ThaiPublica > เกาะกระแส > ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์–เปิดศึกลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. และ คลิปเด็กน่ารัก สุดฮอต ประจำสัปดาห์

ประเด็นฮอตรอบสัปดาห์–เปิดศึกลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. และ คลิปเด็กน่ารัก สุดฮอต ประจำสัปดาห์

26 มกราคม 2013


ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากสุดในโซเชียลมีเดียในรอบสัปดาห์ 20–26 มกราคม 2556

เรื่องแรก ตั้งแต่เริ่มสัปดาห์ สังคมโซเชียลมีเดียในกรุงเทพมหานครดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครรับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556

โดยบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ต่างเดินหน้าลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงกันอย่างขันแข็ง พร้อมทั้งนโยบายต่างๆ ที่ขนกันมาเพื่อเอาใจ คนกรุงเทพฯ ทั้งการแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ อาหารการกิน และปัญหาหนักอย่างการแก้ปัญหารถติด โดยแน่นอนว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ 2 พรรคการเมืองใหญ่ อย่าง “พรรคประชาธิปัตย์” ที่มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม คนเดิม และ “พรรคเพื่อไทย” ที่ส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ มาลงสมัคร จะถูกจับตามองและให้ความสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งหลายโพลหลายสำนักก็มีการสำรวจความคิดเห็น โดยคะแนนความคิดของคน กทม. ต่อผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในดวงใจ มีคะแนนต่างกันไม่ถึง 1%

ที่มาภาพ : http://www.google.co.thimgresum
ที่มาภาพ: http://www.google.co.thimgresum

แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้สมัครจาก 2 พรรคการเมืองใหญ่ ยังมีผู้สมัครอีกหลายคนที่มีความตั้งใจจะเข้ามาสร้างความสุขและทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งได้สร้างสีสันให้การเลือกตั้งครั้งนี้ โดยมีผู้สมัครอีก 3 คน ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส, ผู้สมัครอิสระขวัญใจเด็กแนวอย่างนายสุหฤท สยามวาลา และนายโฆสิต สุวินิจจิต

เมื่อขวัญใจเด็กแนวอย่างนายสุหฤท นักธุรกิจเครื่องเขียน “ดี.เอช.เอ สยามวาลา” อีกทั้งยังเป็นนักร้อง นักดนตรี นักจัดรายการวิทยุ จนได้รับสมญานามว่าเป็น “พ่อมดอิเล็กทรอนิกส์” เข้าชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. พร้อม “นโยบาย 1 โหลของสุหฤท” สร้างกระแสในโลกโซเชียลมีเดียที่ประกาศตัวสนับสนุนนายสุหฤท โดยมีการแชร์รูปภาพ และแสดงเจตนารมณ์กันบนหน้าเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมอย่างมากมาย

เกลือ กิตติ หนึ่งในผู้กำกับคนดัง ที่ให้การสนับสนุน นายสุหฤท ที่มาภาพ อินสตาแกรม @kleurmasutra
เกลือ-กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หนึ่งในผู้กำกับคนดัง ที่ให้การสนับสนุน นายสุหฤท ที่มา: อินสตาแกรม @kleurmasutra

“ปัญหาการเลือกตั้งผู้นำ ไม่ได้อยู่ที่ใหม่หรือเก่า ปัญหาคือเราจะลองของใหม่หรือไม่ อย่างโดนัท คริสปี้ครีม ยังไปเข้าคิวรอซื้อกันเป็นชั่วโมงได้ ทั้งที่ไม่รู้ว่ามันจะอร่อยไหม แต่อย่างน้อย ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้เหรอ ไม่อร่อยคราวหน้าก็ไม่กินอีก คนไทยเป็นแบบนี้ชอบยึดติด ข้าวร้านนี้อร่อยก็กินมันอยู่ร้านนี้ ร้านข้างๆ สามปีมาแล้วไม่เคยเข้าไปกินเลย มันอาจจะรสชาติถูกปากกว่าร้านประจำก็ได้ ลองไปเถอะ ทีนายกเป็นใครก็ไม่รู้ไม่เคยเห็นผลงาน เพียงแค่มีคนหนุนหลังยังหลับหูหลับตาเลือกมาได้เลย ผลงานเป็นไงบ้างล่ะครับ ถูกใจไหมเอ่ย?”

