลายคนในพรรคเพื่อไทยได้ยินตรงกันหลายเสียงว่า “คุณหญิงหน่อย” เตรียมเปิด “ดีล” การเมืองครั้งใหม่ กับ คสช. ผ่านท่อ-ทางอ้อม ที่ทำเนียบรัฐบาล
ก่อนการลงมติรับ-ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ (2558) ราว 3 วัน แกนนำอำนาจฝ่าย คสช. ส่งสัญญาณ “คว่ำ” ร่างรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางกระแสข่าว “คุณหญิงหน่อย” เดินสายพบปะสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ร่วมกับ พล.อ. นพดล อินทปัญญา ในฐานะเพื่อนสนิท-ร่วมรุ่น จปร.17 กับ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ในวงอาหารคาวมื้อค่ำคืนก่อน สปช. ลงมติ ที่โรงแรมพูลแมน ย่านถนนรางน้ำ มีสมาชิก สปช. และสมาชิก สนช. หลายต่อหลายกลุ่ม ถกสนทนากันคลาคล่ำด้วยวาระ “คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ” ก่อนการลงมติด้วยเสียง ไม่รับร่าง 135 ต่อ 105 เสียง ใน 24 ชั่วโมงถัดมา
ชื่อ “คุณหญิงหน่อย” ยังฟุ้งกระจายต่อ เมื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศมาตรการกระตุกเศรษฐกิจฐานราก ส่งเงินลงกองทุนหมู่บ้าน-ลงทุนโครงการย่อยทุกจังหวัด ผ่านเครือข่ายกระทรวงมหาดไทย ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ปะเหมาะกับวาระที่ “คุณหญิงหน่อย” ได้สนทนากับหอการค้า เรื่อง “ปัดฝุ่นผู้ว่าฯ ซีอีโอ”
“คุณหญิงหน่อย” พูดถึงข้อดีงามของผู้ว่าซีอีโอว่า “ในช่วงนั้น (ยุคไทยรักไทย) มีความพยายามในเรื่องการกระจายรายได้และความเจริญไปสู่จังหวัดต่างๆ เน้นให้ชาวบ้านได้มีโอกาสร่วมตัดสินใจในนโยบายและงบประมาณ เริ่มต้นที่กองทุนหมู่บ้าน จึงคิดว่าควรให้อำนาจผู้ว่าฯ เป็นคนรับผิดชอบ จะได้เป็นเจ้าภาพผลักดันงานได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้ผู้ว่าฯ ซีอีโอจึงเกิดขึ้น ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี มีการทำงานสอดคล้องกัน ระหว่างกองทุนหมู่บ้านกับผู้ว่าฯ ซีอีโอ”
แม้ขั้วอำนาจที่ทำเนียบรัฐบาล-บ้านเกษะโกมล จะปัดป้อง ไม่ให้ชื่อ “คุณหญิงหน่อย” ได้เข้าใกล้ แต่สองหู-คนในเพื่อไทยได้ยินกันทั่วว่า “คุณหญิงหน่อย” กำลังอยู่ในช่วง “ดีล” กับเครือข่ายอำนาจใหม่ มีอะไหล่การเมืองเข้ากันได้กับทั้งสาย “บูรพาพยัคฆ์” และสาย “วงศ์เทวัญ”
หลัง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ถูกถอดยศ เหลือเพียง “นายทักษิณ” เกมการต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลทหาร กับ ฝ่ายเพื่อไทย-ชินวัตร ยิ่งแหลมคมขึ้น ความหวังเรื่อง “กลับบ้าน” ของนายทักษิณ น้อยยิ่งกว่าน้อย
เมื่อมีคนอาสาต่อสายประนีประนอมกับฝ่ายทหาร แม้สายพี่-สายน้อง-ญาติ “ชินวัตร” ที่เมืองไทย จะไม่ตอบรับ การขึ้นนำของ “คุณหญิงหน่อย” แบบเต็มปาก-เต็มคำ แต่ก็ไม่อาจออกปากคัดง้าง
อนาคตของพรรคเพื่อไทย ในระยะใกล้ จึงฝากความลึก-ลับไว้ “ในซอง” บรรจุเส้นทางสู่ดวงดาวครั้งใหม่ ของ “คุณหญิงหน่อย” เป็นเครื่องมือสื่อสารแทนน้ำใจ ในวันที่ความหวังเรื่องการเลือกตั้งและท่อน้ำเลี้ยงเหือดแห้ง