ThaiPublica > คอลัมน์ > “พนันออนไลน์” เฟื่องฟูคู่โควิด

“พนันออนไลน์” เฟื่องฟูคู่โควิด

17 กันยายน 2020


วรากรณ์ สามโกเศศ

ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่โควิดระบาดทำร้ายผู้คนในสังคมไทยทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมนั้นก็มีการระบาดของสิ่งหนึ่งที่ทำร้ายในลักษณะเดียวกันซึ่งอาจร้ายแรงกว่าในระยะยาว นั่นก็คือการระบาดของเกมส์ออนไลน์ชนิดแนบเนียนที่เด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานหมกมุ่นกันหนักอยู่ในขณะนี้

หากท่านผ่านไปตามถนนเห็นวัยรุ่นวินมอเตอร์ไซต์ พนักงานกวาดถนน ลูกจ้างในร้านขายของ ลูกจ้างโรงงาน ฯลฯ นั่งก้มหน้าก้มตากับจอโทรศัพท์นั้น เขาไม่ได้อ่านข่าวหรือสารคดี หากกำลังเล่นเกมส์ดังกล่าว ที่มาหนักหนาสาหัสก็คือตอนล็อคดาวน์และต่อมาถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคต ที่น่าตกใจก็เพราะมันไม่ใช่เกมส์ธรรมดาหากเป็นการพนันที่แฝงมาในรูปเกมส์ออนไลน์อย่างที่คนเล่นไม่รู้สึกตัวชัดว่าบัดนี้กำลังพนันอยู่ มันหลอกล่อและแทรกเข้ามาอย่างเงียบ ๆ

ข้อมูลจาก สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) ในเรื่องการพนันออนไลน์โดยทั่วไประบุว่าไม่แตกต่างจากการพนันที่เล่นกันในบ่อนกาสิโน เช่น การการเล่นโป๊กเกอร์ “โจรแขนเดียว” (สล็อตแมชชีน) รูเล็ต แบล็คแจ็ก (21 แต้มคล้ายยี่อี้ด) แทงม้าแข่ง เปิดไพ่ใหญ่ ฯลฯ นอกจากนี้ก็มีแทงฟุตบอลหรือเกมส์กีฬาอย่างอื่น

การพนันออนไลน์ที่วิเศษสำหรับเจ้ามือและสร้างความเสียหายได้มากแก่ลูกมือก็เพราะเล่นได้ทุกเวลา ในทุกสถานที่ เล่นคนเดียวเป็นส่วนตัวโดยไม่มีใครรู้ เล่นได้โดยลำพังไม่ต้องพึ่งพาบุคคลอื่น ได้เงินและจ่ายเงินอย่างสะดวกด้วยการโอนเงินบนมือถือ มีรูปแบบและเสียงที่ทำให้รู้สึกสนุกเร้าใจจนเล่นต่อเนื่อง และที่สำคัญก็คือโฆษณาชักชวนล่อหลอกผ่านสื่อออนไลน์ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง

เกมส์พนันออนไลน์ที่มาในรูปใหม่เป็นเกมส์แบบที่เคยเล่นกันมาอย่างไร้เดียงสาคือสู้รบฆ่าฟันด้วยสารพัดอาวุธ หลบหลีกอุปสรรค ฯลฯ แต่คราวนี้มีได้และมีเสียด้วยการวางเดิมพันโดยให้เงินทดลองเล่น 500-1,000 บาทก่อน จนรู้สึกสนุกที่ได้เงินมาง่าย ๆ และเสียไปหมดจนติดใจ ยอมเปิดบัญชีโอนเงินเข้าออกด้วยเงินจำนวนไม่มาก คราวนี้กลไก “ต้มตุ๋น” คือเล่นจริงก็เกิดขึ้นทันที มีทั้งได้และเสียเงิน เมื่อยามได้ก็โลภอยากได้อีกก็เล่นต่อไป คราวเสียก็ต้องแก้มือ หาเงินหาทองมาใส่บัญชีเพื่อแก้แค้น เป็นวงจรเช่นนี้เรื่อยไปอย่างสนุกพร้อมกับเสียเงินไปทีละน้อย ๆ และมาก ๆ ขึ้น จนหมกมุ่นเสียหาย

เหตุใดผู้เขียนจึงมั่นใจว่าเสียเงินในที่สุดมากกว่าได้ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือโปรแกรมการเล่นเกมส์พนันออนไลน์ใครเป็นคนสร้างขึ้น คำตอบก็คือเจ้าของหรือคนเขียนที่จ้างมา เขาจะเขียนโปรแกรมให้เจ้ามือเสียเงินให้โง่กระนั้นหรือ เขาก็เขียนให้ตอนพนันด้วยเงินเล็กน้อยคนเล่นชนะได้เงิน ต่อมาพอเงินพนันมากก็ให้เล่นเสียบ่อย ๆ และให้ชนะบางครั้ง

กลการเล่นทุกอย่างมันเหมือนสคริปละครที่เขาเขียนขึ้นมาเพื่อให้คนเล่นเสียเงินในที่สุดเสมอ สั่งอะไรลงไปในโปรแกรมมันทำให้ได้ทั้งนั้นจะให้แยบยลเพียงใดก็ได้

ในต่างประเทศกิจการบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์จะถูกควบคุมโดยทางการอย่างใกล้ชิดเพราะมันฟอกเงินให้ “ขาว” ได้ง่าย (โกงมาและอ้างว่าได้มาจากการพนัน) เป็นสินบลเจ้าหน้าที่ก็ง่าย (ผมรวยมาจากการเล่นพนัน) ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราที่ผู้เล่นได้เงินคืนไป กล่าวคือไม่ใช่ให้บ่อนสูบกลับคืนไปเต็ม ๆ จนผู้เล่นหมดตัว บ่อนไหนก็กำไรทั้งนั้น หากเจ้าของขาดทุนแล้วจะเปิดไว้ทำไม นี่คือเหตุผลที่ต้องบังคับให้คืนคนเล่นไปบ้าง เกมส์พนันออนไลน์ที่คนบ้านเราเล่นกันนั้น ไม่มีการควบคุมดูแลในทุกเรื่อง ไม่ว่าการเขียนโปรแกรมเป็นสคริปไว้เพื่อ “ต้มตุ๋น” การโอนเงินให้ผู้เล่นอย่างรับผิดชอบ อัตราคืนเงินให้ ผู้เล่น ฯลฯ มันไม่มีทั้งนั้นเพราะในเบื้องต้นไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้ามือและอยู่ที่ประเทศไหน (เปิดเป็นเว็บไซต์ที่เลื่อนลอยแบบ “จับให้มั่นคั้นให้ตาย” นั้นยาก เปิดที่นี้ไปโผล่ที่โน่น) และจนถึงปัจจุบันยังไม่มีข่าวว่าทางการไทยลงมือทำอะไรกับปรากฏการณ์ใหม่ที่เลวร้ายนี้

การเข้าถึงตัวผู้เล่นก็ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการจ่ายเงินให้ยูทูบเบอร์แทรกการชักชวนให้มาเล่นไว้ในรายการแบบเนียน ๆ โดยบอกว่าเป็นเกมส์ที่ได้เงินจริง (เรื่องเสียไม่พูดถึง) สนุกจริง ๆ พร้อมกับมีเงินให้ทดลองเล่น (แต่ไม่ได้บอกว่าเพื่อจะได้ “ล็อกคอตีเข่า” ในเวลาต่อไป) ยูทูบเบอร์เหล่านี้กำลังทำผิดกฎหมาย ถึงขนาดถูกถอดออกจากการเป็นยูทูบเบอร์และอาจติดคุกได้

ปัจจุบันการเล่นพนันออนไลน์แบบเกมส์กำลังกระจายเป็นไฟไหม้ป่า วัยรุ่นตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยติดกันงอมแงม ตลอดจนเจ้าของกิจการ SME และลูกจ้าง วันหนึ่ง ๆ อาจได้เงินไปจากคนไทยนับร้อยล้านบาท อย่าลืมว่าสังคมไทยนั้นการพนันขึ้นสมองขนาดไหน วันที่ 1 และ 15 ของทุกเดือนที่หวยออก คนไทยทั้งประเทศจะมีพฤติกรรมผิดไปจาก 28 วัน ของเดือน

