ThaiPublica > คอลัมน์ > “วีเจย์ มาลยา” … โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินเดีย “วายร้าย” ในคราบมหาเศรษฐี

“วีเจย์ มาลยา” … โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินเดีย “วายร้าย” ในคราบมหาเศรษฐี

13 ตุลาคม 2020


Hesse004

สารคดี Netflix ซีรีส์ล่าสุดที่ถูกปล่อยออกมา เรื่อง Bad Boy Billionaire: India จัดว่าเป็นชุดสารคดีที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ด้วยความสามารถของทีมผลิตสารคดี การตัดต่อภาพฟุตเตจต่างๆ การร้อยเรียงเรื่องราวเนื้อหาของเหล่ามหาเศรษฐีอินเดียที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกง คอร์รัปชัน ฟอกเงิน

นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เห็นภาพการเติบโตเศรษฐกิจอินเดียสมัยใหม่ ซึ่งแลกมาด้วยความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มสูงขึ้นพร้อมๆ กับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในสังคมอินเดีย

Bad Boy Billionaire: India เล่าเรื่องมหาเศรษฐีอินเดียสามคนในสามตอน (episode) ได้แก่ วีเจย์ มาลยา (Vijay Mallya), นิราพ โมดี (Nirav Modi) และ สุบราธา รอย (Subrata Roy)

เดิมนั้น Netflix ตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องราวของมหาเศรษฐีอินเดียอีกคน คือ รามาริงกา ราจู (Ramalinga Raju) อดีต CEO ของ Satyam Computer Service หนึ่งในยักษ์ใหญ่วงการคอมพิวเตอร์อินเดีย ที่ต่อมาได้เกิดกรณีฉ้อฉลขึ้น จนนำไปสู่การล้มละลายในที่สุด

แต่ด้วยการเล่าเรื่องด้านลบของเหล่าบิลเลียนแนร์ “สุ่มเสี่ยง” กับการถูกฟ้องร้อง ซึ่งกรณีราจู ได้อุทธรณ์ต่อศาลสูงสุดในอินเดียว่าเรื่องราวตนเองนั้นถูกถ่ายทอดไปในทางที่เสียหาย จึงร้องขอให้ Netflix ถอด episode ของตนเองออกไป

Netflix เปิด episode แรกของ Bad Boy Billionaire: India ด้วยเรื่องของ วีเจย์ มาลยา ชายที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินเดีย” ด้วยภาพลักษณ์ของมหาเศรษฐีเพลย์บอย ที่ประสบความสำเร็จในการต่อยอดธุรกิจน้ำเมาจากบิดาจนยกระดับสู่การเจ้าของสายการบิน low-cost airline ในอินเดีย อย่าง Kingfisher Airlines แต่ท้ายที่สุด ชายผู้นี้กลับนำพาสายการบินไปสู่จุดล้มละลาย แถมยังเปิดแผลให้เห็นปัญหาคอร์รัปชันของอินเดียอีกด้านหนึ่ง

วีเจย์ มาลยา มหาเศรษฐีอินเดียผู้ถูกเปรียบเทียบว่าเป็น โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินเดีย ที่มาภาพ : https://www.driving.co.uk/s3/st-driving-prod/uploads/2017/04/Vijay-Mallya-arrested.jpg

วีเจย์ มาลยา เป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนายวิทัล มาลยา (Vittal Mallya) เจ้าของอาณาจักร United Breweries Group หรือ UB ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองบังกาลอร์

…แบรนด์ดังของ UB คือ Kingfisher ที่ครองตลาดเบียร์อินเดียมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80

อย่างไรก็ดี ในสังคมอินเดียยังเคร่งครัดกับการห้ามขายน้ำเมาเพราะมองว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดล้วนเป็นต้นเหตุแห่งบาปและก่อปัญหาให้กับสังคม

Kingfisher Beer แบรนด์ดังแห่งตลาดเบียร์อินเดีย ที่มาภาพ :https://akm-img-a-in.tosshub.com/sites/btmt/images/stories/kingfisher-beer_660_041918082956.jpg

UB และ Kingfisher พยายามฝ่าฟันเรื่องนี้มาตลอด ในสารคดีเราได้เห็นเรื่องราวชีวิตของ วีเจย์ มาลยา ในวัยหนุ่มที่ต้องมารับช่วงต่อธุรกิจจากพ่อแบบกะทันหัน…วีเจย์เป็นคนฉลาด มีวิธีคิดพลิกแพลงและรับมือกับแรงกดดันจากภายนอกได้ดี

วีเจย์ สร้างแบรนด์ Kingfisher Beer ในแบบของเขา เขาไม่ได้ขายสุรา หากแต่ขายบรรยากาศความรื่นเริงในการสังสรรค์โดยมี Kingfisher เป็นเครื่องดื่มที่สร้างบรรยากาศ

จะว่าไปแล้ว Kingfisher Beer เติบโตพร้อมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอินเดียตั้งแต่ทศวรรษที่ 90 ในยุคที่นายกรัฐมนตรีหนุ่มราจีฟ คานธี (Rajiv Gandhi) ขึ้นบริหารประเทศ

เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวและพัฒนาอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเกิด tycoon มหาเศรษฐีพันล้านในทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็น ราธาน นาวาล ทาทา (Ratan Naval Tata) จาก Tata Group อานันท์ มหินทรา (Anand Mahindra) จาก Mahindra Group รวมถึง วีเจย์ มาลยา จาก UB Group

ฉายา “โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอินเดีย” ดูจะไม่เกินเลยความจริงนัก เพราะสองคนนี้มีภูมิหลังที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ เป็นลูกมหาเศรษฐีเหมือนกัน สานต่อธุรกิจบิดา มีสไตล์การใช้ชีวิตแบบเพลย์บอย นิยมจัดงานปาร์ตี้หรูเลิศอลังการ และท้ายที่สุดก็มาสนใจการเมืองเช่นกัน

วีเจย์เคยลงเล่นการเมืองช่วงสั้นๆ หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงในแวดวงธุรกิจ นอกจากนี้วีเจย์ยังเป็นอดีตเจ้าของทีมคริกเกต Royal Challenges Bangalore รวมทั้งสานฝันในวัยหนุ่มของเขาด้วยการสร้างทีมรถแข่งสูตรหนึ่งฟอร์มูลาวัน Force India


Force India ของวีเจย์ มาลยา…ของเล่นของเหล่าบิลเลี่ยนแนร์ ที่มาภาพ : https://images.livemint.com/rf/Image-621×414/LiveMint/Period2/2018/07/30/Photos/Processed/mallya-kOdH–621×[email protected]

พูดง่ายๆ คือ ชีวิตของวีเจย์ มาลยา เป็นชีวิตที่น่าอิจฉา น่าหมั่นไส้ ในสายตาของหลายๆ คน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตัดสินใจมาลงทุนธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำในช่วงหลังปี 2000

Kingfisher Beer แตกไลน์สู่การเป็นสายการบินราคาประหยัด Kingfisher Airlines เพื่อตอบสนองคนชั้นกลางอินเดียที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การเดินทางภายในประเทศด้วยต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ โดยวีเจย์มุ่งมั่นให้บริการเป็นเลิศแตกต่างจากสายการบินอินเดียแบบเดิมๆ ทำให้ Kingfisher Airlines กลายเป็นสายการบินน้องใหม่ที่น่าจับตาในอุตสาหกรรมการบินอินเดีย

Kingfisher Airlines เริ่มต้นบินครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2005 โดยวีเจย์ดั้นด้นไปเชิญมืออาชีพด้านการบริหารสายการบินต้นทุนต่ำจากสหรัฐอเมริกา ในช่วงการสร้างแบรนด์สายการบินนี้ ดูเหมือนทุกอย่างจะไปได้อย่างยอดเยี่ยม Kingfisher Airlines ตอบโจทย์คนชั้นกลางอินเดียที่ชอบเดินทาง ด้วยบริการที่น่าประทับใจ

จากอาณาจักรเบียร์สู่สายการบิน Kingfisher ที่มาภาพ : https://sevenpillarsinstitute.org/wp-content/uploads/2019/05/Vijay-Mallya.jpeg

วีเจย์ตัดสินใจขยายเส้นทางไปต่างประเทศ แต่การรีบร้อนจนเกินไปที่จะยกระดับสายการบินให้เทียบเคียงกับสายการบินบิ๊กเนมอย่าง Emirate หรือ Etihad ทำให้ต้นทุนการบริหารงานเพิ่มสูงขึ้น

…เมื่อต้นทุนสูงขึ้น วีเจย์ได้อาศัยการขอสินเชื่อจากธนาคารรัฐหลายแห่งที่เขามีเส้นสายอยู่

การขยายเส้นทางการบินครั้งนั้นทำให้ Kingfisher Airlines เปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง ท้ายที่สุด CEO มืออาชีพที่เริ่มต้นสร้างสายการบินนี้ได้ตัดสินใจลาออกเพราะปรัชญาการทำงานที่เปลี่ยนไป

…หนี้สินเริ่มท่วมขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการผิดนัดชำระหนี้มาจนถึงวิกฤตครั้งร้ายแรงที่สุด คือ หยุดจ่ายเงินเดือนพนักงาน

ปัญหารุมเร้าทั้งหลายสะท้อนให้เห็นว่าวีเจย์ไม่เข้าใจธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำดีพอ เขาเลือกที่จะเดินตามความคิดตัวเองมากกว่าที่จะฟังมืออาชีพ การแก้ปัญหาด้วยการก่อหนี้จากธนาคารรัฐโดยใช้เส้นสายภายในยิ่งทำให้ปัญหาของ Kingfisher Airlines ลุกลามบานปลาย

จนกระทั่งพนักงานออกมาเดินขบวนประท้วงเอาผิดวีเจย์ที่ไม่ยอมจ่ายเงินเดือนพวกเขานานถึงครึ่งปี โดยมีสัญญาลมๆ แล้งๆ ว่าจะหาเงินมาจ่ายให้ ขณะเดียวกันวีเจย์กลับใช้ชีวิตแบบปกติ ยังคงเป็น “เสเพลบอย” ที่ออกงานสังคมไฮโซแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร

เหล่าพนักงาน Kingfisher Airlines ออกมาเดินขบวนประท้วงเรื่องไม่ได้รับเงินเดือน ที่มาภาพ :https://bl.thgim.com/migration_catalog/article18023852.ece/alternates/LANDSCAPE_435/kfa.jpg

ท้ายที่สุดเมื่ออัยการอินเดียยื่นฟ้องวีเจย์ในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน เขารีบบินหนีออกนอกประเทศไปกบดานอยู่ที่อังกฤษ จนทุกวันนี้วีเจย์ยังต้องต่อสู้ในศาลที่อังกฤษด้วยเหตุที่เขาหลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยวีเจย์ต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อขอให้ไม่ถูกส่งตัวกลับไปที่อินเดีย

กรณีของวีเจย์ มาลยา และการล้มละลายของ Kingfisher Airlines นำมาซึ่งการตรวจสอบเส้นทางการปล่อยสินเชื่อของธนาคารรัฐหลายแห่งที่จงใจ “หละหลวม” ผ่อนปรนให้มหาเศรษฐีเพลย์บอยคนนี้ได้นำเงินไปเสพสุข

ปัญหา Kingfisher Airlines ยังสะท้อนการจัดการกับปัญหาคอร์รัปชันในอินเดีย

ดัชนีความโปร่งใส Corruption Perception Index (CPI) ของอินเดีย ปีล่าสุด 2019 นั้น อินเดียได้ 41 จาก 100 คะแนน อยู่อันดับที่ 80 จาก 180 ประเทศที่ถูกจัดอันดับ เช่นเดียวกัน อินเดียมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน คือ Central Bureau of Investigation หรือ CBI

รัฐบาลอินเดียพยายามจัดการกับเรื่องวีเจย์ มาลยา ให้เรียบร้อยเพื่อเป็น “ตัวอย่าง” ว่าถึงแม้จะมีเงินทอง เส้นสายใหญ่โตมาจากไหน แต่เมื่อทุจริตคอร์รัปชัน ติดสินบนแล้ว ก็ต้องได้รับการลงโทษเหมือนกัน

ทุกวันนี้ Bad Boy Billionaire ไม่ได้มีแค่ในอินเดียเพียงแห่งเดียว แต่เหล่า “วายร้าย” ในคราบมหาเศรษฐีมีอยู่เต็มไปหมดทั่วโลก

…วายร้ายเหล่านี้พร้อมจะเอารัดเอาเปรียบสังคมตลอดเวลา หาทางที่จะสูบใช้ทรัพยากรทุกอย่างเพื่อบำรุงบำเรอความสุขสำราญของตนเองเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจวิธีการใดๆ