ThaiPublica > ประเด็นร้อน > เชื่อมโลกให้ไทยแล่น > สกพอ.เร่งแผนลงทุน เฟส 2-เชิญประธานาธิบดีรัสเซีย เยี่ยมชม ‘EECi’ ระหว่างประชุมเอเปค

สกพอ.เร่งแผนลงทุน เฟส 2-เชิญประธานาธิบดีรัสเซีย เยี่ยมชม ‘EECi’ ระหว่างประชุมเอเปค

17 กุมภาพันธ์ 2022


ข่าวประชาสัมพันธ์

นายเพ็ชร ชินบุตร รองเลขาธิการคณะกรรมการเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)

สกพอ.เร่งแผนดึงดูดการลงทุน เฟส 2 นัดหารือผู้แทนทูต ‘รัสเซีย-ฮังการี’ ชวนนักธุรกิจต่างชาติ ลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ EEC ล่าสุด เชิญประธานาธิบดีรัสเซีย เยี่ยมชมโครงการ ‘EECi’ ระหว่างประชุมเอเปคปลายปี’65

นายเพ็ชร ชินบุตร รองเลขาธิการคณะกรรมการเขตพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ “อีอีซี” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน สกพอ.ได้มีการขับเคลื่อนแผนการลงทุนระยะ 2 (ระหว่างปี 2565 – 2569) ตั้งเป้าหมายให้เกิดการลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท หรือปีละ 5 แสนล้านบาทต่อเนื่อง 5 ปี มุ่งเน้นดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ การแข่งขันของประเทศ โดยตั้งแต่ต้นปี 2565 สกพอ. ได้มีการผลักดันให้มีการเจรจาทางธุรกิจระหว่างนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และนักลงทุนไทย และเร่งนำเสนอแผนการลงทุน ให้คณะผู้แทนทางทูตประเทศกลุ่มเป้าหมายและประเทศที่มีความสนใจเข้ามาลงทุนในอีอีซี ได้รับทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ และชักจูงให้เกิดการลงทุนร่วมกันต่อไป

โดยที่ผ่านมา สกพอ. ได้ให้การต้อนรับและหารือกับนายชานโดร์ ชีโปช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย นำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าในการพัฒนาโครงการอีอีซี โอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย สิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนและการอำนวยความสะดวกการลงทุนในพื้นที่ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ รวมทั้งได้หารือถึงแนวทางการชักจูงการลงทุนจากภาคธุรกิจของฮังการีมายังพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีความสนใจในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย ได้แสดงความสนใจในการสร้างความร่วมมือกับ สกพอ. ในการชักจูงการลงทุนบริษัทเป้าหมายจากฮังการี และการจับคู่ทางธุรกิจกับภาคเอกชนไทย โดยทางสถานทูตฮังการีประจำประเทศไทย และ สกพอ.จะกำหนดสาขาความร่วมมือที่สนใจร่วมกันและชักจูงการลงทุนจากภาคเอกชนจากฮังการีต่อไป

นอกจากนี้ยังได้ให้การต้อนรับ นายสเตฟาน โกโลวิน รองหัวหน้าสำนักงาน สถานเอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซียประจำประเทศไทยและคณะ และหารือประเด็นความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) สุขภาพ (2) ดิจิทัล (3) การลดการปล่อยคาร์บอน และ (4) โลจิสติกส์

“โดยผู้แทนฝ่ายรัสเซียได้แสดงความสนใจสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม ในสาขาดิจิทัล การแพทย์ พลังงานทดแทน การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การพัฒนาโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และด้านการศึกษาและการฝึกอบรมบุคลากร ทั้งนี้ สกพอ. ยังเสนอให้มีการเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECi ในพื้นที่ อีอีซี ระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหพันธ์สาธารณรัฐรัสเซีย ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ช่วงปลายปี 2565 ด้วย นายเพ็ชร กล่าว