ThaiPublica > เกาะกระแส > ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้บริหารมหาวิทยาลัย ข้าราชการ พนง.รัฐวิสาหกิจ – ท้องถิ่น 18 คดี

ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้บริหารมหาวิทยาลัย ข้าราชการ พนง.รัฐวิสาหกิจ – ท้องถิ่น 18 คดี

21 พฤษภาคม 2017


นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.

นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แถลงว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบว่าในรอบเดือนที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งรายงานการไต่สวนไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ หรือผู้บังคับบัญชาเพื่อลงโทษทางวินัย หรืออัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญา แล้วแต่กรณีแล้ว จำนวน 18 คดี เป็นคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดผู้บริหารมหาวิทยาลัย ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานส่วนท้องถิ่น ดังนี้

1. ส่วนกลาง : จำนวน 5 คดี

1.1 ร้องเรียนกล่าวหา (1) พลตำรวจโท ประชิน วารี รองจเรตำรวจ (สบ.9) ฐานะคณะกรรมการประกวดราคา (2) พลตำรวจตรี สมพงษ์ น้าเจริญ รองผู้บังคับการกองบังคับการจเรตำรวจ 4 ฐานะคณะกรรมการประกวดราคา (3) พลตำรวจตรี อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดจันทบุรี ฐานะคณะกรรมการประกวดราคา (4) พลตำรวจตรี สัจจะ คชหิรัญ ผู้บังคับการพลาธิการและสรรพาวุธ (5) นางสาวรักชนก แจ๊ะซ้าย หรือนางสาวสุพิชญา สองมณี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด (6). นายปิติ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ มอเตอร์ จำกัด ว่าทุจริตในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ พร้อมอุปกรณ์ (ทดแทน) จำนวน 19,147 คัน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า

    (1) พลตำรวจโท ประชิน, (2) พลตำรวจตรี สมพงษ์ และ (3) พลตำรวจตรี อิทธิพล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
    (4) พลตำรวจตรี สัจจะ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542มาตรา 12
    (5) นางสาวรักชนกหรือนางสาวสุพิชญา มีมูลความผิดทางอาญาฐานตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4
    (6). นายปิติ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนนางสาวรักชนกหรือนางสาวสุพิชญ และบริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2542 มาตรา 4 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

1.2 ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสุวิทย์ ศิลาทอง ผู้อำนวยการกองกฎหมายและคดี กรุงเทพมหานคร ในฐานะกรรมการพิจารณารายละเอียดการจัดซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์ ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ (2) นางสาวสุทิพย์ ทิพย์สุวรรณ์ รองผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรุงเทพมหานคร ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ (3) พันตำรวจเอก พิชัย เกรียงวัฒนศิริ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ (4) พันตำรวจโท รักศิลป์ รัตนวราหะ เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 7 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ว่าทุจริตในการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ของกรุงเทพมหานคร

ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า(1) นายสุวิทย์ (2) นางสาวสุทิพย์ (3) พันตำรวจเอก พิชัย และ (4) พันตำรวจโท รักศิลป์ ในฐานะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใด ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12

1.3 ร้องเรียนกล่าวหา นายอรัญ โสตถิพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิชาการรัฐสภา สถาบันพระปกเกล้า ว่าทำสัญญาจ้างบริษัท เทเลโทรล วัน จำกัด ออกแบบ ศึกษา และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระหว่างรัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้าโดยไม่มีอำนาจ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายอรัญ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 ฐานทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใด ๆ ในเอกสารที่แท้จริง หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสารโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ฐานปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 มาตรา 265 และฐานใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำความผิด ตามมาตรา 264 มาตรา 265 ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามมาตรา 268

1.4 ร้องเรียนกล่าวหา (1) นาวาตรี ปรารมภ์หรือปารมต์ โมกขะเวส ผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (2). นายกิตติชัย ริมกีรติกุล ผู้จัดการฝ่ายวางแผนและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ว่าแต่งตั้งบริษัทตัวแทนโดยไม่มีอำนาจ, จ่ายเงินค่านายหน้า ค่าส่วนลด ฯลฯ ให้บริษัทตัวแทนโดยไม่มีอำนาจ, ผ่อนผันการชำระหนี้โดยไม่หักกลบลบหนี้, ทุจริตในการเบิกจ่ายเงินค่าเลี้ยงรับรอง และละเว้นไม่แจ้งเรื่องการยกเลิกสัญญาเช่าเรือ TMN1 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า

