ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > ออมสินจับมือโรงรับจำนำ รุก ‘ธนาคารเพื่อสังคม’ ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย

ออมสินจับมือโรงรับจำนำ รุก ‘ธนาคารเพื่อสังคม’ ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย

21 ธันวาคม 2022


ข่าวประชาสัมพันธื

ออมสิน จับมือ สำนักงานธนานุเคราะห์ ต่อยอดภารกิจเพื่อสังคม ผสานกำลัง ธนาคารเพื่อสังคม และโรงรับจำนำเพื่อสังคม ช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน(ซ้าย)
นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.)(ขวา)

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ นายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ (สธค.) ลงนามในสัญญาความร่วมมือ การให้ความช่วยเหลือกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อย ที่ประสบปัญหาขาดแคลนเงินทุนในการดำรงชีพและประกอบอาชีพ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและช่องว่างทางการเงิน รวมทั้งสร้างการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ในฐานะ “ธนาคารเพื่อสังคม (Social Bank)” และ “โรงรับจำนำเพื่อสังคม (Social Pawnshop Enterprise)” ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือขององค์กรที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกัน ภายใต้นโยบายของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง ในการส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินมีความร่วมมือกันในเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและความเข้มแข็งของรัฐวิสาหกิจ เกิดการบูรณาการ แลกเปลี่ยน และแบ่งปันทรัพยากรร่วมกัน ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

โครงการความร่วมมือระหว่างธนาคารออมสิน กับ สธค. ปี 2566 – 2568 กำหนดแผนความร่วมมือ 4 ด้าน คือ

1. ด้านธุรกิจและบริการ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ สธค. เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนสภาพคล่องทางการเงิน นำเสนอ Product Package พิเศษให้กับพนักงานและลูกค้าของ สธค. รวมทั้งการส่งต่อลูกค้าชั้นดีของ สธค. เพื่อต่อยอดใช้บริการสินเชื่อของธนาคารออมสิน

2. ด้านช่องทางการให้บริการ โดยการพัฒนาช่องทาง Digital ให้กับ สธค. เพิ่มเติม สำหรับโอนเงินเข้าบัญชีให้กับลูกค้าที่นำทรัพย์มาจำนำกับ สธค. และศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้พื้นที่สาขาหรือทรัพย์ของธนาคารออมสิน เพื่อขยายช่องทางสาขาของ สธค. ในการทำธุรกิจรับจำนำและจำหน่ายทรัพย์หลุดจำนำ

3. ด้านการยกระดับการบริหารจัดการ Core Business Enablers ทั้ง 8 ด้าน โดยปี 2566 เน้นการแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ด้านการมุ่งเน้นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและลูกค้า ด้านการจัดการความรู้และนวัตกรรม

4.ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน โดยการเสริมสร้างความเข้มแข็ง ให้ความรู้ทางการเงิน และพัฒนาศักยภาพลูกค้ารายย่อย/ชุมชน โดยร่วมกับพันธมิตรจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ ได้แก่ วิทยาลัยสารพัดช่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และวิทยาลัยอาชีวศึกษา รวมถึงเรียนรู้ด้วยตนเองผ่าน Application “ออมตังค์” ทั้งนี้ ภายใต้โครงการความร่วมมือดังกล่าวจะนำไปสู่การยกระดับความเข้มแข็งของทั้ง 2 องค์กร และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าประชาชนรายย่อยต่อไป