ThaiPublica > ประเด็นร้อน > COVID-19 พลิกโลก > ระบาดรอบ3 กว่า 1 เดือน บุคคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดกว่า 500 ราย

ระบาดรอบ3 กว่า 1 เดือน บุคคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิดกว่า 500 ราย

9 พฤษภาคม 2021


รายงานโดย ปารณีย์ สิงหเสนี นักศึกษาฝึกงาน สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร

ระบาดรอบ3 กว่า 1 เดือน บุคคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อกว่า 500 ราย ชี้เจอความเสี่ยงจากการจากการรักษาผู้ป่วยในรพ.

จากแถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประจำวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานว่า ขณะนี้มีบุคลากรการแพทย์ทั่วประเทศ ติดเชื้อโควิด-19 ในระลอกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2564 จำนวน 512 ราย อายุตั้งแต่ 17 – 66 ปี โดยมีอายุเฉลี่ย 33.37 ปี ซึ่งมีอัตราเพศชายต่อเพศหญิงอยู่ที่ 1 ต่อ 3.10

มีผู้ป่วยที่แสดงอาการ 285 ราย ไม่มีอาการ 181 ราย และไม่ระบุอาการ 46 ราย โดยการติดเชื้อระลอกใหม่ส่วนมากเป็นพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล 34 % แพทย์ 10 % ทันตแพทย์ 5 % และไม่ระบุอีก 27 %

ในส่วนของสถานบริการ ส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยพบในโรงพยาบาลรัฐ 65 % โรงพยาบาลเอกชน 29 % นอกจากนี้พบใน ASQ 2 % คลินิก 2 % ศูนย์ฟื้นฟู/ศูนย์การแพทย์ 1 % อื่น ๆ อีก 1 %

​ทางด้านรายจังหวัด มีบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 57 จังหวัด พบมากที่สุดในกรุงเทพ 137 ราย รองลงมาได้แก่ ตรัง 47 ราย ชลบุรี 34 ราย นครปฐม 25 ราย และขอนแก่น 18 รายตามลำดับ

ปัยจัยเสี่ยงที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อโควิด

  • สัมผัส/ให้การรักษาผู้ป่วยยืนยันขณะทำงานในโรงพยาบาล 202 ราย
  • สัมผัสเพื่อนร่วมงานที่ป่วย 63 ราย
  • สัมผัสจากภายนอกโรงพยาบาล 106 ราย
  • อยู่ระหว่างสอบสวนโรค/ไม่ระบุ 141 ราย

​“การติดเชื้อในโรงพยาบาล บางแห่งเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ทำให้ต้องปิดทั้งโรงพยาบาล เพราะว่าพบผู้ติดเชื้อ ซึ่งบางครั้งไม่ได้แจ้งถึงสาเหตุความเสี่ยง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับการรักษาและกักตัวด้วย”

ทางด้านของการติดเชื้อจำแนกตามวันที่เริ่มป่วยรายวันจากจำนวน 285 ราย พบการติดเชื้อสูงในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน และค่อย ๆ ลดลงมาในปัจจุบัน

การฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรสาธารณสุขตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564เป็นต้นมา ได้ฉีดเข็มที่ 1 จำนวน 630,746 ราย คิดเป็น 49.52 % จากการฉีดทั้งหมด และฉีดเข็มที่ 2 จำนวน 199,554 โดส คิดเป็น 42.45 % จากทั้งหมด