    (1) กรณีแต่งตั้งตัวแทนโดยไม่มีอำนาจ และกรณีผ่อนผันการชำระหนี้โดยไม่หักกลบลบหนี้นั้น นาวาตรี ปรารมภ์หรือปารมต์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่องค์การบริษัท จำกัด และเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11
    (2) กรณีละเว้นไม่แจ้งเรื่องการเลิกสัญญาเช่าเรือ TMN 1 ให้ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือสงขลา และกองนำร่องทราบ เจตนาให้บริษัท ออนเวิร์ดอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ใช้ชื่อบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ในการเดินเรือ ภายหลังสัญญาเช่าเรือ TMN 1 สิ้นสุดลง เป็นเหตุให้ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือสงขลา และกองนำร่อง เรียกร้องให้ บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ชำระค่าภาระเรือ TMN 1 เป็นเงินจำนวน 3,598,006.14 บาทนั้น นายกิตติชัย มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดย มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11

1.5 ร้องเรียนกล่าวหา (1) นาวาตรี ปรารมภ์หรือปารมต์ โมกขะเวส ผู้อำนวยการบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด (2) นายทัศพงศ์ วิชชุประภา รองผู้อำนวยการ (3) นายกิตติชัย ริมกีรติกุล รองผู้อำนวยการ (4) นายวิสุทธิ์ วนิชกีรติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และผู้จัดการฝ่ายจัดการขนส่ง (5) นายสชา พุ่มไม้ เจ้าหน้าที่บริหารการตลาด 3 (6) บริษัท เฟรท คอนโซลิเดเตอร์ แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด (FCT) (7) นายยอดยิ่ง วีระเมธี ว่าออกใบตราส่งให้แก่ลูกค้า ทั้งที่ไม่มีนิติสัมพันธ์ ออกใบตราส่งโดยเปลี่ยนชื่อเรือโดยมิชอบ และรับรองค่าระวางเรืออันเป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่ากรณีออกใบตราส่งโดยเปลี่ยนแปลงชื่อเรืออันเป็นเท็จนั้น

    (1) นาวาตรี ปรารมภ์หรือปารมต์ และ (2) นายทัศพงศ์ฯ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
    (3) นายกิตติชัย มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง
    (4) นายวิสุทธิ์ และ (5) นายสชา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น และเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 8 และมาตรา 11
    (6) บริษัท เฟรท คอนโซลิเดเตอร์ แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด (FCT) และ (7) นายยอดยิ่ง มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

2. จังหวัดชลบุรี : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา รองศาสตราจารย์ ไพบูลย์ มากจันทร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก จังหวัดชลบุรี ว่าทำสัญญากู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อชำระหนี้ค่าก่อสร้างหอพักนักศึกษาในขณะที่ถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า รองศาสตราจารย์ ไพบูลย์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

3. จังหวัดปทุมธานี : จำนวน 2 คดี

3.1 ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสมบูรณ์ วงศ์ภักดี ผู้จัดการสาขาอาวุโส ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (2) นายศตวรรษ จิตราคนี ผู้จัดการด้านธุรกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (3) นายวิรัช เอี่ยมเตชะ ผู้จัดการด้านสินเชื่อ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สาขารังสิต (4) บริษัท ก.สยาม จำกัด (5). นายสมร โครวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ก.สยาม จำกัด (6) บริษัท เอ็ม.บี.อาร์. จำกัด (7) นายวรรณชัย อาศรมเกษร หรือนายเมธิวัจน์ เมธาเรื่องพงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม.บี.อาร์. จำกัด ว่ารับซื้อเอกสารการส่งออกภายใต้เลตเตอร์ออฟเครดิต (L/C) ซึ่งเป็นเอกสารปลอม หลีกเลี่ยงการทบทวนวงเงินสินเชื่อ และปิดบังผลการใช้วงเงินสินเชื่อที่ผิดปกติ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า

    (1) นายสมบูรณ์ และ (2) นายศตวรรษ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน นิติบุคคล หรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น และฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติ หรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91
    (3) นายวิรัช มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และ มาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91
    (4) บริษัท ก.สยาม จำกัด และ (5) นายสมร กรรมการผู้จัดการบริษัท ก.สยาม จำกัด และ (6) บริษัท เอ็ม.บี.อาร์ จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91
    (7) นายวรรณชัย หรือนายเมธิวัจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็ม.บี.อาร์ จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสารและฐานใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 และมาตรา 268 และฐานเป็นผู้สนับสนุนนายสมบูรณ์ และนายศตวรรษ กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 มาตรา 90 และมาตรา 91

3.2 ร้องเรียนกล่าวหา สิบตำรวจตรี สุรพล เหมจันทร์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง ว่าจับกุมบุคคลในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วทำร้ายร่างกายและเรียกรับเงิน ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า สิบตำรวจตรี สุรพล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 200 วรรคสอง

4. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา นายนะธีหรือธีรยา ภิญโญ อัยการจังหวัดประจำกรม สำนักงานอัยการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าให้จำเลยเลี้ยงอาหาร และเรียกรับพระเครื่องจากจำเลย เพื่อแลกกับการไม่อุทธรณ์คดีซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายสมโรจน์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 201

