ttb analytics คาดปี 2566 ปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์กระทบไทยน้อยลง ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องพึ่งพาเป็นหลัก อนาคตยังคงมีความท้าท้ายจากอุปสงค์ตลาดโลกชะลอตัวและการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics คาดปี 2566 สถานการณ์การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกมีแนวโน้มคลี่คลายลง สอดคล้องกับเศษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและความต้องการในกลุ่มอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคหลักมีแนวโน้มลดลง โดยปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ลดลงเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมของไทยที่ต้องพึ่งพาเป็นชิ้นส่วนหลัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้สามารถดำเนินการผลิตได้ต่อเนื่อง จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ในตลาดโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เซมิคอนดักเตอร์เป็นสารกึ่งตัวนำที่ใช้ทำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่ชิ้นส่วนประกอบขนาดเล็กๆ เช่น ชิปหรือแผงวงจร ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลากหลาย เช่น กลุ่มคอมพิวเตอร์ การสื่อสารคมนาคมเครื่องมือในภาคอุตสาหกรรม ในปี 2564 ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์มีมูลค่าสูงถึง 5.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตกว่า 25% จากปี 2563 หลังจากที่กลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เร่งการผลิตเพื่อตอบสนองต่อการขาดแคลนชิปทั่วโลก ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภคมีความต้องการใช้สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งมีความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเร่งการผลิตแต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ทิศทางตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกชะลอตัวไตรมาส 3 ปี 2565 สะท้อนจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์โลกลดลงเป็นไตรมาสแรกในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาที่ 3% เมื่อเทียบกับปี 2564 อย่างไรก็ตาม กลุ่มชิ้นส่วนในคอมพิวเตอร์มีการใช้เซมิคอนดักเตอร์ในกระบวนการผลิตถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด พบว่าความต้องการในปีนี้ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3 ยอดขายลดลงถึง 19.5% เมื่อเทียบกับปี 2564
นอกจากนี้ ระยะเวลาในการรอสินค้า (lead time)ในการส่งมอบเซมิคอนดักเตอร์เดือนกันยายน ลดลงเหลือ 26.3 สัปดาห์จากระยะเวลาสูงสุดที่ 27.1 สัปดาห์ ในเดือนพฤษภาคมสะท้อนถึงการขาดแคลนชิปที่ลดลง แต่ยังไม่กลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ
ttb analytics คาดการณ์ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ของโลกในปี 2565 และปี 2566 มีแนวโน้มการเติบโตลดลงเหลือ 7% และ 3.5% และเมื่อพิจารณาในรายละเอียดประเภทสินค้าจากการคาดการณ์ของบริษัทวิจัย TrendForce พบว่าปี 2565 การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เครื่องใช้ไฟฟ้ามีแนวโน้มลดลง และในปี 2566 ปัญหาการขาดแคลนในอุตสาหกรรมรถยนต์จะน้อยลง
ในขณะที่บางอุตสาหกรรม เช่น อุปกรณ์สื่อสารเครื่องจักรหุ่นยนต์/ปัญญาประดิษฐ์ เครื่องเกมยุคใหม่ ยังคงขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์บางประเภทอยู่ต่อไป ซึ่งสาเหตุมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีผลักดันให้เกิดอุปสงค์สูงกว่าอุปทานที่มี รวมถึงผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ กีดกันการส่งออกชิปเทคโนโลยีระดับสูงและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตชิปไปยังประเทศจีน เกิดเป็นข้อจำกัดทั้งการผลิตและตลาดมากขึ้นในระยะต่อไป
อุตสาหกรรมปลายน้ำของไทยที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์ ได้แก่ ยานยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าจึงมีทิศทางดีขึ้นจากการมีชิ้นส่วนเพียงพอรองรับการผลิตได้มากขึ้นกว่าในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ขาดแคลนชิปที่มีแนวโน้มลดลงส่งผลดีต่อผู้ผลิตสินค้าในประเทศ สะท้อนจากตัวเลขมูลค่านำเข้าของไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565เติบโตถึง 42% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งมาจากไต้หวันและจีน ประเภทเซมิคอนดักเตอร์ที่ไทยนำเข้ามีทั้งแผงวงจรและอุปกรณ์กึ่งตัวนำอื่นๆ และระยะต่อไปอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยยังจำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ระบบเซนเซอร์ต่างๆ เพื่อรองรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตผู้ประกอบการไทยมีความท้าท้ายในด้านเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตช้าลง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลกตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีสูงจึงมีแนวโน้มตึงตัวต่อไป จากผลกระทบของมาตรการของสหรัฐฯ ในการกีดกันการส่งออกชิปที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน โดยสินค้าปลายน้ำที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงจากประเทศจีนอาจไม่รองรับความต้องการของผู้ประกอบการไทยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แนะภาคการผลิตมีความจำเป็นต้องบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างใกล้ชิด และให้ครอบคลุมความเสี่ยงทั้งด้านการผลิตการตลาดและเทคโนโลยีมากขึ้น