ThaiPublica > Sustainability > Headline > UNICEF ชี้สุขภาวะของเด็กในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของโลกถดถอยลงมากหลังการระบาดของโควิด-19

UNICEF ชี้สุขภาวะของเด็กในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของโลกถดถอยลงมากหลังการระบาดของโควิด-19

15 พฤษภาคม 2025


เด็กชายคนหนึ่งในประเทศสโลวาเกียในช่วงฤดูหนาวปี 2022 ยูนิเซฟและพันธมิตรได้จัดตั้งพื้นที่เรียนรู้ใหม่ 3,500 แห่ง รวมถึงศูนย์เรียนรู้กว่า 23 แห่งทั่วสโลวาเกียสำหรับเด็ก ๆ ชาวสโลวาเกียและเด็กผู้ลี้ภัย © UNICEF/UNI396466/Le Lijour

การเติบโตในประเทศที่ร่ำรวยและมีทรัพยากรมากมายไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเด็กๆ จะมีวัยเด็กที่มีความสุขและมีสุขภาพดี นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 เด็กๆ ในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดบางประเทศเรียนไม่ทัน มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนมากขึ้น และมีความสุขลดลง สำหรับประเทศไทย แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศ OECD แต่ข้อมูลชี้ให้เห็นแนวโน้มที่คล้ายกัน จากรายงานล่าสุดของ UNICEF

ฟลอเรนซ์ / นิวยอร์ก/กรุงเทพฯ, 14 พฤษภาคม 2568 – รายงานการวิเคราะห์ล่าสุดของยูนิเซฟ ระบุว่า เด็ก ๆ ในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของโลกกำลังเผชิญกับภาวะถดถอยด้านการเรียนรู้ สุขภาพจิต และสุขภาพร่างกาย นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19

รายงาน Report Card 19: สุขภาวะของเด็กในโลกที่ไม่แน่นอน จัดทำโดยยูนิเซฟ อินโนเซนติ (UNICEF Innocenti) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลของยูนิเซฟ ได้ทำการเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างปี 2561 และ 2565 เพื่อนำเสนอภาพรวมของผลกระทบจากโควิด-19 และมาตรการปิดประเทศที่มีต่อเด็กใน 43 ประเทศในกลุ่ม OECD (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา) และสหภาพยุโรป โดยเมื่อเทียบกับรายงานครั้งล่าสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รายงานฉบับใหม่นี้ พบว่า เนเธอร์แลนด์และเดนมาร์กยังคงครองอันดับหนึ่งและสองในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก ตามด้วยฝรั่งเศส โดยพิจารณาดัชนีชี้วัดด้านสุขภาพจิต สุขภาพร่างกาย และทักษะต่าง ๆ

รายงาน Report Card 19: สุขภาวะเด็กในโลกที่ไม่แน่นอน เป็นการปรับปรุงข้อมูลจากรายงาน Report Card 16 ซึ่งศึกษาสถานการณ์จนถึงปี 2561 และฉบับล่าสุดนี้อัปเดตข้อมูลถึงปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยรายงานนี้ให้ข้อมูลใน 3 มิติสำคัญของสุขภาวะเด็ก ได้แก่ สุขภาพจิต (ข้อมูลความพึงพอใจในชีวิตจาก OECD PISA 2022 และอัตราการฆ่าตัวตายวัยรุ่นจาก WHO), สุขภาพร่างกาย (อัตราการเสียชีวิตเด็กจาก UN IGME และข้อมูลภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนจาก NCD-RisC), และทักษะของเด็ก (จากผลสอบทางวิชาการและทักษะทางสังคมจาก OECD PISA 2022)

อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ให้เห็นว่า หลายประเทศที่ร่ำรวยกำลังประสบกับการลดลงอย่างชัดเจนของทักษะทางวิชาการของเด็ก โดยเฉพาะทักษะพื้นฐาน เช่น การอ่านและคณิตศาสตร์ การปิดโรงเรียนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ 3 ถึง 12 เดือน ทำให้เด็กจำนวนมากต้องเรียนทางไกล ส่งผลให้เกิดภาวะการเรียนรู้ถดถอย รายงานประเมินว่า โดยเฉลี่ย เด็ก ๆ มีความรู้ล่าช้าจากระดับที่ควรจะเป็นราว 7 เดือนถึง 1 ปี และเด็กจากครอบครัวที่ขาดโอกาสมักได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

“ก่อนเกิดโรคระบาด เด็ก ๆ ก็เผชิญกับปัญหาหลายด้านอยู่แล้ว อีกทั้งไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ แม้ในประเทศที่ร่ำรวย” นายโบ วิกเตอร์ ไนลุนด์ ผู้อำนวยการยูนิเซฟ อิโนเชนติ กล่าว “ณ ตอนนี้ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกมีความผันผวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการศึกษา สุขภาพ และความเป็นอยู่ของเด็ก เพื่ออนาคตและความสุขของพวกเขาในระยะยาว รวมถึงความมั่นคงทางเศรษฐกิจของสังคมด้วยเช่นกัน”

ในบรรดา 43 ประเทศ เด็กอายุ 15 ปีประมาณ 8 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของเด็กวัยนี้ขาดทักษะพื้นฐานด้านการอ่านและคำนวณ หมายความว่า พวกเขาไม่สามารถเข้าใจข้อความง่าย ๆ ได้ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับโอกาสในอนาคตของพวกเขา ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ถึงร้อยละ 4 โดยประเทศที่มีสัดส่วนสูงที่สุด ได้แก่ บัลแกเรีย โคลอมเบีย คอสตาริกา ไซปรัส และเม็กซิโก ซึ่งมีเด็กอายุ 15 ปีกว่า 2 ใน 3 คนที่ขาดทักษะดังกล่าว

อันดับประเทศต่างๆ ตามสุขภาพจิต สุขภาพกาย และทักษะของเด็ก

รายงานนี้ยังสะท้อนความกังวลด้านสุขภาพจิต โดยระบุว่า ความพึงพอใจในชีวิตของเด็กลดลงอย่างมากใน 14 จาก 32 ประเทศที่มีข้อมูล โดยญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่มีแนวโน้มด้านนี้ดีขึ้น

นอกจากนี้ รายงานยังวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพร่างกายของเด็ก พบว่าอัตราน้ำหนักเกินของเด็กเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน 14 จาก 43 ประเทศที่มีข้อมูล ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในระยะยาว

โดยสรุป รายงานชี้ให้เห็นว่า แม้จะเป็นประเทศที่มีรายได้สูง แต่หลายประเทศก็ยังคงเผชิญความท้าทายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตและอนาคตที่ดีของเด็ก อีกทั้งผลกระทบจากโควิด-19 ยังสะท้อนว่า ความก้าวหน้าด้านสุขภาวะเด็กที่เคยสะสมมาจากอดีต อาจถูกกระทบและถดถอยลงได้ง่ายจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ของโลกในปัจจุบัน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การเปลี่ยนแปลงใน 6 ตัวชี้วัดด้านความเป็นอยู่ที่ดีของเด็ก ตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2022 (จำนวนประเทศ)

สำหรับประเทศไทย แม้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศ OECD แต่ทักษะพื้นฐานด้านการอ่านและการคิดเลขของเด็ก ๆ ก็มีแนวโน้มแย่ลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผลสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติและยูนิเซฟในปี 2565 ชี้ให้เห็นว่า เด็กในวัยเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 3 น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 47) มีทักษะด้านการอ่านขั้นพื้นฐาน ซึ่งลดลงจากร้อยละ 52 ในปี 2562 และมีเพียงร้อยละ 40 เท่านั้นที่มีทักษะพื้นฐานด้านการคำนวณ เมื่อเทียบกับร้อยละ 47 ในปี 2562

รายงานของยูนิเซฟ อินโนเซนติ เรียกร้องให้รัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในหลายด้านเพื่อฟื้นฟูสุขภาวะของเด็ก ได้แก่: