เป๊ปซี่โค ต่อยอดโครงการ Greenhouse Accelerator ในเอเชียแปซิฟิก หนุนสตาร์ทอัปขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 บริษัทเป๊ปซี่โค (PepsiCo) ประกาศรายชื่อสตาร์ทอัปที่เข้ารอบสุดท้าย 10 ราย ภายใต้โครงการ Greenhouse Accelerator ปี 2567 ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืน
โดยในปีนี้มีผู้เข้ารอบจากประเทศออสเตรเลีย จีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมถึงสตาร์ทอัปจากไทย 2 ราย คือ CIRAC ที่นำเสนอเทคโนโลยียุคใหม่ที่จะช่วยในการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกเคลือบอะลูมิเนียมที่รีไซเคิลยากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ให้กลายเป็นอะลูมิเนียมและน้ำมันชนิดหนักที่ยั่งยืน
ส่วนอีกรายที่เข้ารอบคือ ALLEV เป็นบริษัทที่พลิกโฉมการคมนาคมในประเทศไทย มีเป้าหมายในการช่วยให้ธุรกิจในไทยบรรลุความยั่งยืนและประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยโมเดลบริการแบบสมัครสมาชิกรูปแบบใหม่สำหรับการดัดแปลงรถยนต์เก่าให้เป็นระบบไฟฟ้า ช่วยยืดอายุยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีอยู่เดิมให้ยาวนานยิ่งขึ้น
สำหรับการคัดเลือกผู้เข้ารอบสุดท้ายแต่ละราย คณะกรรมการที่ล้วนเป็นผู้บริหารของเป๊ปซี่โคได้พิจารณาจากแนวทางที่แปลกใหม่การจัดการกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ซึ่งเป็นเกณฑ์หลักภายใต้เป้าหมาย pep+ (PepsiCo Positive) ของเป๊ปซี่โค
โดยในปี 2567 เป๊ปซี่โคได้ขยายโครงการ Greenhouse Accelerator ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้ครอบคลุมหัวข้อใหม่ที่สำคัญอย่างเรื่อง “เกษตรกรรมยั่งยืน” นอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจหมนุเวียนและโซลูชันการรับมือด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสตาร์ทอัปแต่ละรายล้วนมีแนวทางที่ทันสมัยในด้านการทำสวนทำไร่อย่างยั่งยืน
นายเหวิน หยวน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์เป๊ปซี่โค เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า โครงการ Greenhouse Accelerator เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายความยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเป๊ปซี่โค โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความร่วมมือกับสตาร์ทอัปเพื่อแก้ปัญหาดังต่อไปนี้
1.ลดการใช้พลาสติกใหม่จากแหล่งที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเป๊ปซี่โคในการลดใช้พลาสติกใหม่ต่อหนึ่งหน่วยบริโภคลง 50% ภายในปี 2573
2.มองหาผู้ที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถร่วมมือกับเป๊ปซี่โค โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% ภายในปี 2573
3.ภายในปี 2568 บรรจุภัณฑ์ของเป๊ปซี่โค 100% จะต้องสามารถรีไซเคิลได้ ย่อยสลายได้ ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยบริษัทยินดีจะลงทุนเพื่อเพิ่มอัตราการรีไซเคิลในตลาดสำคัญๆ และทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปสำหรับโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ต่อไป
นอกจากนี้ เป๊ปซี่โคยังได้ขยายขอบเขตของโครงการให้ครอบคลุมยยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกกับพันธมิตรใหม่ซึ่งเป็นผู้บรรจุขวดอย่างซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ซึ่งมีความตั้งใจในการขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของตนเองในทุกส่วน
“เราได้ดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน ซึ่งวิสัยทัศน์ดังกล่าวจะต้องมีนวัตกรรมแบบเปิดที่ดึงกลุ่มคนที่มีความสามารถต่างๆ เข้ามาร่วมกันทำงาน โครงการ Greenhouse Accelerator ช่วยให้เราสามารถทำงานร่วมกับสตาร์ทอัปที่มุ่งมั่นจะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ได้โดยตรงด้วยโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์”
“นี่เป็นความร่วมมือกันแบบ win-win ที่เราสนับสนุนผู้ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่อเร่งการพัฒนา ขณะเดียวกันเราก็ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าที่สามารถต่อยอดงานด้านความยั่งยืนของเราให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง” นายเหวิน หยวน ตัน กล่าว
นายเหวิน หยวน ตัน กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เป๊บซี่โคได้ประกาศกลยุทธ์ PepsiCo Positive หรือ pep+ เป็นกรอบการทำงานในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านการขับเคลื่อน 3 เสาหลัก คือ การเกษตรเชิงบวก ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก และทางเลือกเชิงบวก
โดยการทำเกษตรกรรมเชิงบวก ได้ทำงานร่วมกับเกษตรกรในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบปฏิรูป และปรับปรุงความเป็นอยู่ของเกษตรกรภายในห่วงโซ่อุปทานของเป๊บซี่โค
ส่วนการจัดการห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก คือการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ซึ่งปัจจุบันก้าวหน้าอย่างมากจากโครงการต่างๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ rPET (ขวดเครื่องดื่มจากพลาสติกรีไซเคิล) สำหรับตลาดใน 6 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน และเมียนมาร์ โดยได้พัฒนาและใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนกว่า 97% ในโรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงการริเริ่มนำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่งสินค้าในประเทศจีนและไทย
ขณะที่ทางเลือกในเชิงบวก ได้มุ่งมั่นที่จะลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารหลัก 15-30% ภายในปี 2573 เพื่อให้มั่นใจได้ว่า 75% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสะดวกซื้อทั่วโลกของเป๊บซี่โคจะตอบรับกับเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น การลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม ยกตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มในกลุ่มเป๊ปซี่แบล็ค (Pepsi Black) ที่ปราศจากน้ำตาล วางเป้าหมายภายในปี 2568 ว่าสองในสามของเครื่องดื่มของเป๊ปซี่โคจะมี 100 แคลอรี่ หรือน้อยกว่านั้นจากน้ำตาลที่เติมในเครื่องดื่ม รวมถึงการแนะนำเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ เช่น เกเตอเรดซีโร่ (Gatorade Zero) ที่ให้พลังงานแบบเดียวกับสูตรดั้งเดิมแต่ไม่มีน้ำตาล ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักกีฬาและคนที่กำลังมองหาตัวเลือกเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ เป็นต้น
นายอลัน ชอย รองประธานอาวุโสและผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงินเป๊ปซี่โค เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า โครงการ Greenhouse Accelerator ในเอเชียแปซิฟิก เป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาสตาร์ทอัปผ่านการให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้ การให้คำปรึกษาอยู่ในช่วงระยะเวลา 4 เดือน พร้อมเงินสนับสนุนจำนวน 20,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 7 แสนบาท เพื่อเป็นทุนในการยกเครื่องโมเดลธุรกิจ เสริมสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด และเพิ่มศักยภาพ
“โครงการ Greenhouse Accelerator เดินทางเข้าสู่ปีที่ 8 เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ก้าวหน้าและยั่งยืน โดยเปิดตัวในเอเชียแปซิฟิกเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว หลังจากเปิดตัวในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในปี 2564, อเมริกาเหนือในปี 2562, และยุโรปในปี 2560”
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ได้เห็นสตาร์ทอัปเกิดใหม่จากโครงการนี้กว่า 86 แบรนด์ มีการเติบโตของยอดขายรวมกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 700 ล้านบาท
“การร่วมมือและนวัตกรรมถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ การรักษาการเติบโตของโซลูชันใหม่และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเป๊ปซี่โค เนื่องจากมีความสำคัญต่อธุรกิจและเราทุกคน” นายอลัน ชอย กล่าว