ThaiPublica > เกาะกระแส > เปิดชื่อ “10 อธิบดี” ถูก ป.ป.ช. สอบ มี “ธาริต เพ็งดิษฐ์-ศรีสุข จันทรางศุ” ติดโผ

เปิดชื่อ “10 อธิบดี” ถูก ป.ป.ช. สอบ มี “ธาริต เพ็งดิษฐ์-ศรีสุข จันทรางศุ” ติดโผ

15 เมษายน 2015


นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่า ในรายชื่อข้าราชการจำนวน 100 คน ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) รวบรวมจาก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (คตร.), สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ ป.ป.ท. พร้อมส่งให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2558 นั้น มีใครบ้าง

แต่การที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ในบัญชีรายชื่อดังกล่าว มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับอธิบดี หรือซี 10 ขึ้นไปรวมอยู่ด้วย

สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้าตรวจสอบรายชื่อข้าราชการที่อยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ไต่สวนการทุจริตของข้าราชการระดับสูง (ส่วน ป.ป.ท. จะตรวจสอบได้เฉพาะข้าราชการระดับกลางและระดับล่าง)พบว่า

มีข้าราชการระดับ “อธิบดีกรม” ถูก ป.ป.ช. ไต่สวน อยู่ 10 คนด้วยกัน ประกอบด้วย

1. นายธีระพงษ์ โสดาศรี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีปล่อยให้มีการเผยแพร่ภาพ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการแข่งขันมวยไทยวอร์ริเออร์ ซึ่งจัดขึ้นที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2555 ออกทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน

2. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ดำเนินการเรียกเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ คืนจากอดีตข้าราชการทหาร ที่กลับเข้ารับราชการ หลังไปเป็นข้าราชการการเมือง ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2557 ป.ป.ช.มีมติว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่ปรากฏการกระทำผิด จึงมีมติไม่รับเรื่องร้องเรียนไว้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง

3. นายปกรณ์ พันธุ อดีตอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง เมื่อปี 2553 รอบแรก จำนวน 524 ราย วงเงิน 577 ล้านบาท ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน

4. นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 กรณีระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลให้กับบริษัทเอกชนโดยไม่เปิดประมูล ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน

5. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ให้กับอัยการ แต่ส่งให้ตำรวจท้องที่แทน ปัจจุบัน คณะอนุกรรมการไต่สวนมีมติให้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหา

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มาภาพ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=9357&t=news
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มาภาพ: http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=9357&t=news

6. นายนิกร บุญศรี อดีตอธิบดีกรมทางหลวง

ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ กรณีเรียกรับสินบนจากบริษัทเอกชน ในอัตรา 17% ของวงเงิน 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แลกกับการอนุมัติให้เป็นคู่สัญญากับรัฐในโครงการก่อสร้าง Thailand Highway Management Project ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนเงินกู้จากธนาคารโลก ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน

7. นายวีระชัย ตันติกุล อดีตอธิบดีกรมสรรพากร

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีช่วยเหลือ นายภิญญา และนางพรรสิริ (สิริพรรณ) ช่วยปลอด ที่หลีกเลี่ยงการชำระภาษีระหว่างปี 2531-2533 เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 48,596 ล้านบาท ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน

8. นายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ

ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตตำแหน่งหน้าที่ กรณีไม่ดำเนินคดีกับผู้ขโมยพรมเช็ดเท้าที่เป็นทรัพย์สินของทางราชการ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ มีการยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อปี 2551 ปัจจุบัน คดียังไม่มีความคืบหน้า

9. นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตอธิบดีกรมทางหลวง

ถูกกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่นำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บเงินค่าผ่านทาง เส้นทางหมายเลข 7 และ 9 (มอเตอร์เวย์) ระหว่างปี 2540-2543 และทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ กรณีจ้างบริษัทเอกชนรายหนึ่งเป็นผู้ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บเงินค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ โดยแบ่งค่าจ้างให้วงเงินต่ำกว่า 50 ล้านบาท …ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการไต่สวน โดยเพิ่งประชุมครั้งแรกไปเมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา

และ ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีกำหนดเงื่อนไขผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการเร่งรัดขยายทางสายประธานให้เป็น 4 ช่องจราจร ระยะที่ 2 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางราย ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมไต่สวน

10. นายสัตวแพทย์ ระพีพงศ์ วงศ์ดี อดีตอธิบดีกรมปศุสัตว์

ถูกกล่าวหาว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีร่วมกับบริษัทเอกชนผูกขาดการนมโรงเรียนตามโครงการอาหารเสริม (นม) ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2542 และมีการยื่นคำร้องเข้ามาเมื่อปี 2545 ปัจจุบัน คดีอยู่ระหว่างไต่สวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากทั้ง 10 คนข้างต้น มีเพียง 2 คน ที่ยังรับราชการอยู่ ประกอบด้วย นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อดีตอธิบดีกรมบัญชีกลาง ซึ่งปัจจุบันเป็นปลัดกระทรวงการคลัง และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสำนักนายกรัฐมนตรี

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่า รายชื่อที่ ป.ป.ช. จะส่งให้กับนายกฯ ดำเนินการ ในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 จะมีเฉพาะข้าราชการที่ถูกชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการลงโทษจากต้นสังกัด และยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ส่วนรอบที่ 3 จะให้รวมถึงข้าราชการที่ไม่ยังถูกชี้มูลความผิด แต่มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน และมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว เนื่องจากถือว่ามีข้อมูลที่เข้าข่ายกระทำการทุจริต โดยให้รวมถึงผู้บริหารท้องถิ่นที่จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จด้วย ทั้งนี้ คาดว่า พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธาน ศอตช. จะเรียกประชุมอีกครั้งภายหลังเทศกาลสงกรานต์

“ถ้าใครทำอะไรไว้ก็ต้องร้อนแน่ แต่ ป.ป.ช. จะดูจากกรณีที่ไต่สวนแล้ว มีมูล ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เราไม่ผลีผลามที่จะส่งรายชื่อ เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะเสียสิทธิ อาทิ สิทธิในการเลื่อนตำแหน่ง ดังนั้นเราต้องรอบคอบ เป็นธรรม”