ข่าวประชาสัมพันธ์
กรุงเทพฯ, 28 ตุลาคม 2564 – ปตท.สผ. เผยผลประกอบการยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย 9 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.)ผลจากปริมาณการขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น และราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยได้ปรับเป้าหมายปริมาณขายเพิ่มขึ้นอีกครั้งเป็น 417,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันสำหรับปี 2564
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2564 มีรายได้รวม 5,331 ล้าน สรอ. (เทียบเท่า 168,409 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 จาก 4,082 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 128,369 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 414,516 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับ 344,909 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเข้าร่วมทุนในแปลง 61 ประเทศโอมาน และการเริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในโครงการมาเลเซีย – แปลงเอช ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณขายให้กับบริษัทได้ตั้งแต่ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ประกอบกับผู้ซื้อก๊าซฯ ได้เรียกรับก๊าซธรรมชาติจากโครงการในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 42.34 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จาก 39.69 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
ด้านค่าใช้จ่ายรวมในรอบ 9 เดือนของปีนี้ อยู่ที่ 4,453 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 140,571 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จาก 3,459 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (สรอ.) (เทียบเท่า 108,762 ล้านบาท) ในปีที่แล้ว สาเหตุหลักจากการบันทึกรายจ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานปกติ (Non-recurring) ได้แก่ การรับรู้ผลขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ของโครงการสำรวจในประเทศบราซิล
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของ ปตท.สผ. มีกำไรสุทธิ 890 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 28,218 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 639 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 20,137 ล้านบาท) โดยสามารถรักษาระดับต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ที่ 28.18 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงจาก 30.29 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุน และการเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ของโครงการมาเลเซีย-แปลงเอช และการเข้าซื้อโครงการโอมาน แปลง 61 ซึ่งมีต้นทุนต่อหน่วยค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา ที่ร้อยละ 74 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และยังคงสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง
สำหรับผลประกอบการของไตรมาส 3 ปี 2564 นั้น ปตท.สผ. มีรายได้รวม 1,784 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 58,752 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จาก 1,305 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 40,887 ล้านบาท) จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 292 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 9,545 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จาก 230 ล้านดอลลาร์ สรอ. (เทียบเท่า 7,202 ล้านบาท) จากการเติบโตของปริมาณการขายและราคาขายผลิตภัณฑ์เฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
“ธุรกิจพลังงานเริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยเป็นผลมาจากที่หลายประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรปรวมทั้งประเทศไทยมีการผ่อนปรนมาตรการล็อคดาวน์และการเดินทาง จึงส่งผลให้มีความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึง ปตท.สผ. นอกจากนี้ ความสำเร็จจากการดำเนินงานตามแผนกลยุทธ์ Execute & Expand ส่งผลให้เราสามารถเพิ่มเป้าหมายการขายเฉลี่ยขึ้นอีกครั้งเป็น 417,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากที่ได้ปรับเพิ่มไปแล้วในไตรมาส 2 ที่ 412,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน อีกทั้ง การเข้าร่วมลงทุนในแหล่งปิโตรเลียมที่มีศักยภาพ และการค้นพบแหล่งน้ำมันและก๊าซฯ อย่างต่อเนื่องในมาเลเซีย เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมการเติบโตให้กับบริษัทในระยะยาว” นายมนตรีกล่าว
นอกจากนี้ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ จากบริษัท ซีนุค (CNOOC Limited) ส่งผลให้ ปตท.สผ. มีสัดส่วนการลงทุนในโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 49 จากร้อยละ 24.5 และคาดว่าโครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ จะเริ่มผลิตน้ำมันดิบได้ไตรมาส 4 ปี 2564 ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้นประมาณ 10,000-13,000 บาร์เรลต่อวัน
……
PTTEP records net income of USD 890 million in the first 9 months,raises this year’s target sales volume
Bangkok, October 28, 2021 – PTTEP reported robust growth of the first 9-month financial performance with net income of USD 890 million, due to higher petroleum sales volume and higher average selling price following the rally of global crude oil price. The company has again revised up 2021 target sales volume to 417,000 barrels of oil equivalent per day (BOED).
Mr. Montri Rawanchaikul, Chief Executive Officer of PTT Exploration and Production Public Company Limited (PTTEP), disclosed that for the 9-month period of 2021, the company generated total revenues of USD 5,331 million (equivalent to THB 168,409 million), increasing by 31% from USD 4,082 million (equivalent to THB 128,369 million) for the same period last year. The growth was primarily from the improvement in average sales volume to 414,516 BOED, a 20% increase from 344,909 BOED last year. This was attributed to the acquisition in Oman Block 61 and the gas production from Malaysia Block H, adding to sales volume since the first quarter of this year, coupled with higher gas nomination from projects in the Gulf of Thailand. Meanwhile, the average selling price was adjusted upward to USD 42.34 per barrel of oil equivalent (BOE) from USD 39.69 per BOE of the earlier year, as a result of global crude oil price escalation.
Total expenses for the 9-month period were USD 4,453 million (equivalent to THB 140,571 million), up 29% from USD 3,459 million (equivalent to THB 108,762 million) last year. The increase was mainly from recognition of oil price hedging losses and assets write-off for the exploration projects in Brazil.
According to the aforementioned factors, PTTEP’s net profit for the first nine months of 2021 reported at USD 890 million (equivalent to THB 28,218 million), an increment of 39% from USD 639 million (equivalent to THB 20,137 million) for the same period of 2020. The unit cost decreased to USD 28.18 per BOE compared to USD 30.29 per BOE for the first 9-month period last year, as a result of effective cost management, coupled with the commercial production start-up of Malaysia Block H and the acquisition in Oman Block 61, which the unit costs are quite competitive. Earnings before Interest, Taxes, Depreciation and Amortization (EBITDA) margin stood at 74%, aligned with the company’s target. The financial position as of the end of this third quarter remained solid.
For the third quarter’s performance, PTTEP posted total revenues of USD 1,784 million (equivalent to THB 58,752 million), rising by 37% comparing with USD 1,305 million (equivalent to THB 40,887 million) for the same period last year. Net profit was recorded at USD 292 million (equivalent to THB 9,545 million), a 27% increase from USD 230 million (equivalent to THB 7,202 million) a year ago. These were also driven by higher average sales volume and average selling price.
“The energy industry is on the pathway to recovery, driven mainly from easing lockdown and travel restrictions across various areas of the world including the United States, many European countries and Thailand, which materially affects overall energy demand and the world’s economic improvement. This also sends out a positive signal to many industries, including PTTEP. To date, the successful results from our ‘Execute and Expand’ strategy implementation has led us to revise the target sales volume once again to 417,000 BOED from 412,000 BOED, announced in the previous quarter. In addition, capturing investment opportunities in petroleum prolific areas and the continued exploration success in Malaysia are also key factors that foster the company’s long-term growth.” Mr. Montri stated.
Significant operational progress in the third quarter
PTTEP, in the third quarter, successfully acquired additional participating interest of 24.5% in the Algeria Hassi Bir Rekaiz Project from CNOOC Limited, raising its stake in the project to 49%. First oil production is expected to come on stream in the fourth quarter of this year with the start-up production capacity of 10,000-13,000 barrels per day (BPD).
ข่าวหรือบทความที่เกี่ยวข้อง
