ข่าวประชาสัมพันธ์
ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในฐานะผู้ดูแลการเยี่ยมชมวังบางขุนพรหม และมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไท ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ผู้ดูแลการอนุรักษ์และการเยี่ยมชมพระราชวังพญาไท จะร่วมกันจัดกิจกรรมประจำปี เพื่อนำย้อนวันเวลากลับไปสัมผัสความงดงามและประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า
โดยในปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในชื่อตอน “ขัตติยสัมพันธ์ : พระราชวังพญาไท – วังบางขุนพรหม” เพื่อเปิดประสบการณ์ให้ผู้เข้าชมร่วมเดินทางมาสัมผัสความงดงามของ “วัง” ทั้งสอง โดยจะถ่ายทอดข้อมูลของความสัมพันธ์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นจุดเริ่มต้นในการเล่าเรื่อง กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 โดยแบ่งเป็น 2 รอบ ตั้งแต่เวลา 08.30– 11.45 น. และ 13.00 – 16.30 น.
ในรอบเช้ากลุ่มผู้สนใจจะเดินทางไปพบกัน ณ วังบางขุนพรหม ในเวลา 08.30 น. ลงทะเบียนที่ ชั้น 1 ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมี นางวิเรขา สันตะพันธ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายปฎิบัติการ เป็นผู้กล่าวต้อนรับ การชมวังบางขุนพรหมจะเริ่มต้นด้วยการสักการะ “พระนาคปรก” บริเวณโถงเทียบรถด้านหน้าวัง และจะใช้เวลาในการชมความงดงามของวังประมาณ 60 นาที จากนั้นก็เดินทางมุ่งสู่พระราชวังพญาไท ที่ตั้งอยู่บนถนนราชวิถีที่มุ่งสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมี พลโท นายแพทย์ วิโรจน์ อารีย์กุล เหรัญญิกมูลนิธิอนุรักษ์พระราชวังพญาไทฯ กล่าวต้อนรับและนำสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานอยู่ในสนามหน้าพระที่นั่งพิมานจักรี จากนั้น วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ของพระราชวังพญาไทจะพานำชม พระที่นั่งต่างๆ ได้แก่ พระที่นั่งไวกูณฐเทพยสถาน พระที่นั่งพิมานจักรี พระที่นั่งศรีสุทธนิวาส พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ รวมไปถึงพระตำหนักเมขลารูจี อันเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งประทับทรงงานก่อสร้างพระที่นั่งต่างๆจนแล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 11.45 น.
สำหรับในรอบบ่าย เวลา 13.00 น. ผู้สนใจจำนวน 20 ท่าน พบกันและชมวังบางขุนพรหมก่อนจึงเดินทางมาชมพระราชวังพญาไทเป็นการปิดการเดินทางย้อนเวลาร่วมกันด้วยความประทับใจเช่นเดียวกับรอบเช้า ซึ่งในท้ายการเดินทางผู้ร่วมกิจกรรมจะได้ทราบถึงพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพนำแนวทางต่างๆของฝั่งยุโรปเข้ามาใช้ในประเทศไทย และ ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกลได้เตรียมวางแผนให้คนไทยกลุ่มหนึ่งได้รู้จักและถ่ายทอดความรู้เรื่องการปกครองแบบประชาธิปไตยแก่สาธารณชนชาวไทยต่อไป
