ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,220 ล้านบาท เดินหน้าลงทุน Starprint บรรจุภัณฑ์พรีเมียมในเวียดนาม

SCGP ทำกำไรไตรมาสแรก 1,220 ล้านบาท เดินหน้าลงทุน Starprint บรรจุภัณฑ์พรีเมียมในเวียดนาม

26 เมษายน 2023


ข่าวประชาสัมพันธ์

SCGP แถลงผลไตรมาส 1 ปี 2566 เติบโตจากไตรมาสก่อน ทำรายได้ 33,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 มีกำไรสุทธิ 1,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 171 ผลจากยอดขายบรรจุภัณฑ์ที่ทยอยฟื้นตัวจากความต้องการของตลาดในภูมิภาคอาเซียนที่สูงขึ้น การท่องเที่ยวและภาคบริการโต การเปิดประเทศของจีน รวมถึงต้นทุนที่ลดลง และจากการดำเนินกลยุทธ์ขยายธุรกิจ M&P เสริมแกร่งธุรกิจต่อเนื่อง ล่าสุดเตรียมลงทุนร้อยละ 70 ใน Starprint Vietnam JSC ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พรีเมียมคุณภาพสูงชั้นนำในเวียดนาม พร้อมผนึก Origin Materials ร่วมวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสุดล้ำระดับโลก “Bio-based Plastic จากชิ้นไม้ยูคาลิปตัสสับ” เพื่อนำไปผลิตเป็นสารตั้งต้น Bio-PTA สำหรับการผลิต Bio-PET ตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 มีอัตราเติบโตที่ดีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนการฟื้นตัวของตลาดบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะกระดาษบรรจุภัณฑ์ โดยมีรายได้จากการขาย 33,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากไตรมาสก่อนหน้า มี EBITDA ทั้งสิ้น 4,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสำหรับงวด 1,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 171 จากไตรมาสที่ผ่านมาการเติบโตดังกล่าวมาจากความต้องการกลุ่มบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศในอาเซียนและประเทศจีนที่ฟื้นตัวโดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มและบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นหลังจากประชาชนคลายความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ SCGPที่ขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจรโดยเฉพาะการมุ่งเน้นขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคตลอดจนการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับผลกระทบจากเศรษฐกิจและตลาดบรรจุภัณฑ์

นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนมาจากการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เพิ่มขึ้นและได้รับผลดีจากภาคการผลิตของจีนที่เริ่มฟื้นตัวหลังเปิดประเทศทำให้ปริมาณการส่งออกกระดาษบรรจุภัณฑ์ไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น อีกทั้งต้นทุนต่าง ๆ ได้แก่ราคาพลังงาน วัตถุดิบและค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่ออัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ยังคงมีความท้าทายจากเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังผันผวน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยรวมถึงความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงทำให้การส่งออกสินค้าในกลุ่มสินค้าคงทนและสินค้าฟุ่มเฟือยชะลอตัวอย่างไรก็ตาม เริ่มเห็นสัญญาณบวกในการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปนายวิชาญ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 คาดว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการภายในประเทศจากการขยายตัวของเศรษฐกิจและธุรกิจบริการ รวมถึงราคาวัตถุดิบที่เริ่มปรับตัวกลับเข้าสู่ระดับปกติและมีแนวโน้มทรงตัวส่วนราคาพลังงานและค่าระวางเรือขนส่งมีแนวโน้มลดลงซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อการบริหารจัดการต้นทุน SCGP มุ่งรักษาการเติบโตอย่างมีคุณภาพต่อเนื่องด้วยการเดินหน้าตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค โดยล่าสุด วันที่ 25 เมษายน 2566 SCGP ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงเจตนาการเข้าลงทุนใน Starprint Vietnam JSC (SPV) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ (Offset foldingcarton) ที่มีชื่อเสียงในประเทศเวียดนาม โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติเห็นชอบโครงการลงทุนเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 70 โดยมีมูลค่ากิจการรวมไม่เกิน 1,050 พันล้านดอง หรือประมาณ 1,534 ล้านบาท โครงการควบรวมกิจการ (M&P) นี้จะดำเนินการผ่านความร่วมมือกับบริษัทสตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (Starflex) บริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนตัว (Flexible Packaging) ที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งจะลงทุนร้อยละ 25 ใน SPV หลังจากธุรกรรมนี้เสร็จสิ้น ธุรกรรมข้างต้นอยู่ระหว่างการดำเนินการคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยขนาดของรายการและโครงสร้างการถือหุ้นตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่าด้วยการได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ต่อไป

Starprint Vietnam JSC (SPV) เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษพรีเมียมคุณภาพสูง ได้แก่ บรรจุภัณฑ์กล่องกระดาษแข็งแบบพับได้ (Offset folding carton) กล่องบรรจุภัณฑ์คงรูปคุณภาพสูง (Rigid boxes) และบรรจุภัณฑ์ที่เน้นความสวยงาม มีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและเป็นที่ยอมรับจากบริษัทชั้นนำระดับโลกโดยมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ขึ้นรูปแบบพิมพ์ออฟเซ็ท 16,500 ตันต่อปีและมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบคงรูป 8 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งมีฐานการผลิต 2 แห่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ลองบินห์ (อมตะ) ในจังหวัดด่งนาย (Dong Nai) ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยในปี 2565 SPV มีรายได้ประมาณ 1,013 พันล้านดอง (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 92.5 พันล้านดอง (ประมาณ 135 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์ 440 พันล้านดอง (ประมาณ 643ล้านบาท) นอกจากนี้ SCGP ได้ทุ่มเทในการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันเพื่อตอบโจทย์เมกะเทรนด์และไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค โดยล่าสุดได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ (Joint DevelopmentAgreement หรือ JDA) กับ Origin Materials (ออริจิ้น แมตทีเรียลส์) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เพื่อร่วมกันพัฒนา “Bio-based Plastic จากชิ้นไม้ยูคาลิปตัสสับ” ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับโลกในการนำชิ้นไม้ยูคาลิปตัสสับ
มาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง จนได้ Bio-PTA เพื่อนำไปผลิตเป็น Bio-PET ในการผลิตบรรจุภัณฑ์และสินค้าต่าง ๆ อาทิ บรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์อาหาร สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และรองรับการใช้ Bio-PET ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้วัตถุดิบยั่งยืนและสามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะเดียวกัน SCGP ยังคงมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวคิด ESG 4 Plus อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ เป็นที่ยอมรับและได้รับการประเมินความยั่งยืนในระดับ Gold Class ผลการประเมินอยู่ในกลุ่มคะแนนสูงสุด 1% แรก (Top 1%) ในกลุ่มอุุตสาหกรรมบรรจุุภัณฑ์จาก S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) และเป็น Industry Mover หรือบริษัทจดทะเบียนที่มีพัฒนาการโดดเด่นและทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงบนรากฐานของความยั่งยืน