“ผู้สมัครที่มาแรงใช้นโยบายประชานิยมอีกแล้ว แต่ถ้ามองดีๆ จะพบว่าเป็นนโยบายของรัฐ, ตำรวจ, กระทรวงที่กรุงเทพฯ เข้าไปร่วมเท่านั้น การใช้ระบบฟรีจะมีผลกระทบอะไรบ้าง ซึ่งควรให้เป็นไปตามกลไกผู้บริโภคโดยการจัดระเบียบและช่วยเสริมงานให้ตำรวจจราจร การทำงานปกติก็ทำ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว จะสร้างภาพ 24 ชั่วโมงทำไม ทำไมไม่ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่และการใช้แผนบริหารจัดการแทนที่จะใช้เงินทุ่มอย่างเดียว การคานอำนาจจะทำให้มีการตรวจสอบกันเองและรัฐต้องทำตัวเป็นกลางต้องประสานงานได้กับทุกกลุ่ม ไม่ใช่เลือกเฉพาะพวกตนเองเท่านั้น”

“ชอบพี่โต้ ที่บอกว่า “เชื่อการเมืองแบบเดิม เลือกแบบเดิม ได้กรุงเทพฯ แบบเดิม” จากที่เห็นมาก็เป็นแบบนั้นแหละครับ ไม่ว่าใครจะไปใครจะมาสภาพก็เป็นแบบเดิม ลองเอาคนที่เค้าเจอปัญหากับตัวเองทุกวันมาแก้ปัญหาบ้าง อาจดีกว่า ใช้วิธีการแบบเดิม คนแบบเดิม มาแก้ปัญหา”

“หาคนดีมาเป็น ผู้ว่า กทม. ไม่ได้ซักที ก็คนๆ ก็ไม่ได้เรื่อง เลือกคนดีไม่ได้ลองเลือก คนกล้า ดูมั่งเพื่อจะดีก็ได้นะ”

“นายกฯ ของประเทศ หาเสียงด้วยนโยบายรถคันแรก ทำรถติดหนัก!! ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. ในพรรค มาหาเสียงพร้อมนโยบาย รถเมล์แอร์ฟรี เพื่อ?? แล้วนโยบายค่าแรงขั้นต่ำของนายกฯ ทำคนตกงาน ข้าวของแพงขึ้นเวอร์มาก จะแก้ อะไร ยังไงๆๆๆๆ หาทางออกเจอกันบ้างมั้ยครับ กทม. และ ประเทศไทย”

เรื่องที่สอง สำนักข่าวบีบีซีนิวส์ของอังกฤษรายงานว่า พบเจ้าหน้าที่ของไทยมีส่วนร่วมในการขายชาวโรฮิงญาให้แก่ขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อส่งต่อไปใช้แรงงานในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ อีกทั้งปัจจุบันมีชาวโรฮิงญาจำนวนมากที่อพยพเข้ามาในประเทศไทย ด้วยเหตุของภัยสงครามจากรัฐยะไข่ ประเทศพม่า และเพื่อมาแสวงหาชีวิตใหม่ให้กับตัวเองและพวกพ้อง

จนกลายเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลไทยต้องหาทางออก ซึ่งอาจจะต้องร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย อินโดนีเซีย และพม่า รวมทั้งอินเดียและบังกลาเทศ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา ปัจจุบันไทยมีชาวโรฮิงญาที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายประมาณ 1.3 แสนคน

นอกจากการนี้ แกนนำชาวโรฮิงญา นายหม่อง จอ นู ประธานสมาคมโรฮิงญาแห่งประเทศไทย ยังได้มีการเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลไทย 5 ข้อ คือ 1. อย่าส่งชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกลับประเทศพม่า 2. ให้จัดสถานที่สำหรับดูแลชาวโรฮิงญารวมไว้ในที่เดียวกัน เพื่อความเป็นอิสระและสะดวกต่อการประกอบศาสนกิจ อย่าควบคุมไว้ในห้องขัง 3. ให้รัฐบาลไทยประสานองค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อรับรองชาวโรฮิงญาให้อยู่ในข่ายของผู้ลี้ภัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้ก่อนที่จะถูกผลักดันไปยังประเทศที่สาม 4. ให้อาเซียนและนานาประเทศกดดันพม่า ปฏิรูปการเมือง และปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาด้วยมนุษยธรรม และ 5.หากพม่าไม่ยอมรับข้อเสนอ ให้จัดกองกำลังนานาชาติเข้าไปคุ้มครองดูแลชาวโรฮิงญาในประเทศพม่าเพื่อความปลอดภัย

