ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ > สถาบันรหัสสากล สภาอุตฯจับมือ 7-11 ซีพีแรม ยกระดับความปลอดภัยผู้บริโภค ‘นวัตกรรมบาร์โค้ด 2 มิติ’

สถาบันรหัสสากล สภาอุตฯจับมือ 7-11 ซีพีแรม ยกระดับความปลอดภัยผู้บริโภค ‘นวัตกรรมบาร์โค้ด 2 มิติ’

8 กรกฎาคม 2022


ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สภาอุตสาหกรรมฯ จับมือ เซเว่น อีเลฟเว่น และ ซีพีแรม ยกระดับความปลอดภัยให้ผู้บริโภค ด้วยนวัตกรรมบาร์โค้ด 2 มิติ ตามมาตรฐานสากล GS1

สถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, เดินหน้าขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค จับมือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ พร้อมด้วยบริษัท ซีพีแรม จำกัด ประยุกต์ใช้บาร์โค้ด 2 มิติ ตรวจสอบวันหมดอายุสินค้ากลุ่มบริโภค ณ สถานที่ขาย สร้างความเชื่อมั่นอาหารปลอดภัยให้กับลูกค้า นำร่องอาหารพร้อมทานซีพีแรมในร้านเซเว่นฯ

ดร. คมสัน เหล่าศิลปเจริญ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) กล่าวว่า ในเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทาง GS1 ประเทศไทย จึงได้ร่วมกับพันธมิตรที่มีเจตนารมณ์เดียวกันมองหานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้ผู้บริโภค และได้ถือโอกาสนี้ในการเปิดตัวโครงการประยุกต์ใช้บาร์โค้ด 2 มิติ ตามมาตรฐานสากล GS1 พร้อมเชิญผู้บริหารที่เกี่ยวข้องมาร่วมเสวนาในหัวข้อ “2D Barcodes: Solution for Consumer Safety” ตอบโจทย์สินค้าน่าเชื่อถือ ยกระดับความปลอดภัยให้ผู้บริโภค ด้วยบาร์โค้ด 2 มิติเจเนอเรชั่นใหม่ ณ บูธสถาบันรหัสสากล (GS1 Thailand) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ภายในงาน FTI Expo 2022 ศูนย์ประชุมนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และเชิญชวนผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารได้นำบาร์โค้ด 2 มิติไปใช้ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

ระบบมาตรฐานสากล GS1 เป็นมาตรฐานในการบ่งชี้และติดตามสินค้าในซัพพลายเชน ที่ทั่วโลกตกลงใช้ร่วมกันมายาวนานเกินครึ่งศตวรรษ โดยสถาบันรหัสสากล หรือ GS1 Thailand เป็นหน่วยงานภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนออกเลขหมายบาร์โค้ดสินค้าตามมาตรฐานสากล GS1 ประจำประเทศไทยอย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียว ซึ่งช่วยดูแลการออกเลขบาร์โค้ดให้แก่ผู้ประกอบการไทยและสปป.ลาว มายาวนานกว่า 40 ปี และมีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการใช้งานระบบมาตรฐานสากล GS1 ให้ตรงตามมาตรฐานและครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสะดวกในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย

ปัจจุบัน บาร์โค้ดตามมาตรฐานสากล GS1 มีอยู่หลายรูปแบบที่ผู้ประกอบการต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับจุดประสงค์ต่างๆ ในการบริหารจัดการซัพพลายเชน ทั้งบาร์โค้ด 1 มิติ ประเภท EAN-13/UPC-A ที่ใช้บันทึกรหัสสินค้าเพื่อช่วยคิดราคาที่จุดขายหรือตัดสต๊อก และบาร์โค้ด 2 มิติ ประเภท GS1 Data Matrix หรือ QR Code: Digital Link ที่สามารถบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมได้มากขึ้นทั้งล็อตการผลิต วันหมดอายุ หรือหมายเลขซีเรียล (Serial Number) ที่บ่งชิ้สินค้าได้ในระดับรายชิ้น ช่วยปลดล็อคความต้องการในการติดตามสินค้าระดับรายล็อตหรือรายชิ้นได้ตลอดซัพพลายเชน รวมทั้งยังช่วยป้องกันการขายสินค้าหมดอายุที่จุดขายในอุตสาหกรรมค้าปลีกได้

นายชาคริต เฮงสิริกุล Head of Unit, Research&Knowledge, Architecture&Design Group บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทในกลุ่ม ซีพี ออลล์ กล่าวว่า เซเว่น อีเลฟเว่น ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ได้พยายามพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จับมือกับ GS1 ในการประยุกต์ใช้บาร์โค้ด 2 มิติ ถือเป็นค้าปลีกรายแรกในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีบาร์โค้ด 2 มิติ ประเภท GS1 DataMatrix ไปประยุกต์ใช้ในการแจ้งเตือนสินค้าหมดอายุที่จุดขาย นอกเหนือจากวันหมดอายุที่ตีพิมพ์ไว้บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค

โดยได้เริ่มนำร่องกับสินค้าในกลุ่มอาหารพร้อมทาน (Ready to Eat) ที่ผลิตโดยบริษัท ซีพีแรม จำกัด ซึ่งมีการบันทึกข้อมูลรหัสสินค้า ล็อตการผลิต และวันที่ควรบริโภคก่อน ลงในสัญลักษณ์บาร์โค้ด 2 มิติประเภท GS1 DataMatrix ที่พิมพ์ลงบนบรรจุภัณฑ์สินค้าโดยตรงในไลน์การผลิต เมื่อแคชเชียร์สแกนบาร์โค้ดดังกล่าวที่จุดขาย เครื่องคอมพิวเตอร์จะแสดงราคาสินค้าพร้อมกับตรวจสอบวันที่ควรบริโภคก่อน หากพบว่าสินค้าดังกล่าวเลยกำหนดวันที่ควรบริโภคก่อน ระบบจะระงับการขายสินค้าชิ้นนั้น พร้อมกับแจ้งเตือนไม่ให้แคชเชียร์นำส่งสินค้าชิ้นนั้นแก่ผู้บริโภค และต้องดำเนินการกำจัดทิ้งตามกระบวนการหน้าร้านทันที ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้มากขึ้นว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพเมื่อซื้อสินค้าที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น นอกจากนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานในการตรวจเช็ควันหมดอายุของสินค้า ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการทำงานและเพิ่มความถูกต้องในการตรวจสอบได้อีกด้วย