ThaiPublica > เกาะกระแส > Robo Advisor โอกาสที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการเงินโลก

Robo Advisor โอกาสที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการเงินโลก

9 มิถุนายน 2017


EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ “Robo Advisor โอกาสที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงของภาคสถาบันการเงิน” โดยมองว่า Robo Advisor คือเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ที่ให้บริการแนะนำการลงทุนแบบออนไลน์แก่นักลงทุนทั่วไป การแนะนำการลงทุนเป็นบริการในหมวดบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) ซึ่งรวมการจัดการการลงทุน (investment management) ที่ปรึกษาทางการเงิน (financial advisor) และการวางแผนทางการเงิน (financial planning) เข้าไว้ด้วยกัน โดยที่ผ่านมาเน้นให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals) ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าถึงบริการเหล่านี้ไม่ง่ายนัก ผู้ประกอบการ startup จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินที่ให้คำแนะนำด้านการลงทุนส่วนบุคคลทั่วไปขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า Robo Advisor ซึ่งประกอบด้วยอัลกอริทึม (algorithm) การจัดการข้อมูลจำนวนมาก (Big Data management) และสมองกล (Artificial Intelligence) มาใช้ร่วมกับการให้คำปรึกษาด้านการเงิน (financial advisory) เพื่อวางแผนการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินประเภทต่างๆ

ด้วยบริการที่เข้าถึงคนส่วนใหญ่และมีความหลากหลาย ทำให้ Robo Advisor กลายเป็น FinTech อันดับหนึ่งที่น่าจับตามองของภาคอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก Robo Advisor ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทดแทนการให้คำปรึกษาด้านการออมและการลงทุนแบบตัวต่อตัว (face to face advisory) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนในการให้บริการการแนะนำด้านการลงทุนและบริหารความมั่งคั่งแก่บุคคลทั่วไป โดยแผนการลงทุนที่ได้รับจากการใช้บริการนี้ขึ้นอยู่กับ

    1) เป้าหมายการลงทุนของผู้ใช้งานแต่ละคน เช่น การวางแผนการลงทุนเพื่อเกษียณอายุ หรือ การลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง

    2) ระดับความเสี่ยงที่รับได้ของผู้ใช้งานแต่ละคน

นอกจากนี้ ยังสามารถปรับสมดุลพอร์ตลงทุนอัตโนมัติเพื่อป้องกันความเสี่ยง และมีบริการเสริมอื่นๆ ที่เริ่มครบวงจรมากขึ้น เช่น ผู้ให้บริการในสหรัฐฯ มีบริการลดหย่อนภาษีเงินได้จากการลงทุน (tax loss harvesting)1 การซื้อ-ขายเศษหุ้น (fraction shares)2 รวมถึงการให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพื่อนำไปลงทุนต่อ (margin loans) เป็นต้น (รูปที่ 1) รวมทั้งผู้ให้บริการอย่าง Betterment และ Charles Schwab IP ยังมีบริการเสริมแบบพรีเมียม เช่น การเข้าถึงที่ปรึกษาทางการเงินส่วนตัว เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม High Net Worth Individuals ที่ต้องการใช้บริการด้วย Robo Advisor

จุดเด่นที่ทำให้ Robo Advisor เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ มี 3 ข้อหลัก ดังนี้

1) ใช้เงินลงทุนแรกเริ่มน้อยกว่าในอดีต สิ่งหนึ่งที่ทำให้บุคคลทั่วไปไม่สามารถใช้บริการแนะนำการลงทุนได้ คือ การกำหนดประเภทลูกค้าจากวงเงินขั้นต่ำ ที่พบว่าโดยเฉลี่ยคือตั้งแต่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไป ขณะที่ผู้ให้บริการด้าน Robo Advisor เช่น Betterment หรือ Acorn ไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำสำหรับการเริ่มใช้บริการ

2) ค่าธรรมเนียมการให้บริการรายปีถูกกว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 0-0.5% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (Asset Under Management) ขณะที่บริการแนะนำการลงทุนปกติอยู่ที่ 1-3% ของมูลค่าสินทรัพย์ฯ และอาจมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม (รูปที่ 1)

และ 3) สามารถแนะนำพอร์ตลงทุนที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ทำผ่านทางออนไลน์ได้ทั้งหมดด้วยตนเอง(รูปที่ 2)

นอกเหนือจากนี้ ผู้ให้บริการหลายราย เช่น Wealthfront และ Assetbuilder ยังระบุสัดส่วนหน่วยลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่างๆ ได้อย่างละเอียดอีกด้วย (รูปที่ 3) ทำให้การลงทุนผ่าน Robo Advisor เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น

ทั้งนี้สถาบันการเงินรายใหญ่ของโลกยังคงเป็นเจ้าตลาดในธุรกิจแนะนำการลงทุนและบริหารความมั่งคั่ง แม้ผู้ประกอบการ startup ด้าน Robo Advisor มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง Business Insider Intelligence หน่วยงานวิจัยด้านธุรกิจ คาดการณ์ว่ามูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของธุรกิจ Robo Advisor ทั่วโลกจะอยู่ที่ราว 8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2020 หรือกว่า 8% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการของสถาบันการเงินทั่วโลก (รูปที่ 4) สะท้อนถึงแนวโน้มของเทคโนโลยี Robo Advisor ที่เข้ามามีบทบาทกับภาคสถาบันการเงินในอนาคต

อนึ่ง ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 พบว่าผู้นำธุรกิจด้าน Robo Advisor 2 อันดับแรกจาก 10 อันดับ เป็นของสถาบันการเงินด้านธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อย่าง Vanguard PA และ Charles Schwab IP ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกันกว่า 74% ของทั้งหมด (รูปที่ 5) แสดงถึงข้อได้เปรียบเรื่องเงินทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ฐานลูกค้าเดิม ความน่าเชื่อถือของบริษัท ตลอดจนความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทางการเงินของสถาบันการเงินขนาดใหญ่

ปัจจุบัน Robo Advisor อยู่ในขั้นการพัฒนา แต่สามารถเพิ่มคุณภาพบริการหากนำมาใช้ร่วมกับผู้ที่ทำงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง Robo Advisor สามารถช่วยจัดการข้อมูลจำนวนมาก ตลอดจนประมวลผลข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันเพื่อเฟ้นหาสินทรัพย์ทางการเงินที่เหมาะสมและให้ผลตอบแทนดี ทว่า ระดับการพัฒนาของเทคโนโลยีด้าน Robo Advisor ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำงานอย่างเป็นอิสระจากมนุษย์ได้ เช่น การซื้อ-ขายสินทรัพย์ทางการเงินที่ยังต้องทำผ่านนายหน้าซื้อ-ขาย หรือการประเมินผลการดำเนินงานของระบบโดยผู้จัดการกองทุน (รูปที่ 7) รวมไปถึงการวิเคราะห์และให้คำแนะนำการลงทุนภายใต้เงื่อนไขของผู้ใช้งานที่มีความซับซ้อน เช่น สถานภาพ ความมั่นคงในหน้าที่การงาน หรือความมั่นคงทางการเงิน อีกทั้งข้อจำกัดด้านการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่ต้องใช้จิตวิทยาและความละเอียดอ่อนด้านการสื่อสาร

ดังนั้น การนำ Robo Advisor มาใช้ร่วมกับที่ปรึกษาการลงทุน ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งและธุรกิจแนะนำการลงทุน จึงสามารถเสริมศักยภาพการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น

นักลงทุนทั่วไปในไทยมีความสนใจที่จะลงทุนด้วย Robo Advisor นักลงทุนทั่วไปมีแนวโน้มใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการซื้อ-ขายหลักทรัพย์ออนไลน์ที่มีการขยายตัวต่อเนื่องราว 30% จากในอดีต (รูปที่ 6) ทั้งนี้ ผลสำรวจจาก Accenture บริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการ พบว่า กว่า 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยที่ใช้บริการธนาคารดิจิทัล มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยี Robo Advisor เพื่อจัดการการลงทุนส่วนบุคคล แต่เทคโนโลยีดังกล่าวยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายนัก อีกทั้งบริการที่มีในประเทศยังคงจำกัดเพียงเฉพาะกลุ่มลูกค้า High Net Worth Individuals เท่านั้น

ผู้ที่จะให้บริการด้าน Robo Advisor ในไทยต้องผ่านการทดสอบความปลอดภัยด้านนวัตกรรมสนับสนุนบริการทางการเงิน (Regulatory Sandbox) ก่อนเริ่มใช้จริง ผู้ประกอบการทั้งสถาบันการเงินและ startup ด้าน FinTech ที่จดทะเบียนในไทยต้องเข้าร่วมการทดสอบความปลอดภัยด้านนวัตกรรมสนับสนุนบริการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เริ่มขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2017 เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งไม่เพียงเป็นการส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน และศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ภาคสถาบันการเงินในประเทศ แต่ยังคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้ทำความเข้าใจในบริการด้านเทคโนโลยีทางการเงินต่างๆ รวมถึง Robo Advisor ก่อนเริ่มใช้งานจริง

อีไอซีมอง Robo Advisor เป็นโอกาสเสริมคุณภาพบริการแนะนำการลงทุนของสถาบันการเงิน โดยมองการสร้างความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นทางเลือกหนึ่งของสถาบันการเงินในการรักษาหรือขยายส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจแนะนำการลงทุน เนื่องจากสถาบันการเงินมีความพร้อมด้านเงินลงทุนแต่มีแนวโน้มขาดความคล่องตัวและความชำนาญในการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้นมาใช้เอง ทั้งนี้ ในปัจจุบัน แม้ Robo Advisor จะมีศักยภาพด้านการวิเคราะห์ด้วยตรรกะที่ดี แต่ยังต้องพัฒนาเรื่องความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวผู้ใช้งาน รวมถึงความยืดหยุ่นในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ ดังนั้น การนำมาใช้ร่วมกับผู้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนและบริการที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นโอกาสต่อยอดคุณภาพการให้บริการดังกล่าว