AOT ไฟเขียว ‘คิง เพาเวอร์’ ยืดจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนงวดละ 8 เดือน – วางประกันเพิ่ม 1,450 ล้าน

AOT ไฟเขียว ‘คิง เพาเวอร์’ ยืดจ่ายค่าผลประโยชน์ตอบแทนงวดละ 8 เดือน – พร้อมเรียกเก็บดอกเบี้ย 8.84 % – วางหลักประกันเพิ่มอีก 1,450 ล้านบาท  

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ “AOT” ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 ฉบับ ชี้แจงถึงกรณี ทอท.อนุมัติให้บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่องนั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ทำหนังสือถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ขอหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ KPD ยังคงสามารถประกอบกิจการตามสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร จำนวน 3 สัญญา ได้แก่

  1. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
  2. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และ
  3. สัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ต่อไปได้ หรือข้อยุติอื่น ๆ

รวมถึงแนวทางในการพิจารณาหากจะมีการขอยกเลิกสัญญาฯ โดยในระหว่างการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้ข้อยุตินั้น KPD ขอชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนของสัญญา ฯ ดังกล่าว ทั้ง 3 สัญญา เฉพาะอัตราร้อยละ 20 ของยอดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในแต่ละเดือน

ทอท.พิจารณาตามหนังสือของ KPD แล้ว ยืนยันเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนตามเงื่อนไขสัญญาที่ KPD มีกับ ทอท. ในระหว่างรอผลการศึกษาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร และหาก KPD มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินของผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์และสายการบิน ณ ท่าอากาศยานของ ทอท. ทั้ง 6 แห่ง ที่ขาดสภาพคล่อง (โครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ) ให้ KPD พิจารณาดำเนินการตามหลักเกณฑ์ของโครงการดังกล่าวต่อไป”

ต่อมา KPD ได้ทำหนังสือลงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ขอเข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ  ทาง ทอท.จึงนำเรื่องดังกล่าวเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 9/2568 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 โดยที่ประชุมมีมติรับทราบตามมติของคณะกรรมการพิจารณารายได้ของ ทอท. ครั้งที่ 11/2568 เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ซึ่งอนุมัติให้ KPD เข้าร่วมโครงการขยายระยะเวลาชำระเงินฯ ทั้ง 3 สัญญาข้างต้น โดยให้ KPD สามารถแบ่งชำระส่วนต่างดังกล่าว และเลื่อนกำหนดชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำเพียงบางส่วนออกไปอีกงวดละ 8 เดือน สำหรับงวดดังต่อไปนี้

  1. เดือนมิถุนายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ทสภ. (ยกเว้นเฉพาะงวดเดือนมิถุนายน 2568 ให้เลื่อนออกไป 6 เดือน)
  2. เดือนกันยายน – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ทดม.
  3. เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2568 สำหรับสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้า ปลอดอากร ณ ทภก. ทชม. และ ทหญ.

โดย KPD ต้องชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 8.8440 ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามมาตรการก่อนหน้า (MLR+2) ของค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ค้างชำระในแต่ละงวดให้แก่ ทอท.ทุกเดือน

ในการนี้ จากการตรวจสอบหลักประกันสัญญาที่ KPD มอบไว้ให้กับ ทอท.พบว่ายังครอบคลุม ค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่ KPD ขอเลื่อนชำระรวมกับค่าปรับจากการผิดนัดชำระในอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ซึ่งถือเป็นหลักประกันทางการเงินของคู่สัญญาในกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด รวมทั้งเพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยงเพิ่มเติม ให้กับ ทอท. ทั้งนี้ ทอท.กำหนดให้ KPD ต้องนำหลักประกันมาวางให้กับ ทอท.เพิ่มเติม (จำนวน 1,450 ล้านบาท)  หากเกิดกรณีที่ KPD ชำระ ค่าผลประโยชน์ตอบแทนล่าช้าจากที่กำหนดไว้ในสัญญา ซึ่ง KPD ยืนยันจะชำระเงินตามที่ ทอท.เรียกเก็บตามสัญญาบางส่วน พร้อมชำระดอกเบี้ยในส่วนที่ชำระล่าช้าตามโครงการขยายระยะเวลาการชำระเงินฯ ระหว่างรอผลการศึกษา ของ ทอท.

อ่าน ทอท. แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีอนุมัติขยายเวลาชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน ฉบับที่ 1

อ่าน ทอท. แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ กรณีอนุมัติขยายเวลาชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทน ฉบับที่ 2