ที่มาภาพ : http://www.thaimuslim.comview.phpc=2&id=18930
ที่มาภาพ: http://www.thaimuslim.comview.phpc=2&id=18930

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนแยก เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์การค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ผู้บัญชาการทหารบกได้มีการสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นพบว่าอาจมีทหารมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย 2 นาย เป็นนายทหารยศพันตรีและนายทหารยศร้อยโท ซึ่งได้กักตัวไว้เพื่อดำเนินการสอบสวนแล้ว

“ชาวโรฮิงญา น่าสงสาร แต่นับวันจะยิ่งทะลักเข้ามาในประเทศไทยจะรับภาระเช่นนี้ไปตลอดเหรอ เพราะลำพังคนยากไร้ในสังคมก็มากพอ ที่ควรจะมาดูแลช่วยเหลือมากกว่า”

“ดิฉันจะไม่ว่าพวกที่กำลังเดือดร้อน คือเค้าต้องการความช่วยเหลือ ในเบื้องต้น เขาเป็นมนุษย์เหมือนเรา สงสารจับใจกับคำว่าติดคุกเมืองไทยเหมือนกับพวกเขาได้อยู่โรงแรม (คือเข้าใจเลยกับความรู้สึกพวกเขากล่าวมาอย่างซื่อๆ) พวกท่านมีพร้อมอยู่แล้ว โปรดเสียสละพื้นที่และเศษเงินของท่านเล็กน้อย ช่วยพวกโรฮิงญาด้วยเถิด มันจะเป็นบุญมหาศาลที่ติดตัวท่านไปทุกภพทุกชาติ”

“เอาแบบนี้ดีกว่า ไม่รับพวกเขาก็ได้ แต่อย่าส่งกลับพม่าเลย ขนาดคนพม่าศาสนาพุทธด้วยกัน คนไทยบางคนยังไล่ และดูถูก นับประสาอะไรกับชาวโรฮิงญามุสลิม รักกันดีกว่านะเพื่อนมนุษย์”

“จริงแล้ว ต้นเหตุมาจากชาวมุสลิมที่ไปข่มขื่นเขาก่อนไม่ใช่หรอ แล้วเลยเทิดเป็นการจลาจล พม่าเลยได้ความชอบธรรมในการควบคุมดูแล และเลือกปฏิบัติ ก็ยังว่า รัฐยะไข่เดิมเป็นพม่าโบราญ รัฐบาลก็ต้องเข้าข้างอยู่แล้ว”

“ความสงสาร กับ ความมั่นคงภายในประเทศมันแย้งกันนะ อย่างที่หลายความคิดเห็น กล่าวมา ยังไงได้คืบก็ต้องเอาศอก แล้วเราจะรับรองได้มั้ย ว่าคนกลุ่มนี้เข้ามาจะไม่เป็นภาระบ้านเมืองเรา อีกอย่างเค้าเป็นมุสลิม ไม่มีการคุมกำเนิด พอขยายเป็นชุมชนมากเข้าก็เป็นเรื่องอีก”

“ขอบคุณที่ช่วยพี่น้องชาวโรฮิงยา แม้เงินแค่นิดเดียวก็มีค่ามากแล้วสำหรับพวกเขาตำรวจที่เข้าไปจับกุมถือว่าได้ช่วยชีวิตพวกเค้าไว้ด้วยเค้าก็ไม่อยากถูกจับหรอกกลัวโดนส่งกลับไปต่อไปคงเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่ต้องไห้การช่วยเหลือเพราะมุสลิมคือเรือนร่างเดียวกันพวดเค้าต้องละหมาดในคุกในขณะที่เราละเลยในการละหมาดอัลลอะว์รักพวกเค้ามากจึงทดสอบพวกเค้าค่ะในอนาคตไม่ว่าจะเป็นยังไงทางการจะจัดการอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของเค้าเราช่วยเค้าเพื่ออัลลอะว์เท่านั้นค่ะ”

