
ACT ส่งจม.เปิดผนึกถึงผู้สมัครฯนายกอบจ. ตอกย้ำเสียงประชาชนต้องการร่วมต้านโกง ชวนนักการเมืองประกาศพันธกิจโค้งสุดดท้าย
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT และภาคีเครือข่ายส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปี2568 เชิญชวนแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชันตามเสียงเรียกร้องของประชาชนจากผลโพลล์กว่าร้อยละ 93 ต้องการมีส่วนร่วมในการต้านโกง เพราะรับรู้ว่ามีคอร์รัปชันโกงกินงบฯอบจ.จำนวนมหาศาล เตือนประชาชนหน่ายการเมืองชัดมาก ดูจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอบจ.ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มีเพียงร้อยละ 48-53 เท่านั้น
นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)เปิดเผยว่า องค์กรและภาคีได้ร่วมกันออกจดหมายเปิดผนึก ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 เรียนเชิญผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปี 2568 ร่วมแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชัน ผ่านเครือข่ายและสื่อมวลชนโดยสามารถสื่อสารและส่งกลับมาผ่านแบบตอบรับออนไลน์ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScFYOtvPjszGqx09mcl7Hg-BitDnRBwRJuAAjPujhdzuzB42w/viewform ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 24 มกราคม หรือก่อนวันเลือกตั้ง 1 ก.พ.ศกนี้ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบในช่วงโค้งสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
ทั้งนี้ เนื้อหาสาระในจดหมายเปิดผนึกส่วนหนึ่งมีใจความว่า ดังที่ตระหนักว่า “คอร์รัปชัน” เป็นตัวการทำให้เกิดทุกปัญหาในสังคมรวมทั้งปัญหาปากท้องและคุณภาพชีวิตของผู้คนทั้งประเทศ สำหรับพี่น้องประชาชนในต่างจังหวัด สังคมไทยมีกลไกการเมืองท้องถิ่นอย่าง “องค์การบริหารส่วนจังหวัด” ทำหน้าที่ดูแลคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ โดยมีงบประมาณดำเนินการที่มาจากภาษีประชาชนของอบจ.ทั้งประเทศรวมกันเป็นจำนวน 8 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยกลับพบว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 95 รับรู้ว่ามีคอร์รัปชันโกงกินงบประมาณท้องถิ่นในอบจ.เป็นจำนวนเงินมหาศาล จึงไม่แปลกที่ประชาชนจำนวนร้อยละ 93.6 ยังต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ด้วยการเข้าถึงข้อมูลด้านต่างๆ รวมทั้งการติดตามตรวจสอบความโปร่งใส การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า

“บทบาทขององค์กรคือเป็นตัวกลางเรียนเชิญท่านผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. สื่อสารถึงประชาชนแสดงเจตนารมณ์ร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน ทั้งในกระบวนการเลือกตั้งและหลังได้รับเลือกตั้งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการระบุสิ่งที่ตั้งใจจะทำหากได้รับการเลือกตั้ง เป็นการสะท้อนจุดยืนต่อพันธกิจต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ผมเชื่อว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนแน่นอนในการพิจารณาเลือกคนที่มั่นใจว่าจะดูแลความอยู่ดีมีสุขให้กับพวกเขาได้” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯกล่าวและว่า นอกเหนือจากผลโพลล์โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแล้ว องค์กรฯยังได้ร่วมมือกับภาคีภาคส่วนต่างๆ ประกอบด้วย สถาบันพระปกเกล้า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช) กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย แฮนด์วิสาหกิจเพื่อสังคม ทูลมอโร่ วีว็อช เทลสกอร์ มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และอีกมากมายร่วมขับเคลื่อนแคมเปญรณรงค์เพื่อเสริมพลังพลเมืองชื่อ “พลิกชีวิตมหาศาล” ภายใต้คำขวัญ # 1 สิทธิพลิกชีวิตมหาศาล ผ่านช่องทาง www.mahasarn.org
ด้วยเครื่องมือสื่อสารรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะคลิปวิดีโอหนังสั้นที่มีผู้ชมกว่า 4.5 ล้านวิว ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของเวบฯนี้และเฟซบุ๊คโพสต์ผ่านช่องทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันปรากฏว่า มีประชาชนต่างมาแสดงความคิดเห็นต่อการทำงานและบทบาทของนายกฯอบจ.จำนวนมาก สาระสำคัญหลักๆ ประกอบด้วย 1) ประชาชนรู้สึกสิ้นหวังและเหนื่อยหน่ายกับการเมือง เช่น “บางทีไม่เข้าใจประชาชนนะ เห็นอยู่ว่าเลือกมาแล้วไม่ได้พัฒนาอะไรเลย แต่ยังเลือกเข้ามาคนเดิม ตระกูลเดิม” 2) ขาดความเชื่อถือในระบบเลือกตั้ง ทั้งคุณสมบัตินักการเมืองและโดยเฉพาะบทบาทของ “กกต.” เต็มไปด้วยคำถามความโปร่งใส “ไม่เคยเชื่อคำนโยบายนักการเมือง ..โปร่งใสทุกคนแหละตอนหาเสียง” 3) อย่างไรก็ตาม ประชาชนกลุ่มที่มีความหวังจะสะท้อนว่า ต้องการการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้าง และมีข้อเสนอแนะแก้ไข “..เริ่มจากตัวเอง ไม่ขายเสียง ไม่เลือกคนทุจริต.. คนโกงต้องเป็น 0 เท่านั้น”
“นี่เป็นเหตุผลที่องค์กรฯและภาคีจึงต้องออกมากระตุ้น และไถ่ถามเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันจากผู้สมัครรับเลือกตั้งอบจ.อีกครั้งในโค้งสุดท้าย” ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯกล่าว
จดหมายเปิดผนึก
[pdf-embedder url=”https://thaipublica.org/wp-content/uploads/2025/01/จดหมายเปิดผนึก-เรียนเชิญร่วมแสดงเจตนารมณ์.pdf” title=”จดหมายเปิดผนึก เรียนเชิญร่วมแสดงเจตนารมณ์”]