ThaiPublica > เกาะกระแส > เกาะกระแสการเมือง > “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เรื่องจริงของประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป (1)

“เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เรื่องจริงของประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไป (1)

12 กันยายน 2013


ประวัติศาสตร์ที่เราได้เรียน ได้อ่านกันมาเกี่ยวกับขบวนการเสรีไทยซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่างยกย่องเชิดชูขบวนการเสรีไทยที่มีคุณาปการกับประเทศไทยเป็นอันมาก เพราะปฏิบัติการของขบวนการเสรีไทยทำให้ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม ไม่ต้องทำเอกสารยอมจำนน ไม่ถูกปลดอาวุธ ไม่ถูกยึดครอง ไม่เสียค่าปฏิกรรมสงคราม และที่สำคัญไม่เสียเอกราช

แต่เบื้องหลังปฏิบัติการของขบวนการเสรีไทย มีคนไทยคนหนึ่งชื่อ “จำกัด พลางกูร” ได้ปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อชาติ เพื่อ humanity แต่กลับไม่เป็นที่รับรู้ของคนไทยส่วนใหญ่ หรือรู้จักในวงจำกัดมากเมื่อเทียบกับเสรีไทยอีกหลายๆ คน

ดังนั้น เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ในวาระที่ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ฉัตรทิพย์ นาถสุภา และ ดร.ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์ ผู้ริเริ่มแนวคิดเศรษฐศาสตร์การเมือง มีอายุครบ 72 ปี ในปี 2556 ศูนย์เศรษฐศาสตร์การเมือง และชมรมศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดการแสดงละครเวทีของบรรดาศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมืองเรื่อง “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเชิดชูเกียรติและแสดงมุทิตาจิตแก่อาจารย์ทั้งสอง

ละครเวที “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” เป็นละครที่ ดร. ฉัตรทิพย์ อำนวยการสร้างและเขียนบทละครเองจากบันทึกเกือบ 1,000 หน้า ของนายจำกัด พลางกูร เสรีไทยที่จดบันทึกทุกเหตุการณ์ในระหว่างปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่อย่างละเอียด

ละครเรื่องนี้จึงเป็นละครที่เป็นความจริงทุกประการ เป็นละครที่จำลองประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริง ไม่ใช่ละครอิงประวัติศาสตร์

จำกัด พลางกูร

การจัดแสดงละครเรื่อง “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” จึงเปรียบเสมือนการเปิดบันทึกประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับขบวนการเสรีไทยที่ขาดหายไปให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ที่สำคัญยังได้เรียนรู้ถึงอุดมการณ์ความรักชาติ ความเสียสละเพื่อชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าความสุขส่วนตนซึ่งหากได้ยากในยุคสมัยนี้

ที่สำคัญซึ่งสร้างความประทับใจให้ผู้ชมมากที่สุดของการแสดงละครเรื่องนี้คือ นางเอกตัวจริง “นางฉลบชลัยย์ พลางกูร” ภริยาของนายจำกัด ปัจจุบันอายุ 97 ปี รวมถึงอดีตเสรีไทยที่ยังมีชีวิตอยู่ และลูกหลานของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมาร่วมชมละครครั้งนี้ด้วย และตอนจบของละครได้ขึ้นเวทีร่วมแสดงความคาราวะวีรกรรมของ”จำกัด และเสรีไทยทุกคน”

ดังนั้นเพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไปผ่านละครเวที “เพื่อชาติ เพื่อ humanity” ที่แสดงโดยศิษย์เศรษฐศาสตร์การเมืองทั้งที่จบการศึกษาแล้วและศิษย์ปัจจุบัน จึงขอเล่าประวัติศาสตร์เรื่องนี้จากบทละครแต่ละฉาก ดังนี้

ฉากที่ 1 “การตั้งองค์กรต่อต้านญี่ปุ่น”

เริ่มต้นด้วยการแนะนำ “นายจำกัด พลางกูร” ว่าเป็นบุตรชายคนโตของพระยาผดุงวิทยาเสริม เจ้ากรมแต่งตำรา ผู้แต่งคำกลอนไม้ม้วน 20 คำ “ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ…” จำกัดเป็นคนเรียนเก่งมาก สอบได้ที่หนึ่งประเทศไทยและรับทุนกระทรวงธรรมการไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สาขาวิชาปรัชญา การเมือง และประวัติศาสตร์

ขณะที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ 2 ปี ในปี 2479 อายุ 22 ปี ด้วยแรงบันดาลใจจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จำกัดได้เขียนหนังสือ “ปรัชญาของสยามใหม่” เสนอว่า การเปลี่ยนแปลง 2475 เป็นดั่ง renaissance ของสยามที่จะทะลายฝาที่กั้นฝั่งประชาชน และวัฒนธรรมของพวกเขาเปิดทางให้สยามเข้าสู่โลกใหม่ อันมีฐานอยู่กับพลังประชาชนและวัฒนธรรมของประชาชน

นายจำกัด ยังได้รวบรวมนักเรียนไทยในอังกฤษ ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย เพื่อกลับเมืองไทยมาจัดตั้ง “คณะกู้ชาติ” ต่อสู้กับรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงครามที่โน้มเอียงเป็นเผด็จการชาตินิยม โดยร่วมมือกับนายเตียง ศิริขันธ์ เพื่อนนักเรียนเก่าโรงเรียนวัดบวรนิเวศ ซึ่งเป็นครู และขณะนั้นเป็นผู้แทนราษฎรจังหวัดสกลนคร แกนนำของปัญญาชนชนบท มีฐานสนับสนุนจำนวนมากจากชาวนาอีสาน

แต่เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 จอมพล ป. พิบูลสงคราม ยินยอมให้ญี่ปุ่นเข้ามาในประเทศไทย และใช้ไทยเป็นฐานที่มั่นและทางผ่านไปสู่ดินแดนอื่นๆ ที่เป็นอาณานิคมอังกฤษยึดครองอยู่คือพม่าและมลายู ซึ่งมีกลุ่มคนไทยที่ไม่เห็นด้วยนำโดยนายปรีดี พนมยงค์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในขณะนั้นเป็นหัวหน้า ได้มีการประชุมหารือกับผู้ที่มีแนวคิดเดียวซึ่งรวมถึงนายจำกัด กับนายเตียง ณ “บ้านป้อมเพชรนิคม” ถนนสีลม โดยได้ข้อสรุปร่วมกันจัดตั้งคณะเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น หรือ “องค์การต่อต้านญี่ปุ่น”

ไฮไลท์ในฉากนี้คือ นายจำกัด และนายเตียง ได้มอบ “คณะกู้ชาติ” ที่จัดตั้งเพื่อต่อสู้กับจอมพล ป. ให้กับนายปรีดีเพื่อร่วมจัดตั้งเป็น “องค์การต่อต้านญี่ปุ่น” และนายปรีดีประกาศเจตนารมณ์ขององค์การต่อต้านญี่ปุ่นมี 2 ข้อ คือ

1. ต่อสู้ญี่ปุ่นผู้รุกรานโดยกำลังอาวุธ 2. ร่วมกับสัมพันธมิตร และให้สัมพันธมิตรรับรองความเป็นมิตรของคณะราษฎรไทย องค์การนี้จะประกอบด้วยคนไทยที่รักชาติ ทุกชนชั้น วรรณะ ทั้งที่อยู่ในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยขอใช้คณะกู้ชาติเป็นแกนขององค์การ และให้นายจำกัด ทำหน้าเป็นเลขาธิการ

โปรดติดตาม ฉากที่ 2 “จำกัดลานายปรีดี”