ThaiPublica > คอลัมน์ > นโยบาย 2 บาทที่สามารถช่วยทำให้โลกหายร้อนได้

นโยบาย 2 บาทที่สามารถช่วยทำให้โลกหายร้อนได้

7 มกราคม 2017


ณัฐวุฒิ เผ่าทวี
https://www.wbs.ac.uk/about/person/nattavudh-powdthavee

thaipublica-2baht

คุณคิดว่าเงินเพียงเเค่สองบาทจะสามารถช่วยทำให้โลกหายร้อนได้ไหมครับ

เเค่คิดก็ยากเเล้วว่าเงินเพียงเเค่สองบาทนั้นจะสามารถทำให้โลกหายร้อนได้ยังไง ในเมื่อเรายังคิดกันไม่ค่อยจะออกกันเลยว่าเราสามารถใช้เงินสองบาทซื้ออะไรได้บ้าง (ผมลองถามมะนาวซึ่งเป็นญาติรุ่นน้องของผมดูว่าสมัยนี้สองบาทสามารถใช้ซื้ออะไรได้บ้าง นาวใช้เวลาคิดนานเหมือนกันก่อนที่จะตอบมาว่าเงินสองบาทสามารถใช้

ซื้อลูกอมสองเม็ดบาทสี่เม็ด
เข้าห้องน้ำตามห้างสรรพสินค้า
ซื้อกระดาษทิชชู่หยอดเหรียญหน้าห้องน้ำ
ซื้อน้ำเเข็งเปล่าตามร้านอาหาร
หยอดตู้กดน้ำได้ประมาณสองลิตร)

เเต่ในความเป็นจริงเเล้ว เงินเพียงเเค่สองบาทนั้นกลับมีพลังมหาศาลในการช่วยลดปัญหา climate change ได้ ถ้าเราออกนโยบายในการใช้มันให้เป็น

นโยบายที่เเจ๋วที่สุดของประเทศอังกฤษในรอบหลายสิบปี

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี ค.ศ. 2015 รัฐบาลอังกฤษได้ออกกฎหมายใหม่ว่า ถ้าคุณไปช็อปปิ้งตามศูนย์การค้าหรือซูเปอร์มาร์เกต ไม่ว่าจะเป็นการช็อปปิ้งเสื้อผ้าหรือหาของกินก็ตาม ถ้าร้านที่คุณเข้าไปนั้นมีหลายสาขาเเละ/หรือมีพนักงาน 250 คนขึ้นไป คุณจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 5 pence (หรือประมาณ 2 บาท) ถ้าคุณต้องการใช้ถุงพลาสติกที่ร้านมีไว้ให้ใส่ของที่คุณเพิ่งซื้อไป เเละถ้าคุณต้องการถุงใส่ของเพิ่ม คุณก็ต้องเพิ่มเงินอีกถุงละ 2 บาท

ถ้าเป็นตัวคุณ คุณจะยอมจ่ายเงินเพียงเเค่ 2 บาทเพื่อที่จะซื้อถุงพลาสติกธรรมดาๆ ใบหนึ่งไหมครับ

ปรากฏว่า หลังจากการออกกฎหมายเพียงเเค่หนึ่งปี จำนวนถุงพลาสติกที่คนใช้กันในปีๆ หนึ่งลดลงจากเจ็ดพันล้าน (7 billion) ใบ จนเหลือเเค่ห้าร้อยล้าน (500 million) ใบ ในเวลาเพียงเเค่ปีเดียว

นั่นเท่ากับการลดลงของการใช้ถุงพลาสติกที่ย่อยสลายยากมากๆ ถึง 85% ด้วยกัน (ซึ่งถ้าเทียบกับผลลัพธ์ของนโยบายรัฐบาลอื่นๆ นั้น นโยบายนี้ถือว่าเป็นนโยบายที่มีผลลัพธ์ยอดเยี่ยมมากเป็นที่สุดในหลายสิบปี)

สรุปก็คือ หลังจากที่ได้มีการออกนโยบายมาไม่นาน ประชากรในประเทศอังกฤษส่วนใหญ่ก็หันกลับมา reuse หรือใช้ถุงซ้ำมากกว่าการใช้เพียงเเค่ครั้งเดียว

ทำไมนโยบายนี้ถึงมีประสิทธิภาพมาก

สาเหตุสำคัญที่นโยบายนี้มีประสิทธิภาพมากก็เพราะว่า นโยบายนี้ใช้ประโยชน์จากการที่คนเราเกลียดการเสียมากกว่าการชอบการได้เยอะ (loss aversion) เรามักจะเห็นว่าการที่ห้างในเมืองไทยใช้นโยบายที่ว่าถ้าคุณไม่ใช้ถุงพลาสติกเราจะเพิ่มคะเเนนสะสมซื้อของให้กับคุณนั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการงดการใช้ถุงพลาสติกสักเท่าไหร่ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าการเพิ่มคะเเนนเป็น “การได้” ในสิ่งที่เราจะ “ได้” ใช้จริงๆ ในอนาคต ซึ่งฟังดูไม่ค่อยน่าสนใจเมื่อเทียบกันกับการ “เสีย” ในการใช้ถุงใส่ของทันที เเละด้วยเหตุผลที่ว่าในขณะนั้นเรายังไม่มีทั้งถุงหรือคะเเนนมาอยู่ในความครอบครอง คนเราส่วนใหญ่ก็เลยคิดกันว่าเอาถุงเเทนคะเเนนสะสมดีกว่า

เเต่การ “เสีย” 2 บาทนั้นเป็นการ “เสีย” ในสิ่งที่เรามีทันที (ถึงเเม้ว่าจะเป็นการเสียที่น้อยพอสมควรก็ตาม) เเละเมื่อเทียบกันกับการ “ได้” ถุงที่เรายังไม่ได้มาครอบครอง คนเราก็มักจะยอมเเลกไม่เอาถุงดีกว่าการเสียเงินเพียงเเค่ 2 บาท

คุณผู้อ่านเห็นตามที่ผมเห็นไหมครับว่า พฤติกรรมศาสตร์ (หรือวิทยาศาสตร์พฤติกรรม หรือ behavioural science) นั้นมีพลังในการเปลี่ยนพฤติกรรมคนมากถึงขนาดไหน ถึงเเม้ว่านโยบายที่ออกมานั้นช่างดูเล็กน้อยเเละจิ๊บจ๊อยเสียเหลือเกิน

อ่านเพิ่มเติมที่นี่