เรื่องที่สาม เป็นคลิปวิดีโอที่สร้างความฮือฮา เมื่อมีการอัพโหลดคลิปที่มีชื่อว่า “ตำรวจหรือโจรเรียกค่าไถ่” ลงบนเว็บไซต์ยูทูบ จากสมาชิกชื่อ Mild Pond เป็นเรื่องราวที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสุ่มตรวจสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง และตำรวจได้เชิญตัวสาวแคชเชียร์ไปสอบปากคำ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิด พร้อมกล่าวว่าต้องใช้เงินประกันถึง 50,000 บาท ถึงจะกลับบ้านได้ แม้กระทั่งเจ้าของสินค้าเข้ามาเคลียร์ให้ ก็ไม่ยอม และได้นำเอกสารมาให้สาวแคชเชียร์เซ็นยอมรับผิดและพิมพ์ลายนิ้วมือ

ที่มาภาพ : http://news.sanook.com1166115
ที่มาภาพ: http://news.sanook.com1166115

คลิปนี้ ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นอย่างมาก ที่ให้ความสนใจกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ดูไปแล้ว หลายๆ ความเห็นสรุปมาใกล้เคียงกันว่า “ตำรวจรังแกประชาชน” แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ชาวโซเชียลหลายคนคงจะรอคำตอบและความกระจ่างชัดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนี้อยู่แน่นอน

“เรื่องนี้ ผิดที่บริษัทไม่ใช่พนักงานนะ ตำรวจดีๆ มีเยอะก็จริงแต่ขี้โกงก็เยอะนะ”

“เบื่อจริง เศรษฐกิจไม่ดีก็เพราะทำกันแบบนี้ เสียภาษีให้แล้วยังจะมาเก็บอะไรอีกก็ไม่รู้ เสียค่าน้ำมันแล้ว ยังต้องเอาเงินใส่มือลูกน้องไปจ่าย ให้ตำรวจตามทางอีก ทำไมไม่ไป หาจับพวกค้ายาบ้า เต็มบ้านเต็มเมื่องอยู๋นะตอนนี้”

“คิดว่าประชาชนไม่รู้เรื่องกฎหมาย เลยยัดเยียดข้อหา ใหญ่เลยนะ”

“ข้องใจกับคำว่า ผมจะไม่ใจดีกับคุณแล้ว จะแจ้งข้อหาเพิ่ม มันหมายความว่ายังไงครับ ทำไมกร่างแบบนี้ คุณตำรวจ”

“เมืองไทยไม่ต้องมีหรอกตำรวจอะ มีไปก็เหมือนมีโจรเพิ่ม”

“ตำรวจดีๆ ก็มีเยอะนะครับ แต่ตำรวจแบบในคลิป ทำให้มุมมองของประชาชน กับตำรวจ ไปในทางที่ไม่ดี ทุกวันนี้ คนดีๆ เห็นรถตำรวจ ยังกลัวเลยครับ”

เรื่องที่สี่ วินาทีนี้ คงไม่มีใครรู้จักเพลงดังจากเกาหลี พร้อมท่าเต้นสุดฮิต “กังนัม สไตล์” ที่มิวสิกวิดีโอเปิดตัวได้สร้างปรากฏการณ์ยอดผู้ชมสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และครั้งนี้ กังนัม สไตล์ ได้สร้างกระแสในเว็บไซต์ยูทูบอีกครั้ง เมื่อ “John Karam” สมาชิกยูทูบ ได้อัพโหลดคลิปวิดีโอที่เด็กวัยเพียงแค่ 7 เดือน กำลังเต้นท่าเพลงกังนัม สไตล์ ได้ด้วยท่าทางที่ถูกต้องและถูกจังหวะอย่างน่าทึ่ง ทั้งควบม้าและเหวี่ยงเชือก แม้ว่าเด็กน้อยนักเต้นคนนี้จะยังยืนไม่ได้ด้วยซ้ำ

