ThaiPublica > คอลัมน์ > 10 คุณค่าใหม่ พลิกฟื้นประเทศไทย

10 คุณค่าใหม่ พลิกฟื้นประเทศไทย

17 พฤษภาคม 2025


ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์

รากเหง้าของวงจรอุบาทว์เชิงซ้อนในสังคมไทย มาจากระบบคุณค่าของคนไทย ที่ยังติดอยู่ในกับดักของอุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธิ์ชน กับวัตถุนิยม บริโภคนิยม และสุขนิยม ส่งผลกระทบเชิงลึกและเป็นวงกว้าง ไล่ตั้งแต่

  • คอร์รัปชัน
  • ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและโอกาส
  • การเมืองที่ขาดความรับผิดชอบ
  • วิกฤติสิ่งแวดล้อม
  • ระบบการศึกษาที่ล้มเหลว
  • วิกฤติความหมายชีวิต
  • คอร์รัปชันที่ฝากรากลึกในสังคมไทย

    ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม อภิสิทธิ์ชน กับวัตถุนิยม บริโภคนิยม สุขนิยม มีความสัมพันธ์กับ “คอร์รัปชัน” อย่างลึกซึ้ง โดยเป็นระบบที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน กล่าวคือ ระบบคุณค่าทั้งสองชุดเป็นปุ๋ยอย่างดีที่หล่อเลี้ยงการคอร์รัปชันให้ฝังรากลึกและเติบโตต่อเนื่องในระดับโครงสร้าง วัฒนธรรม และจิตสำนึก ในสังคมไทย

    ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม อภิสิทธิ์ชน เอื้อและสร้างเครือข่ายคอร์รัปชันเชิงโครงสร้างอย่างชัดเจน

    • ระบบอุปถัมภ์: ใช้อำนาจส่วนตัวแจกจ่ายตำแหน่ง ทรัพยากร เพื่อแลกผลประโยชน์ ก่อให้เกิดคอร์รัปชันเชิงระบบ
    • อำนาจนิยม: ปิดกั้นการตรวจสอบจากประชาชน สื่อ หรือองค์กรอิสระ ทำให้คอร์รัปชันเกิดโดยไม่มีคนกล้าท้วง
    • อภิสิทธิ์ชน: การบังคับใช้ตามกฎหมายไม่เท่าเทียมกัน คนมีอำนาจลอยนวล คนโกงไม่ถูกลงโทษ ส่งผลให้พฤติกรรมการโกงเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย

    ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การเกิดวัฒนธรรมคอร์รัปชันแบบ “ใครๆ ก็ทำ” และประชาชนก็จะหมดศรัทธาในระบบ

    วัตถุนิยม บริโภคนิยม สุขนิยม เป็นแรงจูงใจภายใน ที่ทำให้คนจำนวนมาก “ยอมคอร์รัปต์หรือสนับสนุนคนโกง” เพราะมุ่งหวังความสุขและความมั่งคั่งเฉพาะตน

    • วัตถุนิยม: นิยาม “ความสำเร็จ” ด้วยเงิน ทรัพย์สิน และสถานะ ทำให้คนพร้อมละทิ้งคุณธรรม จริยธรรม เพื่อแสวงหาผลประโยชน์
    • บริโภคนิยม: ทำให้คนเกิดความโลภเรื้อรัง ต้องหาเงินตลอดเวลา ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งหาช่องโกงเพื่อตอบสนอง “ความอยาก”
    • สุขนิยม: ลดคุณค่าของ “ความดี” ลง เหลือเพียง “ความพอใจ” ทำให้คนไม่รู้สึกผิดกับการโกง ถ้ามันทำให้ชีวิตสบายขึ้น

    ผลลัพธ์ที่ตามมาคือการเกิดสังคมที่ “คนโกงได้รับการยอมรับ” ถ้าเขามีเงิน ใช้จ่ายเก่ง และเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ

    ในเชิงระบบ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม อภิสิทธิ์ชน สร้างโครงสร้างและเครือข่ายอำนาจที่เอื้อต่อการคอร์รัปชัน

    ในขณะที่ วัตถุนิยม บริโภคนิยม สุขนิยม สร้างวัฒนธรรมและแรงจูงใจทางจิตวิทยา ที่ทำให้คอร์รัปชันกลายเป็น “เรื่องธรรมดา” ทั้งสองระบบคุณค่าจึงเป็นรากลึกของวัฒนธรรมคอร์รัปชันในสังคมไทย

    การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันอย่างยั่งยืนจึงต้องไม่ใช่แค่การ “เอาผิดคนโกง” แต่ต้อง “ถอนราก 2 ระบบคุณค่า” ที่หล่อเลี้ยงพฤติกรรมคอร์รัปชันเหล่านี้ออกไป

    ผลกระทบเชิงโครงสร้างและพฤติกรรม

    ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิ์ชน กับ วัตถุนิยม บริโภคนิยม และสุขนิยม ในสังคมไทยนอกจากจะสัมพันธ์โดยตรงกับการคอร์รัปชันแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงทั้งเชิงโครงสร้างและพฤติกรรม

    1. ความเหลื่อมล้ำทางโครงสร้าง

    • ระบบอุปถัมภ์ ทำให้ทรัพยากรถูกจัดสรรแบบลำเอียงตามสายสัมพันธ์ ไม่ใช่ความยุติธรรม
    • วัตถุนิยม-บริโภคนิยม ทำให้สถานะทางเศรษฐกิจกลายเป็นตัวชี้วัดคุณค่าของมนุษย์ ส่งผลให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างขึ้น

    2. การเมืองแบบอ่อนแอและผูกขาด

    • อำนาจนิยม-อภิสิทธิ์ชน ทำให้การเมืองถูกผูกขาดโดยกลุ่มชนชั้นนำ ขาดความโปร่งใส และประชาชนไม่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
    • สุขนิยมแบบหนีปัญหา ทำให้คนจำนวนมากเลือกเพิกเฉยต่อการเมือง มุ่งหา “ความสุขส่วนตัว” มากกว่าร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลง

    3. การเสื่อมของระบบคุณธรรมและจริยธรรม

    • ระบบอภิสิทธิ์ชน ทำให้สังคมยอมรับว่า “คนบางกลุ่มอยู่เหนือกฎหมาย”
    • วัตถุนิยมและบริโภคนิยม ลดทอนคุณค่าทางจิตใจ เหลือเพียง “การมี” มากกว่า “การเป็น” หรือ “การทำเพื่อส่วนรวม”

    4. ภาวะวิกฤติความหมายชีวิต

    • สุขนิยมแบบผิวเผิน มุ่งหาความสุขระยะสั้นทางวัตถุ ทำให้ผู้คนขาดเป้าหมายชีวิตที่ลึกซึ้ง เกิดความรู้สึกว่างเปล่า โดดเดี่ยว
    • ขาดการตระหนักถึงคุณค่าภายใน ความสัมพันธ์ ความรัก หรือจิตวิญญาณร่วมกับผู้อื่น

    5. วิกฤติทางการศึกษาและวัฒนธรรม

    • อำนาจนิยม ทำให้การศึกษาขาดการกระตุ้นการคิดวิเคราะห์ ตั้งคำถาม หรือสร้างสำนึกพลเมือง
    • บริโภคนิยม ทำให้การศึกษากลายเป็นเครื่องมือแสวงหาสถานะ มากกว่าการปลดปล่อยศักยภาพมนุษย์
    • วัฒนธรรมถูกลดทอนจนเหลือแค่ “สินค้า” มากกว่ารากเหง้าแห่งปัญญา

    6. วิกฤติสิ่งแวดล้อมและความไม่ยั่งยืน

    • บริโภคนิยม-สุขนิยม ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรเพื่อความสะดวกสบายและความพึงพอใจในทันที โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อโลกธรรมชาติ
    • ขาดแนวคิดแบบ “อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน“

    10 คุณค่าใหม่ พลิกฟื้นประเทศไทย

    ระบบคุณค่าใหม่ออกแบบมา เพื่อถอนรากระบบคุณค่าเก่า อันได้แก่ อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม อภิสิทธิ์ชน กับวัตถุนิยม บริโภคนิยม สุขนิยม ด้วยการสร้างรากฐานจิตสำนึก วัฒนธรรม และโครงสร้างสังคมใหม่ ที่มีความเป็นธรรม โปร่งใส และยั่งยืน ระบบคุณค่าใหม่ 10 ประการประกอบไปด้วย

    1. คุณธรรมสูงกว่าผลประโยชน์ ยึดหลักความดี ความถูกต้อง และจริยธรรมเป็นแก่น ไม่ยอมแลกเปลี่ยนสิ่งผิดเพื่อความได้เปรียบ

    2. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่วัดค่าของคนจากฐานะ ตำแหน่ง หรือการถือครอง แต่จากความเป็นมนุษย์ ผ่านความดี ความงาม และความจริง

    3. ความรับผิดรับชอบต่อส่วนรวม ปลูกจิตสำนึกว่า “ฉันคือส่วนหนึ่งของสังคม” ไม่ใช่ “ฉันแยกจากสังคมเพื่ออยู่รอด”

    4. โปร่งใส ตรวจสอบได้ กล้ายอมรับผิด ยอมรับว่าสังคมที่ดีต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปกปิด ต้องตรวจสอบได้ ไม่ใช่ห้ามถาม และต้องกล้ายอมรับเมื่อผิดพลาด

    5. กระจายอำนาจ คืนอำนาจสู่ประชาชน ลดศูนย์กลางอำนาจ เปิดพื้นที่ให้ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชนร่วมตัดสินใจในสิ่งที่กระทบต่อชีวิต ครอบครัว หรือชุมชนของเขา

    6. พอเพียง เรียบง่าย ไม่หลงวัตถุ ยึดหลัก “ใช้น้อย ได้มาก” มีความสุขจากความเรียบง่าย ไม่วัดคุณค่าชีวิตจากการสะสมหรือการบริโภค

    7. สร้างความหมาย มากกว่าความสุขฉาบฉวย ไม่ใช้ชีวิตเพียงเพื่อความสบายหรือสนุก แต่มีเป้าหมายที่ลึกซึ้ง เช่น การพัฒนา การให้ การเรียนรู้

    8. เมตตา เห็นใจ และเอื้อเฟื้อ สร้างวัฒนธรรมแห่งการเข้าใจผู้อื่น ไม่ตัดสินเร็ว ไม่เบียดเบียน แต่ร่วมกันประคับประคอง

    9. ร่วมมือ ไม่แข่งขันทำลายกัน ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความร่วมมือระหว่างกลุ่มคนต่างๆ แทนที่จะช่วงชิงทรัพยากรหรือยกตนข่มผู้อื่น

    10. เรียนรู้ตลอดชีวิต และกล้าเปลี่ยนแปลง ยอมรับว่าโลกเปลี่ยน คนต้องปรับ เรียนรู้ เติบโต พัฒนา และเปิดใจเสมอ คือหัวใจของสังคมที่ไม่ติดหล่ม