ThaiPublica > เกาะกระแส > ร้านค้าแห่ขึ้นทะเบียน“คนละครึ่ง”กว่า 2 แสนราย-บัญชีกลางโอน 500 บาท เข้าบัตรคนจนแล้ววันนี้

ร้านค้าแห่ขึ้นทะเบียน“คนละครึ่ง”กว่า 2 แสนราย-บัญชีกลางโอน 500 บาท เข้าบัตรคนจนแล้ววันนี้

8 ตุลาคม 2020


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

ร้านค้าแห่ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” กว่า 2 แสนราย-กรมบัญชีกลางโอนเงินงวดแรก 500 บาท ให้ผู้ถือบัตรคนจน 14 ล้านคนแล้ว วันนี้

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้า “โครงการคนละครึ่ง” ว่า ในระหว่างการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ทางกระทรวงการคลังได้รายงานต่อที่ประชุม ศบศ. ว่า หลังจากที่กระทรวงการคลังเปิดให้ร้านค้าลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนทั้งหมดแล้ว 210,010 ร้าน แบ่งเป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนที่สำเร็จแล้ว 152,795 ร้าน โดยส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการตรวจสอบ

สำหรับกิจการที่ลงทะเบียนสำเร็จแบ่งออกเป็นกิจการที่มีหน้าร้านจำนวน 127,852 ร้าน และหาบเร่ แผงลอยจำนวน 24,943 ร้าน ประเภทของร้านค้าที่ลงทะเบียนสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 90,052 ร้าน ส่วนร้านธงฟ้ามีจำนวน 41,331 ร้าน ร้าน OTOP มีจำนวน 4,991 ร้าน และเป็นร้านค้าทั่วไปจำนวน 16,421 ร้าน

“หากจำแนกตามภูมิภาค ร้านค้าส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง 73,092 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 34.8 รองลงมาอยู่ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 73,092 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 25.0 และภาคใต้จำนวน 37,229 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 17.7 จังหวัดที่มีร้านค้ามาลงทะเบียนมากที่สุดอยู่ในกรุงเทพมหานครจำนวน 25,526 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 12.2 รองลงมาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่จำนวน 7,105 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 3.4 และจังหวัดสงขลาจำนวน 6,516 ร้าน คิดเป็นร้อยละ 3.1” นายอนุชา

นายอนุชา กล่าวว่า ร้านค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ www.คนละครึ่ง.com หรือ ติดต่อที่ธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขา ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่ www.คนละครึ่ง.com เช่นกัน ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป และรอรับ SMS ยืนยัน โดยจะเริ่มใช้สิทธิใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป จนถึง 31 ธันวาคม 2563 และหากไม่ใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน จะถูกตัดสิทธิ์ทันที โดยโครงการคนละครึ่งนี้ รัฐบาลจะช่วยจ่าย 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวันต่อคน รวมไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดโครงการ สำหรับประชาชนคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งนี้สามารถนำไปใช้จ่ายซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป โดยไม่รวมถึงสลากกินแบ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และบริการต่าง ๆ

  • นายกฯปัดปม “2 ป.” ตั้งพรรคใหม่ ชี้ “แค่พรรคเดียวก็ปวดหัวแล้ว”-มติ ครม.อนุมัติ “คนละครึ่ง” แจก 3,000 บาท 10 ล้านคน
  • คลังเปิดตัว “คนละครึ่ง – เติมเงินบัตรคนจน” คาดเงินสะพัด 8.1 หมื่นล้าน ปั้ม GDP เพิ่ม 0.25%
  • นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง

    นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลางในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้านคน จำนวน 500 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563 โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (300+500) รวมเป็น 800 บาท/เดือน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท/ปี จะได้รับ (200+500) รวมเป็น 700 บาท/เดือน

    “สำหรับเดือนตุลาคม ผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินเพิ่มเติม จำนวน 500 บาท ในวันที่ 8 ตุลาคม 2563 และในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม จะได้รับวงเงินเพิ่มเติมในวันที่ 1 ของเดือน และขอย้ำว่าวงเงินที่ได้รับไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ การใช้จ่ายดังกล่าวสามารถนำไปใช้ที่ร้านธงฟ้าประชารัฐที่รับชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ผ่านเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) หรือร้านค้าที่รับชำระเงินผ่านแอพฯ ถุงเงินประชารัฐเท่านั้น หากมีข้อสงสัย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 02-270-6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว