ThaiPublica > เกาะกระแส > นายกฯ ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ สั่งการสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกฯ ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ สั่งการสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

7 กันยายน 2024


นายกฯ ขอให้ ครม. น้อมนำพระบรมราโชวาทที่ทรงพระราชทาน เป็นกำลังใจและเป็นแนวทางในการทำงานอย่างมุ่งมั่น สั่งการ ครม.สานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันนี้ (7 กันยายน 2567) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ โดยมีคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีกับคณะรัฐมนตรีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และขอให้ได้น้อมนำเอาพระบรมราโชวาท ที่ทรงพระราชทานให้เป็นกำลังใจและเป็นแนวทางในการทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไป

พร้อมกล่าวมอบนโยบายให้กับรัฐมนตรี ดังนี้

1.ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเตรียมการแต่งตั้งข้าราชการระดับปลัด ฯ แทนตำแหน่งที่จะเกษียณและที่อยู่ในตำแหน่งครบอายุ 4 ปี เพื่อจะได้เสนอ ครม. พิจารณาหลังการแถลงนโยบาย

2. การแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ขอให้รมต. เตรียมชี้แจงตอบคำถามในประเด็นนโยบายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งช่วยกันสื่อสารและขยายผลนโยบายในส่วนที่ตนเองเกี่ยวข้อง เพื่อให้ข้าราชการ และประชาชนเข้าใจในนโยบายของรัฐบาลมากยิ่งขึ้น

และ 3. ขอให้ช่วยกันดำเนินการต่อเนื่องจากงานของนายกรัฐมนตรี นาย เศรษฐา ทวีสิน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การดูแลสินค้าเกษตร การดูแลกลุ่มเปราะบาง การแก้ปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ การเร่งรัดการใช้จ่ายเพื่อการลงทุนของภาครัฐ ด้วย

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) ในวันนี้ ประเด็นสำคัญคือเพื่อให้ความเห็นชอบคำแถลงนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งแจ้งกำหนดวันที่คณะรัฐมนตรีมีความพร้อม ให้ทางรัฐสภาทราบและนัดวันประชุมรัฐสภาต่อไป

เวลา 09.15 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (นัดพิเศษ) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีสื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ความสนใจนำเสนอและเผยแพร่ข่าวซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ มั่นใจประสานพลังการทำงานจากหลากหลายพรรคการเมืองให้เป็น จุดแข็ง ในการเป็นรัฐบาลแห่งการสร้างโอกาส ที่เท่าเทียมของคนไทย พร้อม เร่งเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง และเตรียมทีมกฎหมาย ปิดจุดอ่อนนิติสงคราม หวังทำงานครบ วาระ3 ปี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ

มั่นใจประสานพลังครม.ทำนโยบายได้สำเร็จ

ต่อมาในเวลา 11.50 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ซึ่งมั่นใจในการประสานพลังการทำงานจากหลากหลายพรรคการเมืองให้เป็นจุดแข็ง เป็นรัฐบาลแห่งการสร้างโอกาส ที่เท่าเทียมของคนไทย พร้อม เร่งเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจต่อเนื่อง และเตรียมทีมกฎหมาย ปิดจุดอ่อนนิติสงคราม หวังทำงานครบ วาระ3 ปี

นางสาวแพทองธาร  กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสแก่ดิฉันและคณะรัฐมนตรี เนื่องในวโรกาส เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีพระองค์ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “ขอให้พรด้วยความยินดี ให้คณะรัฐมนตรีมีกำลังใจ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ไปแล้ว เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน” นับเป็นเกียรติยศและความภาคภูมิใจสูงสุดแก่ชีวิตของดิฉันและคณะรัฐมนตรี พร้อมน้อมนำพระราชดำรัส มาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า พร้อมจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ พร้อมที่จะทำงานเพื่อประเทศอย่างเต็มที่ ตนเองและคณะรัฐมนตรีทุกคน จะทำงานแข่งกับเวลา ทุกชั่วโมง ทุกวินาที  ไม่ให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเป็นผู้แทนของประชาชน ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากทั่วพื้นที่ของคนทั้งประเทศ มาจากพรรคการเมืองที่มีความแตกต่างหลากหลาย ต่างภูมิภาค ต่างช่วงวัย

“ ดิฉันมั่นใจว่าดิฉันจะสามารถประสานพลังของทุกๆคน ให้มีพลังที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพใช้ความสามารถของตัวเอง อย่างเต็มที่และแน่นอน และขอให้ความมั่นใจว่าดิฉันจะใช้ความสามารถในการประสานพลังกับคณะรัฐมนตรีทุกท่าน ให้ทำงานด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ “ใช้ความหลากหลาย กลายเป็นจุดแข็ง” ในการแก้ปัญหา อย่างเข้าใจและตรงจุด ดิฉันเชื่อว่า โอกาส” คือ สิ่งที่เราสามารถสร้างให้เกิดขึ้นได้ วันนี้ ดิฉัน คณะรัฐมนตรี และข้าราชการทุกภาคส่วน พร้อมแล้วที่จะทำงานเพื่อสร้างความเท่าเทียมแห่ง “โอกาส” พลิกฟื้นความเชื่อมั่น ให้กับประเทศไทย ไม่ใช่เริ่มพรุ่งนี้ แต่นาทีนี้เป็นต้นไป”

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกได้มีการชี้แจงต่อคณะรัฐมนตรีทุกรายในการเตรียมชี้แจง และการตอบคำถามต่อรัฐสภาในประเด็นที่เกี่ยวข่อง เพื่อช่วยกันสื่อสารนโยบายที่รัฐมนตรีรับผิดชอบ สร้างความเข้าใจต่อข้าราชการและประชาชน โดยนโยบายส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายต่อเนื่องจากรัฐบาลเศรษฐา  ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  ที่ได้มีการรับฟังความคิดเห็นจากพรรคการเมืองต่างๆ และนำความเห็นมาปรับแก้ไขเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ และกฎหมายรัฐธรรมนูญ

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ปัญหาของประเทศเป็นปัญหาเรื้อรังและท้าทาย รัฐบาลจะนำปัญหาต่าง ๆ มาแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนโยบายระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นโยบายเร่งด่วน เช่น การปรับโครงการหนี้ การช่วยเหลือ SME กระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง

ส่วนนโยบายระยะกลาง ระยะยาว จะเป็นการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิม เสริมสร้างด้านการสร้างสรรค์ และการเสริมสร้างซอฟต์พาวเวอร์ โครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และการพัฒนาคน โดย ขอให้ติดตามรายละเอียดการ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 12 – 13 กันยายน 2567 นี้

และขอให้ คณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อเนื่องจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี  โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำมาโดยตลอด และการส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบด้วย รวมไปถึงการดูแลสินค้าเกษตร ยังเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งคณะรัฐมนตรีเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกๆ ปี ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนอย่างมาก  คณะรัฐมนตรีแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง  พร้อมกันนี้ขอให้ทุกกระทรวงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในพิธีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567  ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันนี้โดยนายกรัฐมนตรีมีเวลา 3 ปี คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีจะประเมินผลงาน กันอย่างไร ช่วงเวลาไหน

นางสาวแพทองธาร  กล่าวว่า  การวัดการประเมินต่างๆคิดว่าต้องดูกันตลอด เพราะอย่างที่บอกไว้จะทำงานแข่งกับเวลา แต่ส่วนของนโยบายต่างๆ หรือกระทรวงต่างๆต้องขึ้นอยู่กับว่านโยบายนั้นคือนโยบายอะไร คิดแน่นอนว่าจะต้องสรุปให้พี่น้องประชาชนฟังใน 3 เดือนแรกแน่นอน แต่ก็จะมีความเห็นจากตนเองอีกด้วย โดยจะนัดหมายรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเป็นรายกระทรวงทุกสัปดาห์ แต่สลับกระทรวงกันไป และได้ให้กำหนดเวลาเรียบร้อยแล้ว เพราะบางครั้งรัฐมนตรีหรือตนเองอาจจะอยากปรึกษากัน อยากให้การทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด ไม่อยากให้เกิดภาวะที่ไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของงานที่ได้มอบหมาย ซึ่งครม.ทุกรายก็มีความตั้งใจที่จะทำทุกนโยบายอยู่แล้ว ฉะนั้นคิดว่าน่าจะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการทำงานได้เร็วขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า  นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภามีอะไรที่แตกต่างจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายกฯพอจะเปิดเผยได้หรือไม่ และเข้าใจความมุ่งมั่นของนายกฯและครม.ในชุดนี้ แต่ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบันสู้ด้วยนิติสงคราม นายกฯจะสู้รบอย่างไร เพื่อให้การทำงานของรัฐบาลบรรลุวัตถุประสงค์ครบ 3 ปี

นางสาวแพทองธาร  กล่าวว่า  อย่างแรกเลยจริงๆแล้วทุกๆคนมีความตั้งใจอยู่แล้วในเรื่องของกฎหมายต่างๆ และมีทีมกฎหมายอย่างแน่นอน แต่ทั้งครม. มีทั้งผู้มีประสบการณ์และมีทั้งรัฐมนตรีใหม่เช่นกัน ฉะนั้นจึงปรึกษากันและกันด้วย เพราะด้วยประสบการณ์เหล่านี้ต้องช่วยกันตีความหมายของกฎหมายในบางเรื่องด้วย บางทีบางเรื่องไม่ได้ตอบได้ว่าขาวหรือดำ แต่แน่นอนต้องมีความตั้งใจและดูทุกอย่างปรึกษาทุกหน่วยงานให้รอบคอบรัดกุม

“อยากจะขอความร่วมมือเลย เราเองอยากทำงานให้ครบ 3 ปีเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการทำงาน ซึ่งอย่างตอนนี้ที่ได้เปลี่ยนนายกฯและ ครม.เราก็พยายามจะตอกย้ำและยืนยันว่าตั้งแต่ของนายกฯเศรษฐา ซึ่งเป็นนายกฯจากพรรคเพื่อไทยเช่นกัน ฉะนั้นนโยบายที่เคยปรึกษาพรรคร่วมฯมาแล้วก็ค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม และนโยบายครั้งนี้เราก็ได้ปรึกษาพรรคร่วมฯอีกเช่นกัน ก็เป็นนโยบายที่ต่อเนื่องจากนายกฯเศรษฐา และเป็นความเห็นของพรรคร่วมฯและครม.ทุกท่านว่ามีตรงไหนไหมที่จะปรับแก้อย่างไรบ้างให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปรับแก้ต่างๆจะทำให้เราสามารถดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่”

นอกจากนี้นโยบายที่จะนำมาแถลงเป็นนโยบายที่ใช้ตั้งแต่ตอนหาเสียง และได้ตกลงกับพรรคร่วมฯจนมาถึงอันนี้ ซึ่งบอกเบื้องต้นได้เลยว่านโยบายค่อนข้างเหมือนเดิม มีการปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำนโยบายได้สำเร็จ

ผู้สื่อข่าวว่า  ท่านนายกฯไม่ได้กังวลกับคิวกฐินที่รออยู่ข้างหน้าอย่างมากมายใช่หรือไม่

นางสาวแพทองธาร ถามกลับว่าคิวกฐินเลยหรอ อันนี้คำเปรียบเทียบใช่ไหม

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหมายถึงมีนักร้องที่จะร้องในหลายๆคดีตามมา

น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า แค่สื่อมวลชนถามก็สงสารแล้ว ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้มีคดีก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และจริงๆไม่อยากมีคดี ลูกยังเล็กอยู่เลย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อก้าวมาในนามสกุลชินวัตร นายกฯปฏิเสธไม่ได้ด้วยความเป็นพ่อลูกกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้มองว่าระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว และมีการปรามาสว่ายังไงนายกฯหนีไม่พ้นเงานายทักษิณ ตรงนี้จะให้ความมั่นใจหรือความเชื่อมั่นว่าจะลบคำปรามาสตรงนี้อย่างไร

น.ส.แพทองธาร  กล่าวว่า จะไม่ขอตอบเรื่องท่านทักษิณแล้ว เพราะว่าเราต้องเดินไปข้างหน้า วิสัยทัศน์ที่ดีไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไหร่ก็ตามวิสัยทัศน์ที่ดีคือสิ่งที่ดี ฉะนั้นขอตอบแค่นี้แล้วกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่บอกจะเริ่มทำทันทีโดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท ก.ย.นี้เห็นได้ทันทีหรือไม่

น.ส.แพทองธาร   กล่าวว่า ในเรื่องของไทม์ไลน์ต้องขออนุญาตให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง พูดในรายละเอียด แต่แน่นอนการกระตุ้นเศรษฐกิจเกิดขึ้นทันทีแน่นอน เพราะเป็นข้อแรกที่ต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป

เมื่อวานนี้ (6 กันยายน 2567) เวลา 15.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ได้เดินทางมายังตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายภาพเดี่ยวในเครื่องแบบปกติขาว ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ออกเดินทางจากทำเนียบรัฐบาลโดยรถตู้ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดเตรียมไว้ ไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน  พระราชวังดุสิต เพื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในเวลาประมาณ 18.15 น.