ThaiPublica > เกาะกระแส > ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่ง “สนพ.-กกพ.-กฟผ.” แจงค่าไฟแพง พร้อมส่งสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชนย้อนหลัง 10 ปี

ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่ง “สนพ.-กกพ.-กฟผ.” แจงค่าไฟแพง พร้อมส่งสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชนย้อนหลัง 10 ปี

12 กรกฎาคม 2023


นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย

ศาลอาญาคดีทุจริตฯมีคำสั่งให้ “สนพ.- กกพ.-กฟผ.” แจงค่าไฟแพง 11 ข้อ พร้อมจัดส่งสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชนย้อนหลัง 10 ปี ให้ศาลพิจารณาภายใน 30 วัน – นัดฟังคำสั่ง-คำพิพากษา 12 ก.ย. 2566 เวลา 09.30 น.

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 เวลา 9.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 65/2566 ระหว่างนายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ พรรคไทยสร้างไทย เป็นโจทก์ ฟ้องนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานกับพวกรวม 4 คน เป็นจำเลย ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือ ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกี่ยวกับกรณีค่าไฟแพง

ภายหลังจากที่ศาลได้ตรวจคำฟ้อง และเอกสารท้ายฟ้องฉบับใหม่ของโจทก์ ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2566 แล้ว เห็นว่า เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วน ศาลจึงสั่งให้มีหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน , สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

    1. การจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 (PDP2018) มีกระบวนการและขั้นตอนอย่างไร มีองค์กร หน่วยงาน หรือ ใครเป็นผู้เกี่ยวข้องในแต่ละขั้นตอน และมีมติที่ประชุมอย่างไรบ้างในแต่ละขั้นตอน และให้จัดส่งแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) รายงานการประชุม และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง

    2. แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 (PDP2018) มีการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าไว้สูง และเพิ่มเป้าหมายสัดส่วนกำลังผลิตส่วนเกินไว้สูง และเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะเหตุใด

    3. หน่วยงานของท่านมีการทบทวนแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) บ้างหรือไม่ มีวาระการทบทวนทุกปีหรือไม่ หรือ กี่ปีต่อครั้ง และมีการทบทวนแผน PDP ทันตามกำหนดเวลาหรือไม่ เพราะเหตุใด ตามมติ กฎ ระเบียบใด

    4. หน่วยงานของท่านพบว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็นหรือไม่ หากพบว่ามีกำลังผลิตไฟฟ้าเกินความจำเป็น พบเมื่อใด และหน่วยงานของท่านได้ดำเนินการอย่างไร

    5. เหตุใดจึงต้องมีการอนุมัติให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าหินกอง (IPP) 1,400 MW และมีการอนุมัติขณะปริมาณไฟฟ้าสำรองที่มีอยู่มีปริมาณเกินความต้องการหรือไม่ และเหตุผลใดจึงไม่มีการเปิดประมูล อาศัยอำนาจตามกฎหมาย มติ กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด และให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชนโรงไฟฟ้าหินกอง

    6. ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณการใช้ไฟฟ้าเท่าใด และมีกำลังไฟฟ้าเท่าใด เกินความต้องการของประชาชนหรือไม่ อย่างไร ในแต่ละปีโรงไฟฟ้าแต่ละโรงผลิตปริมาณไฟฟ้าได้จำนวนเท่าใด และมีโรงไฟฟ้าที่ไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า แต่ได้รับค่าตอบแทนตามสัญญาหรือไม่ ถ้าหากมี มีจำนวนกี่โรงและแต่ละโรงได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวนเท่าใดต่อปี รวมเป็นเงินที่ต้องจ่าย ค่าตอบแทนตามสัญญาทั้งหมดเท่าใด ให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชน

    7. ปริมาณไฟฟ้าที่จัดซื้อ ปริมาณไฟฟ้าที่ส่งมอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในแต่ละสัญญาจ้าง เงินค่าจ้าง และการชำระเงินค่าจ้าง หรือ แผนการใช้ไฟฟ้า หรือ การสำรองการใช้ไฟฟ้า หรือ จัดซื้อไฟฟ้าในอนาคต ให้จัดส่งสัญญาจัดซื้อไฟฟ้าจากเอกชนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

    8. มีวิธีและหลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้แก่เอกชนที่ผลิตไฟฟ้าอย่างไร ใช้เงินจากงบส่วนใด ให้ส่งข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี มาประกอบการพิจารณา

    9. เหตุใดต้องจ้างเอกชนผลิตไฟฟ้ามีสัดส่วนมากกว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเหตุใด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไม่ผลิตไฟฟ้าเอง

    10. มีวิธีการคิดคำนวณค่าไฟฟ้าและค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) อย่างไร วิธีคิดคำนวณ ถูกต้องและสอดคล้องกับหลักวิชาการและสากลหรือไม่ อย่างไร อ้างอิงจากอะไร หน่วยงานใดเป็น ผู้รับผิดชอบในการคิดคำนวณ และต้องมีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนหรือไม่

    11. ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายให้แก่โรงไฟฟ้าเอกชนในกรณีที่ไม่ต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า ตามข้อ 6. ถูกนำมารวมเป็นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) หรือไม่ อย่างไร

ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งให้จัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

เมื่อหน่วยงานข้างต้นมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมายังศาลแล้ว ให้โจทก์ตรวจสอบเอกสารดังกล่าว หากประสงค์จะคัดค้านให้ยื่นคำร้องขอคัดค้านภายใน 15 วัน นับแต่วันที่หน่วยงานจัดส่งหนังสือมายังศาล หากไม่ยื่นถือว่าไม่ติดใจ

ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในวันที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 09.30 น. ตามที่มีวันว่างตรงกัน