สถิติปี 2560 ระบุว่า 53.4% ของเยาวชนอายุระหว่าง 15-25 ปี เคยเล่นการพนัน และ 68.1% ของจำนวนเหล่านี้เคยเล่นการพนันมากกว่า 1 ประเภท (สูงที่สุดคือ 9 ประเภท) อายุต่ำสุดที่เล่นการพนัน คือ ชาย 7 ปี และหญิง 10 ปี (อายุเฉลี่ยของชายคือ 17.4 ปี และหญิง 18.1 ปี) สำหรับกลุ่มผู้เล่นพนันออนไลน์มีอายุตั้งแต่ 15-55 ปี และมีหลากหลายอาชีพ กลุ่มนิสิตนักศึกษาเป็นกลุ่มที่เพิ่มจำนวนผู้เล่นมากขึ้น (การเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงนี้โดยไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยตามปกติในหลายสถาบันเป็นเวลาทองของการเล่นพนันออนไลน์แบบเกมส์)

เกมส์พนันออนไลน์ผิดกฎหมายอย่างแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัยเพราะแค่มีการวาง เดิมพันและมีรางวัลตอบแทนก็เข้าข่ายการพนันแล้ว สิ่งที่เลวร้ายกว่าทำสิ่งผิดกฎหมายก็คือการถูก “มอมเมา” (ทำให้หลงผิดและหมกมุ่นในทางที่ผิด) การให้ผู้เล่นเสียเวลาไม่ไปทำกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ เสียเงิน บ่มเพาะการเกิดอาชญากรรม เช่น การปล้นจี้ ล่อลวงเงินจากคนใกล้ชิด ค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายเพื่อหาเงินมาเล่นการพนัน ฯลฯ

ในฝั่งผู้เล่นสิ่งที่สูญเสียคือเงินทอง โอกาสเข้าสู่อบายมุขอื่น เช่น ติดเหล้า สารเสพติด ติดบุหรี่ ฯลฯ สูงขึ้น ขาดความนับถือและความเชื่อถือจากคนรอบข้าง และเหนือสิ่งอื่นใดหากติดการพนันอย่างหนักก็จะเสียสุขภาพจิตอันเกิดจากผลกระทบต่อสมองจนอาจเกิดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ไปตลอดชีวิต

ในทางการแพทย์มีงานวิจัยมากมายที่พบว่าการหมกมุ่นและติดการพนันในวัยรุ่นสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมองได้เช่นเดียวกับยาเสพติด อีกทั้งขัดขวางการพัฒนาสมองและทักษะชีวิตอย่างถาวร กล่าวคือสมองส่วนหน้า (prefrontal cortex_PFC) ซึ่งเกี่ยวพันกับพฤติกรรมและความคิด การกำหนดบุคลิกภาพ พฤติกรรมทางสังคม ฯลฯ จะไม่มีเนื้อสมองเพิ่มขึ่น ไม่เกิดการพัฒนาอย่างถาวร จนอาจส่งผลต่อระบบการคิดและพฤติกรรมที่บกพร่องซึ่งจะติดตัวไปตลอดชีวิต

ผลพวงของการหมกมุ่นและติดการพนันคือความสามารถในการตัดสินใจลดลง เสี่ยงต่อโรคจิตเวช มีพฤติกรรมใช้เงินมือเติบ เสี่ยงต่อการมีพฤติกรรมลักขโมย ฉ้อฉล ฯลฯ บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องกำจัดหรือปราบปรามเกมส์พนันออนไลน์อย่างจริงจังเพราะสังคมมีแต่เสียกับเสีย

ไม่มีอะไรเขลาไปกว่าเล่นการพนันกับเจ้ามือที่เป็นทั้งผู้กำหนดกติกาและผู้กำหนดผลได้เสียของเกมส์อย่างลึกลับด้วยเทคโนโลยี อีกทั้งขาดการควบคุมในทุกลักษณะ เล่นปั่นแปะด้วยเหรียญยังมีโอกาสได้เงินมากกว่า

หมายเหตุ : ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ “อาหารสมอง” น.ส.พ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอังคารที่ 15 ก.ย. 2563