ThaiPublica > ข่าวประชาสัมพันธ์ (archive) > ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำมันปลาทูน่า UniQTMDHA

ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำมันปลาทูน่า UniQTMDHA

22 เมษายน 2021


ข่าวประชาสัมพันธ์

ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ น้ำมันปลาทูน่า UniQTMDHA น้ำมันปลาทูน่าบริสุทธิ์คุณภาพสูงมีฐานการผลิตอยู่ที่โรงงานใหม่ที่รอสต็อก ประเทศเยอรมันนี

22 เมษายน 2564 – ไทยยูเนี่ยนอินกรีเดียนท์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทูน่ายูนีกดีเอชเอ ตอบโจทย์เป้าหมายของไทยยูเนี่ยน ในการสร้าง “สุขภาพที่ดีและท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์” และต่อยอดความสำเร็จของ ผลิตภัณฑ์ยูนีกโบน ที่เปิดตัวไปในเดือนมกราคมที่ผ่านมา

กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทูน่ายูนีกดีเอชเอ มีทั้งหมด 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ยูนีกดีเอชเอน้ำมันปลาทูน่าสกัด ผลิตจากวัตถุดิบที่คัดสรรให้มีคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการสกัดที่อ่อนโยนเพื่อให้ได้น้ำมันสกัดที่มีความสะอาดและคุณภาพสูงที่สุดในตลาดด้วยปริมาณดีเอชเอ ที่มากถึง 28-30% ยูนีกดีเอชเอน้ำมันปลาทูน่ากลั่น เป็นการนำน้ำมันปลาทูน่าสกัดมาผ่านกระบวนการกลั่นแบบเฉพาะ และมีปริมาณดีเอชเอสูงใกล้เคียงปริมาณที่พบในเนื้อปลาทูน่าสด

ไทยยูเนี่ยนอินกรีเดียนท์ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยในการกลั่นและสกัดน้ำมันปลาทูน่าจากเนื้อปลาให้ได้มากขึ้น เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรในท้องทะเลที่มีค่า กระบวนการกลั่นนี้ใช้สารเคมีและพลังงานน้อยกว่า จึงทำให้เกิดของเสียจากกระบวนการผลิตน้อยกว่าเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

โรงงานกลั่นน้ำมันปลาทูน่านี้ตั้งอยู่ที่เมืองรอสต็อก ประเทศเยอรมัน โดยน้ำมันปลาทูน่าสกัดที่ป้อนเข้าโรงงานนั้นจะถูกส่งมาจากโรงสกัดของไทยยูเนี่ยนในประเทศเซเชลล์ กาน่าและไทย โดยไทยยูเนี่ยนดูแลห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้เต็มรูปแบบ ลูกค้าจึงสามารถมั่นใจได้ถึงแหล่งที่มาและกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์ และด้วยคุณภาพของน้ำมันปลาทูน่าที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถผลิตน้ำมันโอเมก้า 3 อื่นๆ รวมถึงการรับผลิตให้กับบริษัทอื่นๆ อีกด้วย โรงงานกลั่นน้ำมันปลาที่รอสต็อกเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของไทยยูเนี่ยนอินกรีเดียนท์ที่จะใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของปลาทูน่าและนำมาผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทั่วโลกและคนทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยยูเนี่ยนตั้งเป้าหมาย ในเรื่องการมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยนตั้งแต่เริ่มต้นปี 2563 และจะขยายสู่การเป็นผู้นำตลาดในเรื่องของความยั่งยืนต่อไป การเห็นคุณค่าของความยั่งยืนและนำไปใช้ในทุกภาคส่วนธุรกิจเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทรัพยากรในท้องทะเลที่มีคุณค่า ไปจนถึงการช่วยให้ผู้บริโภคทั่วโลกมีไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันปลาทูน่าตอกย้ำกลยุทธ์ของเราในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้เราไม่เพียงแต่ใช้ทุกส่วนของปลาทูน่าให้เกิดประโยชน์เท่านั้น ยังช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงและยังช่วยในด้านพัฒนาการการเติบโตของเด็กๆ อีกด้วย”