ที่มาภาพ: http://www.dailynews.co.tharticle175034180518
ที่มาภาพ: http://www.dailynews.co.tharticle175034180518

หนูน้อยคนนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีและกลายเป็นคนดังไปแล้ว ด้วยท่าทางที่น่ารัก น่าชัง รอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความเป็นเด็กสดใสร่าเริง ครองใจชาวโซเชียลเน็ตเวิร์กไปได้แบบเต็มๆ ดูคลิปได้ที่นี่

“สงสัยสโลแกนของเพลงคือ Gangnam Style เข้าถึงจิตวิญญาณของทุกเพศ ทุกวัย แต่น้องเค้าน่ารักจังเลยอ่ะ”

“ชอบอ่ะ!น่าร๊ากกกกก มากกก เลยยย”

“น่ารักอะ เต้นมีรอจังหวะด้วย”

“โตขึ้นเป็นนักเต้นแน่เลย อายุแค่นี้จดจำท่าได้แล้ว”

“แม่เขาคงเปิดให้ฟังตั้งแต่ในท้อง เลยนะเนี่ย”

“ถ้านู๋เดินได้เมื่อไร คงพริ้วกว่านี้อีก มาเต้นให้ดูอีกทีนะ น่ารักมาก”

เรื่องที่ห้า อีกหนึ่งคลิปวิดีโอที่สร้างความสดใสและรอยยิ้มให้ชาวโซเชียลอย่างมาก กับคลิปที่มีชื่อว่า “ฮาร์ดคอร์ ก ไก่” ที่แสดงถึงความช่างพูด น่ารักปนทะเล้นของเด็กน้อย ทั้งยังมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอย่างชัดเจน กับคลิปวิดีโอที่มีเด็กน้อยหน้าตาลูกครึ่งอายุประมาณ 2-3 ขวบ กำลังท่องพยัญชนะไทย ก.ไก่-ฮ.นกฮูก ก่อนนอนได้อย่างน่ารักน่าชัง โดยมีเสียงของผู้เป็นแม่ซึ่งเป็นคนไทยกำลังสอนลูกที่น่ารักคนนี้อยู่

โดยหลายความเห็นชื่นชอบในความน่ารักของเด็ก และยังยกย่องชมเชยผู้เป็นแม่ที่สอนลูกได้อย่างดี ให้รู้จักความเป็นไทยและภาษาไทยที่ถูกต้องดูคลิปได้ที่นี่

ที่มาภาพ: http://webboard.yenta4.comtopic539976
ที่มาภาพ: http://webboard.yenta4.comtopic539976

“อยากหอมแก้มน้องจังเลย น่ารักมากๆ หลงรักเลย สุดยอดจริงๆ ขอบคุณ คุณแม่ของน้องนะคะ ที่ลงคลิปน่ารักๆแบบนี้ให้ได้ดูกัน น้องฉลาดและน่ารักมากจริงๆ ท่องชัดเจนมากกว่าเด็กไทยแท้บางคนเสียอีก”

“ใครรอลุ้นมั่งว่าจะจบ หลังอออ่างแต่สุดท้าย หอหีบมาอีกรอบเฉยเรย น่ารักจัง”

“สุดยอดเลย แม่คอยแทรกคำพูดผิด โดยน้องไม่เสียสมาธิเลย สมาธิเยี่ยมมากๆเลย”

“น้องน่ารักมากๆ ปรบมือให้ยอดคุณแม่ค่ะ อยากให้คนที่อยู่ต่างประเทศเห็นความสำคัญของภาษาแม่แบบนี้บ้างจังค่ะ เพราะบางคนอยู่เมืองนอก แต่เป็นลูกคนไทยแท้ๆ ยังไม่พูดภาษาไทยเลย ปลื้มน้องดีแลนส์และคุณแม่มากๆ ค่ะ”

“น่ารักมากเลยครับ มีแววฉลลาดนะเนี่ย เรียนพูดไทยไว้ อย่าให้ขาดนะครับ”

“น่ารักมาก อยากมีลูกเป็นลูกครึ่ง บัดเดี๋ยวนี้เลยอ่ะ”