5. จังหวัดอ่างทอง : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา สิบเอก มานะ สุรวัตร ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย ว่ารับรองแบบประเมินบุคคลในการสมัครสอบคัดเลือกเพื่อเปลี่ยนสายงานเป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าสิบเอก มานะ มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง

6. จังหวัดเชียงใหม่ : จำนวน 2 คดี

6.1 ร้องเรียนกล่าวหา พันตำรวจตรีหญิง ดารารัตน์ มูลเมือง หรือพันตำรวจโทหญิง , สารวัตรฝ่ายอำนวยการ (การเงินและงบประมาณ) ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ว่าร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า พันตำรวจตรีหญิง ดารารัตน์ หรือพันตำรวจโทหญิง ชัญญา ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ มูลค่า 15,527,342 บาท

6.2 ร้องเรียนกล่าวหา นายธรรมนูญ ธรรมรังษี สาธารณสุขอำเภอเชียงดาว ว่าเบียดบังเงินโครงการเร่งรัดการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นายธรรมนูญ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147

7. จังหวัดอุตรดิตถ์ : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายณรงค์ศักดิ์ สังข์ทอง เจ้าพนักงานปกครอง 7 (2) นางสาวนะธีหรือธีรยา ภิญโญ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน (3) นางดาวรุ่ง อินทฉิม หัวหน้าส่วนโยธา (4) นายประยุทธ ทับทิมเกิด ประชาคมหมู่บ้าน (5) นายนิคม ศรีนวลอินทร์ ประชาคมหมู่บ้าน ว่าในฐานะคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาโครงการก่อสร้างถนนลาดยาง สายบ้านกระพั้ว – บ้านบึงปลาเน่า ขององค์การบริหารส่วนตำบลบ้านโคน อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ไม่พิจารณาผู้เสนอราคาต่ำสุดเพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เสนอราคาสูงกว่าเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญาซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า

    (1) นายณรงค์ศักดิ์ (2) นางสาวนะธีหรือธีรยา และ (3) นางดาวรุ่ง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 และมาตรา 12
    (4) นายประยุทธ และ (5) นายนิคม มีมูลความผิดทางอาญาฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

8. จังหวัดกาฬสินธุ์ : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายไพฑูรย์ เทพศาสตรา ปลัดเทศบาลตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย (2) นายสุรสิทธิ์ ภูมิผักแว่น นายช่างโยธา เทศบาลตำบลหนองแปน (3) นายวิทยา จอมทรักษ์ เจ้าหน้าที่ธุรการ เทศบาลตำบลหนองแปน ว่ารับรองแบบรายงานการตรวจสอบคำขอรับเงินค่าเช่าบ้านและแบบขอเบิกเงินค่าเช่าบ้าน (แบบ 73 ก) ของตนเป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายไพฑูรย์ (2) นายสุรสิทธิ์ และ (3) นายวิทยา มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83

9. จังหวัดบุรีรัมย์ : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา (1) นายสมนึก เฮงวัชรไพบูลย์ ป่าไม้จังหวัดบุรีรัมย์ (2) นายคัมภีร์หรือคำภีร์ สุดมี เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ว่าเบิกจ่ายเงินค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวรายวันงานเพาะชำกล้าไม้เป็นเท็จ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า (1) นายสมนึก มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง (2) นายคัมภีร์หรือคำภีร์ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 157 และมาตรา 161

10. จังหวัดอุดรธานี : จำนวน 1 คดี

ร้องเรียนกล่าวหา นายคำกาศ วงขีลี พนักงานปฏิบัติการทั่วไป 4 ที่ทำการไปรษณีย์เพ็ญ อำเภอเพ็ญ ว่าเรียกเก็บเงินค่าฝากส่งจากผู้ใช้บริการในอัตราที่สูงกว่าอัตราที่กำหนด แล้วนำเงินส่วนเกินไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่านายคำกาศ มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

11. จังหวัดภูเก็ต : จำนวน 2 คดี

11.1 ร้องเรียนกล่าวหา นางสาวปราณีหรือกรรวี อายุพงศ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสบริการลูกค้าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนเทพกระษัตรี ว่ายักยอกเงินในบัญชีเงินฝากของลูกค้า ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางสาวปราณีหรือกรรวี มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91

11.2 ร้องเรียนกล่าวหา นางขวัญนภา อัทธนันท์ พนักงานปฏิบัติการ 6 ธนาคารออมสิน สาขาป่าตอง อำเภอกะทู้ ว่าปลอมลายมือชื่อผู้ฝากเงินในใบถอนเงิน แล้วถอนเงินออกจากบัญชีผู้ฝากไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า นางขวัญนภา มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือ รักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 4 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91

ทั้งนี้การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

ป้ายคำ :