ลีโอนาดัส คูลเลน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด คาดการณ์ถึงธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกว่า “ยูนีกดีเอชเอเป็นก้าวต่อไปของบริษัทฯ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า ซึ่งโรงงานที่รอสต็อกของเราทำให้เราสามารถเพิ่มประโยชน์ในการบริหารห่วงโซ่อุปทานได้อย่างครบวงจร และด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของโรงงานนี้เอง ยังทำให้เรามีโอกาสในการผลิตสินค้าอื่นๆ ได้อีกในอนาคต”

กลุ่มผลิตภัณฑ์ยูนีกดีเอชเอ ยังถูกต้องตามกำหนดฮาลาลและโคเชอร์ และพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ววันนี้

Thai Union Launches UniQTMDHA product range High-grade tuna oil refined at the Company’s cutting-edge plant in Rostock, Germany

BANGKOK – April 22, 2021 – Thai Union Ingredients (TUI) today launched its new UniQTMDHA tuna oil range, continuing the focus of parent company Thai Union Group PCL on Health Living, Healthy Oceans, and building on the success of the UniQTMBONE product launched in January.

The UniQTMDHA tuna oil range comes in two forms: the first is UniQTMDHA crude oil, which is produced from selected raw materials via a gentle extraction process, resulting in the purest and highest-quality crude oil in the market and with a very high refining yield that delivers a DHA content of 28% to 30%. The second, UniQTMDHA refined oil, takes the crude oil as its base and has similar DHA levels to those found in fresh fish.

For both products, the TUI unique manufacturing process uses less fish to produce the same amount of oil, uses fewer chemicals, consumes less energy, and produces less waste – all helping preserve the environment.

UniQTMDHA refined oil is produced in TUI’s cutting-edge facility in Rostock, Germany. The plant is equipped with the latest processing technology which meets the stringent standards needed to produce the highest-quality products, including those for infant products which require the best grade of Omega-3 oils.

The Rostock plant is the final point in TUI’s end-to-end supply chain for tuna oil and processes crude, white tuna oil from Thai Union plants in the Seychelles, Ghana and Thailand. This secure supply chain guarantees full traceability so customers can be confident of the source and production methods of their oil. The high-tech nature of the plant and the quality of its products allows TUI to explore other aspects of Omega-3 production, including contract and toll manufacturing. The Rostock refinery is a central part of TUI’s strategic plan to derive value from all the available co-products from tuna processing, providing healthy and nutritious ingredients to support the lifestyles of consumers of all ages, globally.

“Healthy Living, Healthy Oceans has been a core part of Thai Union’s business strategy since the beginning of 2020 and is a natural extension of our market-leading sustainability work,” said Thiraphong Chansiri, Thai Union’s CEO and President. “It is important to us to recognize that sustainability applies across every aspect of our business; from protecting the vital blue economy to supporting the healthy lifestyles of consumers around the world. This latest product range from Thai Union Ingredients epitomizes this strategy, making sure that we not only use every part of every fish, but that we also help people of all ages stay healthy and active while fueling the development of their children.”

Leonardus Coolen, the Managing Director of TUI, expects continued momentum in first half of 2021. “UniQTMDHA is the next step on our journey to ensure that TUI keeps delivering healthy, high-quality ingredients to our customers. Our Rostock plant is particularly exciting from a strategic perspective as it allows us to leverage of our supply chain in an even greater way. The state-of-the-art technology at the plant means that we will continue to explore even more product options for the future.”

The UniQTMDHA range is Halal and Kosher certified. It is available for sale worldwide.

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 132,402 ล้านบาท (4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ UniQ™BONE, UniQ™DHA และ ZEAvita

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 7 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2563 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน