ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > UBE ผนึกภาครัฐเพิ่มผลผลิตต้นแบบ 7 ตันต่อไร่มันสำปะหลังอินทรีย์

UBE ผนึกภาครัฐเพิ่มผลผลิตต้นแบบ 7 ตันต่อไร่มันสำปะหลังอินทรีย์

15 มีนาคม 2024


ข่าวประชาสัมพันธ์

UBE ผนึกภาครัฐเพิ่มผลผลิตต้นแบบ 7 ตันต่อไร่มันสำปะหลังอินทรีย์ ยั่งยืนในหลักตลาดนำการผลิต ต่อยอดอุบลโมเดล ขยายพื้นที่สู่ ‘อีสานตอนล่าง 2 โมเดลพลัสนวัตกรรม’

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE นำโดย น.ส.สุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ น.ส.กัณฑ์พร กรรณสูต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายความยั่งยืนองค์กร และรัฐกิจสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร และคณะส่วนราชการในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ได้แก่ จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และ จ.ศรีสะเกษ ร่วมสรุปผลงานวิจัยการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนการผลิตมันสำปะหลังอินทรีย์ด้วยการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน พร้อมกับหน่วยงานวิจัยนำโดย นางสาววิราภรณ์ มงคลไชยสิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เข้าตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรกรต้นแบบนายรังสรรค์ อยู่สุข ตำบลนาคาย อ.ตาลสุม พร้อมเยี่ยมชมการดำเนินกิจการธุรกิจเอทานอล และธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ณ สำนักงานใหญ่ UBE จ.อุบลราชธานี

ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูกช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา UBE ได้ร่วมวิจัยหัวข้อการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และการใช้ปัจจัยการผลิตให้เหมาะสม สำหรับมันสำปะหลังอินทรีย์ ภายใต้ทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. พร้อมแสดงผลวิจัยภายในงาน “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field Day) ประจำ ปี 2567” ตามโครงการ “การถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมันสำปะหลังในระบบอินทรีย์ด้วยกลไกตลาดนำการผลิต” ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือของ UBE กับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สกว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่ สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 อุบลราชธานี กรมวิชาการเกษตร ซึ่งได้เกษตรกรใน 3 พื้นที่อาสาร่วมเป็นแปลงต้นแบบวิจัยทั้งหมด 36 แปลง นำร่องในพื้นที่ได้แก่ จ.อุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ และ จ.ยโสธร

โดยผลการศึกษาพบว่า แปลงของเกษตรกรต้นแบบ ที่ได้ดำเนินการตรวจวิเคราะห์ดินก่อนการเพาะปลูก และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ตามค่าวิเคราะห์ดิน ในพื้นที่ 1 ไร่ มีน้ำหนักต่อต้นเฉลี่ยจากเดิม 2.2 กิโลกรัม/ต้น เพิ่มขึ้นเป็น 3.84 กิโลกรัม/ต้น คิดเป็นร้อยละ 74.55 มีจำนวนหัวต่อต้นเฉลี่ยจากเดิม 13.2 หัว/ต้น เพิ่มขึ้นเป็น 15 หัว/ต้น คิดเป็นร้อยละ 13.64 ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ยจากเดิม 4.6 ตัน/ไร่ เพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ตัน/ไร่ คิดเป็นร้อยละ56.52 และมีเปอร์เซ็นต์แป้งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 26 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 27

การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน และการใช้ปัจจัยการผลิตให้เหมาะสม สำหรับมันสำปะหลังอินทรีย์ โดยนำปัจจัยการผลิตที่ได้มาจากกากเอทานอลที่ได้รับการย่อยหลังการหมักยีสต์ในแอลกอฮอล์ มาปรับปรุงด้วยจุลินทรีย์ หมักทิ้งไว้ในช่วงเวลาที่ถูกต้องคือ 90 วันตามหลักมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล จนเกษตรกรเรียกติดปากว่า “สารปรับปรุงดินไบโอฮับ” (BioHub) ที่บริษัทฯ ได้ขอการรับรองมาตรฐาน IFAOM ซึ่งกระบวนการนี้คือเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อให้เกิดมูลค่าทางการเกษตร พร้อมกันนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาสูตรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในระยะถัดไป ปัจจุบัน UBE มีเกษตรกรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอินทรีย์ระดับสากล จำนวนประมาณ 800 ราย พื้นที่รวมประมาณ 10,000 ไร่ พร้อมตั้งเป้าหมายขยายพื้นที่การรับรองมาตรฐานมันสำปะหลังอินทรีย์ในระดับสากลให้ได้ 50,000 ไร่ ในปี 2568 โดย UBE ยังมุ่งเป้ายกระดับการส่งเสริมการปลูกมันสำปะหลังผ่านการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในการพัฒนาด้านการเกษตรให้สามารถเป็นวัตถุดิบที่ปลอดภัยให้กับลูกค้า และยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรไปพร้อมๆ กัน

อนึ่ง การยกระดับศักยภาพและคุณภาพชีวิตเกษตรกรมันสำปะหลังถือเป็นเจตนารมณ์ที่ UBE มุ่งมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขยายผลความสำเร็จของโครงการอุบลโมเดลพลัส ที่สามารถวางรากฐานที่แข็งแกร่ง และสร้างเกษตรกรต้นแบบมันสำปะหลังอินทรีย์ในจังหวัดอุบลราชธานีได้ตามเป้าหมาย สู่ “โครงการอีสานล่าง 2 โมเดลพลัสนวัตกรรม” ครอบคลุมพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และ จ.ศรีสะเกษ ผ่านการผสานความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับ สวทช. และสวพ.4 กรมวิชาการเกษตร อาทิ การผลิตท่อนพันธุ์สะอาด การใช้สารชีวภัณฑ์ การใช้ชุดตรวจโรคใบด่าง รวมถึงหน่วยงานราชการอื่นๆ ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นคงทางวัตถุดิบ ควบคู่กับการถ่ายทอดความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรีย์ และการทำเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยการประกันราคามันสำปะหลังอินทรีย์ที่สูงกว่าราคามันสำปะหลังทั่วไป พร้อมส่งเสริมปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยี ได้แก่ เครื่องกำจัดวัชพืช สารชีวภัณฑ์แช่ท่อนพันธุ์ PGPR3 เพื่อสร้างเกษตรกรต้นแบบที่สามารถนำแนวคิดเทคโนโลยี นวัตกรรมขยายผลสู่เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังอินทรีย์รายอื่นๆ เพื่อให้บริษัทฯ มีวัตถุดิบสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ตามเทรนด์สุขภาพของโลก และรักษาสิ่งแวดล้อม ภายใต้แบรนด์ทาสุโกะ (Tasuko) สอดคล้องนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครบทุกมิติสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาล เพื่อสร้างการเติบโตที่กว้างไกลกว่าสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ทางพลังงาน และอาหารแห่งอนาคต

เกี่ยวกับ UBE
บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE เป็นผู้ผลิตและแปรรูปมันสำปะหลังแบบครบวงจร (Well-integrated Tapioca Player) รายใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด UBEYOND SD>>>ESG ดำเนินธุรกิจแบบก้าวกระโดด สร้างการเติบโตที่กว้างไกลกว่า และยั่งยืนกว่าในทุกมิติ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจเอทานอล ดำเนินการโดย UBE 2) ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ประกอบด้วย แป้งมันสำปะหลัง (Tapioca Starch) และฟลาวมันสำปะหลัง (Cassava Flour) ทั้งแบบทั่วไปและแบบออร์แกนิค ดำเนินการโดย บริษัท อุบลซันฟลาวเวอร์ จำกัด (UBS) บริษัทในเครือ ซึ่งถือเป็น 3) ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ด้วยการผลิตและจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรชนิดอื่นที่มีมูลค่าสูง (High Value Product หรือ HVP) เช่น กาแฟ (Coffee) และ ผลิตภัณฑ์จากผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต เป็นต้น ดำเนินการโดย บริษัท อุบลไบโอเกษตร จำกัด (UBA) UBE มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่บริษัท Food Tech ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดกระบวนการปลูกไปจนถึงมือผู้บริโภค รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ UBE เยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.ubonbioethanol.com/ และ Facebook page : UBE Group